SHORT CUT
สรุปภารกิจ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน "อันวาร์ อิบราฮิม" เดินทางไปร่วมประชุมอาเซียน 18-19 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประเทศบรูไน ร่วมหารือกษัตริย์ฮัสซานัล โบลเกียห์ ถึงประเด็นร้อน อาทิ ปัญหาทะเลจีนใต้ ธุรกิจสีเทา และประเทศเมียนมา
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย โพสต์ภาพและคลิปวีดิโอภารกิจการประชุมอาเซียนบรูไน ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ที่ประเทศบรูไนดารุสซาลาม ในฐานะประธานอาเซียน ที่เดินทางไปพร้อมกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน โดยมีการเปิดเผยภารกิจที่สำคัญคือ การร่วมหารืออย่างไม่เป็นทางการกับสมเด็จพระราชาธิบดีฮัสซานัล โบลเกียห์ สุลต่านแห่งบรูไน ผู้นำอาเซียนที่อาวุโสที่สุด
ประเด็นเมียนมา ยังคงยึดมั่นตามฉันทมติ 5 ข้อในการหาทางออกจากวิกฤติความรุนแรงในประเทศเมียนมา และไม่ลดความพยายามที่จะดำเนินกระบวนการในการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังมีความกังวลถึงปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นจากเศรษฐกิจผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ และการฉ้อโกงที่แพร่ระบาดในวงกว้าง
เราได้หารือกันถึงแนวทางในการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขวิกฤตเมียนมาให้ก้าวไปข้างหน้าในทิศทางที่ดี และให้รัฐมนตรีต่างประเทศของแต่ละประเทศได้รับข้อมูลอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยถึงการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ที่มีการนำเสนอภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการที่จัดขึ้นที่ลังกาวีในเดือนมกราคม
ส่วนกรณีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ เราเห็นว่าควรมีความก้าวหน้าในการเจรจาทางการทูตแบบพหุภาคีมากขึ้น โดยหวังว่าจะสามารถสรุปการเจรจาเพื่อจัดทำแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ (ซีโอซี) ให้ได้โดยเร็ว
นอกจากนี้ยังหารือถึงการส่งเสริมการค้าภายในอาเซียนและส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้เพิ่มมากขึ้น การมีกรอบการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อธุรกิจ การขับเคลื่อนกลยุทธ์ในเรื่องนี้คือการส่งเสริมการไหลเข้าของเงินทุนที่คึกคัก และกระตุ้นการเติบโตภายในภูมิภาคที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นร่วมกัน
ในประเด็นสกุลเงินดิจิทัล เราได้หารือถึงความสำคัญของการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน Blockchain ที่เหมาะสม และการเปิดใช้งานการเข้าถึงดิจิทัลที่เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการพัฒนาที่แข็งแรงและทำให้เกิดความก้าวหน้าในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม การเดินทางครั้งนี้นายทักษิณได้ขออนุญาตต่อศาลอาญา โดยให้เหตุผลว่ามีเหตุจำเป็นตามคำร้องมีคำสั่งอนุญาตออกนอกประเทศระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. 2568 ตามคำเชิญของนายอันวาร์ ประธานอาเซียน และวางหลักประกันตาม 5 ล้านบาท และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย
แต่ศาลไม่อนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปยังประเทศ เวียดนาม เเละประเทศกัมพูชาในช่วงเวลาเดียวกัน (18-19 ก.พ.) โดยสาเหตุที่นายทักษิณยื่นขอไปเวียดนามเป็นคำเชิญจากนักธุรกิจซึ่งมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาหน่วยงานรัฐของเวียดนาม อ้างว่าเป็นการเชิญไปพูดคุยด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเเละด้านเศรษฐกิจ ส่วนของกัมพูชา เป็นคำเชิญจาก สมเด็จฮุน เซน ซึ่งทั้งหมดเป็นการเชิญในนามส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาล