SHORT CUT
สองบ้านใหญ่จัดเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงนายก อบจ.อุบลราชธานี "ทักษิณ" โดดขึ้นเวทีช่วย "กานต์ กัลป์ตินันท์" เบอร์ 1 หาเสียง ด้าน "มาดามกบ จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล" เบอร์ 3 ชูนโยบาย "ลองเปลี่ยนบ้าง" บ้านใหญ่เหมือนกันแต่อุดมการณ์ต่างกัน
สองบ้านใหญ่ "กัลป์ตินันท์" และ "หวังศุภกิจโกศล" จัดเวทีปราศรัยใหญ่ประชันศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี 11 ธันวาคม 2567 "กานต์" เบอร์ 1 ดึงนายทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเวทีช่วยหาเสียง ด้าน "มาดามกบ" เบอร์ 3 จัดเวทีที่อำเภอน้ำยืน ถิ่นพรรคไทรวมพลัง ชูนโยบาย "ลองเปลี่ยนบ้าง"
นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง เดินทางมาที่หอประชุมมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเพื่อพบปะประชาชน 4,000 คน โดยเนื้อหาในการปราศรัยบนเวทีตอนหนึ่งว่า ทำไมพรรคเพื่อไทยถึงให้ความสนใจเรื่องนายก อบจ. โดยเฉพาะการมาเยี่ยมพี่น้องคนอุบลฯ มาเพื่อขอบคุณชาวอุบล และนายเกรียง กัลป์ตินันท์เป็น สส. อยู่กับตนเองมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย และไม่เคยเปลี่ยนใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้ตอนที่ตนเองอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ก็นั่งเครื่องบินไปหาตลอดไม่ขาดหาย วันนี้มีความรู้สึกว่าถ้าไม่มาให้กำลังใจซึ่งนายเกรียงส่งน้องชายลงนายกฯ อบจ. แสดงว่าใช้ไม่ได้ จึงต้องมาให้กำลังใจก็หวังว่าพี่น้องชาวอุบลที่ยังรักและไม่ลืมผมคงจะช่วยกันให้กำลังใจ และเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้เสียเก้าอี้ สส. ไปบางเขต แต่คราวนี้อยากจะขอพี่น้องชาวอุบลฯ ว่าเอา “กานต์” กลับมาเป็นนายก อบจ. แล้วครั้งต่อไปและเอา สส. คืนให้เพื่อไทยและครั้งต่อไปเพื่อไทยจะเอานโยบายมาชุบชีวิตให้ทุกคนมีความสุข
นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลก็จริงอยู่แต่มี สส. น้อยไปจึงมีโควตารัฐมนตรีน้อยไปหน่อยทำให้ทำงานยากกว่าเดิม คราวหน้ามั่นใจว่าพี่น้องจะคืน สส.ให้พรรคเพื่อไทยเหมือนตอนไทยรักไทย คืนมาแล้วเราจะช่วยทำงานให้กับพี่น้องอย่างแน่นอน ซึ่งนายกฯ อิ๊งค์ก็ลุยเต็มที่วันพรุ่งนี้ให้คอยฟังนายกฯ พูดถึงผลงานและแนวทางที่จะทำข้างหน้าเชื่อว่าประชาชนจะสบายขึ้นแม้นายกฯ จะมาทำงานได้ 3 เดือนก็เข้าใจปัญหาและตั้งใจจะทำอะไรให้พี่น้อง
“ผมไม่อยู่ 17 ปี พี่น้องถูกขโมยความสุขไปหมด พร้อมกับผมโดนถีบไปอยู่ต่างประเทศ วันนี้กลับมาแล้ว กลับมาอยู่กับพี่น้อง กลับมาถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท แล้ววันนี้เราก็จะต้องมาทำงานให้บ้านเมืองให้ทุกคนได้มีความสุข มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนเองมีเงินมีเวลาแต่ยังพอมีแรงอยู่ มาอีสานทีไรคนอีสานให้กำลังใจก็มีแรงมากดังนั้นจึงต้องรับใช้คนไทยต่อไปไม่มีตำแหน่งแต่ก็รับใช้ พร้อมถามชาวบ้านว่าเดือดร้อนอะไรไหมให้คอยดูวันพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีจะแก้หนี้ครัวเรือนหนี้บ้านและหนี้รถยนต์ให้เอาสองเรื่องนี้ก่อน เพราะคนโดนยึดบ้านยึดรถยนต์คงรู้สึกไม่ดี
ส่วนวันที่ 13 นายทักษิณจะไปบรรยายให้กับ สส.และนักการเมืองที่หัวหินฟังจะพูดเรื่องสถานการณ์โลกปัจจุบันซึ่งน่าเป็นห่วงน่ากังวล ขอให้สื่อมวลชนติดตาม เพราะตนเองก็เป็นคนแก่มากที่สุดคนหนึ่งที่ อยู่การเมืองไทยสร้างประวัติศาสการเมืองมาเยอะ และเจ็บปวดกับการเมืองมาเยอะ ขณะเดียวกันก็ได้รับความเมตตาจากพี่น้องประชาชนมาเยอะวันที่ 13 จะไปเล่าสู่กันฟัง
นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี เบอร์ 3 พรรคไทรวมพลัง พร้อมด้วยนายวสวรรธน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลังและนายสมศักดิ์ บุญประชม สส.อุบลราชธานี เขต 10 มาร่วมขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่หน้าที่ว่าการอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี มีประชาชนมาฟังแน่นสนามกีฬาหน้าที่ว่าการอำเภอน้ำยืนซึ่งเป็นบ้านเกิดของพรรคไทรวมพลัง ประชันเวทีปราศรัยของผู้สมัคร นายกฯ อบจ. เบอร์ 1 นายกานต์
นางจิตรวรรณ กล่าวว่าภารกิจของนายก อบจ. มีงบประมาณมากมายแต่ถ้าใช้จ่ายถูกต้องก็จะพัฒนาอุบลราชธานี เลือกนายก อบจ. ครั้งนี้แม้เราจะเป็นพรรคเล็ก เป็นหน้าใหม่แต่การทำงานของเราไม่ใหม่มีหลายนโยบายที่จะพัฒนาและยกระดับชีวิตของคนอุบลราชธานีให้ดีขึ้นกว่าเดิม
และช่วงหลายสัปดาห์ที่ลุยหาเสียงในหลายพื้นที่ก็ไม่คิดว่าเป็นงานหนักทุกคนได้ช่วยเหลือช่วยประชาสัมพันธ์ วันนี้ดีใจที่น้องอำเภอน้ำยืนมาฟังปราศรัยฟังว่ามีนโยบายอะไรที่จะช่วยเหลือพวกเขาบ้าง วันนี้มาปราศัยในอุอุบลราชธานีโซนใต้ได้รับกำลังใจเป็นอย่างดี ส่วนสโลแกนที่ใช้ในการหาเสียงครั้งนี้ “ลองเปลี่ยนบ้าง” นั้น เริ่มต้นจากนโยบาย 3 ดี คือ ปากท้องดีกว่าเดิม สุขภาพดีกว่าเดิม การศึกษาดีกว่าเดิม ทีมงานจึงจุดประกายว่าควรจะเปลี่ยนไหม จึงเป็นที่มาของสโลแกน
หากครั้งนี้พี่น้องชาวอุบลไว้วางใจเลือกให้ตนเองได้เข้ามาทำงาน จะเปลี่ยนให้ปากท้องคนอุบลดีกว่าเดิม และการศึกษารวมถึงสุขภาพ ถ้าสามสิ่งนี้ดีชีวิตก็จะดีไปด้วยเพราะบางครั้งรัฐบาลส่วนกลางให้ท้องถิ่นดูแลประสิทธิภาพจะดีมากขึ้นกว่าที่ส่วนกลางดูแล ขอให้เชื่อใจและมั่นใจท้องถิ่นสามารถดูแลประชาชนในพื้นที่ได้
ส่วนที่วันนี้นายทักษิณ ชินวัตร มาช่วยผู้สมัครเบอร์ 1 หาเสียง ก็ดีใจที่อดีตนายกทักษิณ ซึ่งถือเป็นคนที่มีประสบการณ์อยู่แล้วได้ลงมาเห็นพื้นที่ จะได้ไปบอกนายกฯ ว่าคนอีสานขาดอะไรบ้าง จะได้มาเติมเต็มเพราะงบประมาณส่วนกลางมีอยู่มากมาย อย่าไปกระจุกอยู่แค่บางแห่ง โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานีเป็นเมืองหลวงของภาคอีสานอันดับสองน่าจะปั่นน้ำใจมาให้เราเยอะๆ เพราะคนอีสานเป็นคนที่รักใครแล้วไม่ลืม และหากใครดูแลคนอีสานก็รัก
นางจิตรวรรณ ย้ำว่าแม้ตนเองจะมาจากบ้านใหญ่ หวังศุภกิจโกศล แต่อย่าเหมารวมเพราะการเมืองอุดมการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งตนเองทำงานเป็นที่ปรึกษาของพรรคไทรวมพลัง โดยไม่ได้ทิ้งพี่น้องประชาชน ส่วนบ้านใหญ่ที่โคราชแม้จะนามสกุลเดียวกัน แต่เขามีความชัดเจนอยู่แล้วเราแยกจากกันโดยสิ้นเชิง ความเป็นพี่น้องมีอยู่ในสายเลือด แต่ในเรื่องการเมืองจะเอามา เหมารวมว่าเป็นพรรคนอมินี พักเครือข่าย หรือพี่น้องแตกกันมาขอยืนยันว่าไม่ใช่ เราทำงานกันคนละพรรคทำงานก็แยกกันโดยสิ้น ว่าการเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ครั้งนี้จะได้รับเลือกให้เข้ามาทำงานก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธาของคนอุบลราชธานีจะไว้วางใจให้ตนเองมากน้อยแค่ไหน