svasdssvasds

รวมเหตุ ส.ป.ก. พ่นพิษ เปลี่ยนชีวิตนักการเมือง

รวมเหตุ ส.ป.ก. พ่นพิษ เปลี่ยนชีวิตนักการเมือง

รวมเหตุ ส.ป.ก. พ่นพิษ เปลี่ยนชีวิตนักการเมือง ทำเอาหลายคนจบสิ้นเส้นทางการเมือง แต่ก็สะท้อนสังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำและการโกงกิน

SHORT CUT

  • ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐโดยเฉพาะที่ดิน ส.ป.ก. เป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมไทย บ่อยครั้งที่ข่าวคราวเกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินเหล่านี้เกี่ยวข้องกับนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล ทำให้เกิดคำถามถึงความยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำในสังคม

  • ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือกรณีของนักการเมืองหลายคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานบุกรุกป่า

  • กรณีของ “ไร่ภูนับดาว” ที่พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปยังบุคคลใกล้ชิดนักการเมือง กรณีนี้ทำให้เกิดคำถามว่า "เส้นใหญ่" ยังคงมีอิทธิพลเหนือกฎหมายหรือไม่

     

     

     

     

     


     

รวมเหตุ ส.ป.ก. พ่นพิษ เปลี่ยนชีวิตนักการเมือง ทำเอาหลายคนจบสิ้นเส้นทางการเมือง แต่ก็สะท้อนสังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำและการโกงกิน

รวมเหตุ ส.ป.ก. พ่นพิษ เปลี่ยนชีวิตนักการเมือง

ผืนแผ่นดินนี้ ใครเป็นเจ้าของ ? คำถามที่ดังก้องอยู่ในใจใครหลายคน เมื่อข่าวคราวการรุกที่ดิน ส.ป.ก. ปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เส้นบางๆ ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม กลายเป็นเพียงเส้นยาแดงผ่าซีก ยามเมื่ออำนาจและเงินตราเข้ามาเกี่ยวข้อง นักการเมืองผู้ทรงเกียรติ กลับถูกตั้งคำถามถึงความซื่อตรง บุคคลใกล้ชิด ถูกเชื่อมโยงด้วยเส้นทางการเงินที่น่าสงสัย "หวานใจ" บุคคลปริศนา ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญไขปริศนาทั้งหมด

รวมเหตุ ส.ป.ก. พ่นพิษ เปลี่ยนชีวิตนักการเมือง

ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย สะท้อนชัดผ่านคดีความที่ดิน คนจนไร้ที่ทำกิน ถูกดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว ขณะที่ ผู้มีอำนาจ กลับครอบครองที่ดินของรัฐนับร้อยไร่ โดยอ้างความบริสุทธิ์ใจ กฎหมาย ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นงานฝ่ายตรงข้าม จริยธรรม กลายเป็นเพียงข้ออ้าง ความยุติธรรม หาได้ยากยิ่งในสังคมที่อำนาจและเงินตราครอบงำ

ประเทศไทยจะน่าอยู่มากขึ้น หากคนผิดว่าไปตามผิด คนถูกว่าไปตามถูก แต่นั่นจะเป็นจริงได้อย่างไร ในเมื่อ “เส้นใหญ่” ยังคงร่ายมนต์ดำครอบงำสังคมไทย

‘การ์มองเต้’ เอฟเฟ็กต์กระทบภาพลักษณ์รัฐบาลหลังออกแคมเปญ ‘ทวงคืนผืนป่า’

ในยุคหนึ่ง คสช. ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา มี พล.อ.ประวิตร เคียงข้าง มีโครงการทวงคืนผืนป่า โดยโครงการทวงคืนผืนป่า เป็นนโยบายของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่เริ่มต้นในปี 2557 เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าโดยนายทุน โดยมีการออกคำสั่ง คสช. ที่ 64/2557 เพื่อดำเนินการทวงคืนพื้นที่ป่า 

รวมเหตุ ส.ป.ก. พ่นพิษ เปลี่ยนชีวิตนักการเมือง

แต่กระนั้นเมื่อมีการฟอร์มพรรคขึ้นมา พรรคพลังประชารัฐ พรรคสืบทอดอำนาจ คสช. กัลบจัดสัมมนาพรรค รีสอร์ท "88 การ์มองเต้" สถานที่จัดสัมมนา สส. ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยถูกกรมอุทยานฯ ดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่าอุทยานฯ ทับลานพรรคพลังประชารัฐจัดสัมมนา สส. ที่ "88 การ์มองเต้"

ในวันที่ 21-22 กรกฎาคม 2562 พรรคพลังประชารัฐได้จัดงานสัมมนา สส. ที่รีสอร์ท 88 การ์มองเต้ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา"88 การ์มองเต้" เคยถูกดำเนินคดีบุกรุกป่า: รีสอร์ทดังกล่าวเคยถูกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน มาแล้ว 2 ครั้ง

ครั้งแรกในปี 2555: พบสิ่งปลูกสร้าง 3 รายการ

ครั้งที่สองในปี 2560: พบการบุกรุกพื้นที่เพิ่ม 34 ไร่ และสิ่งปลูกสร้าง 18 รายการ

โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด หลังผู้ประกอบการยื่นขอคุ้มครองชั่วคราว รีสอร์ทดังกล่าวเป็นของบริษัท 88 การ์มองเต้ จำกัด ซึ่งมีบุตรของนายวรวิทย์ เจนธนากุล และนางมาลี เจนธนากุล เป็นกรรมการบริษัท

บุตรของเจ้าของเป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ชื่อดัง: นายวราวุธ และ น.ส.วรางคณา สองในสามกรรมการบริษัท เป็นผู้บริหารบริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ชื่อดังหลายรายการ

หน่วยงานต่างๆ ใช้เป็นสถานที่จัดงาน: ที่ผ่านมามีหน่วยงานราชการและเอกชนหลายแห่งใช้ "88 การ์มองเต้" เป็นสถานที่จัดประชุมสัมมนา

การเลือกใช้สถานที่จัดสัมมนา สส. ของพรรคพลังประชารัฐที่รีสอร์ท "88 การ์มองเต้" ซึ่งมีคดีความเกี่ยวกับการบุกรุกป่า เป็นประเด็นที่น่าสนใจ และอาจทำให้เกิดคำถามถึงความเหมาะสม รวมถึงเป็นการทำลายเครดิตในยุคที่ คสช. พยายามทวงคืนผืนป่าด้วย

 ‘ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์’ รุกป่าโดนฟันจำคุก 50 ปี

คดีของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต สส. กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในคดีบุกรุกป่า ซึ่งศาลฎีกาได้ตัดสินจำคุก 50 ปี

ศาลฎีกาตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ไวพจน์ 50 ปี โดย ในวันที่ 30 ม.ค. 2563 ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขที่ 5518/2562 โดยตัดสินให้จำคุก พ.ต.ท.ไวพจน์ เป็นเวลา 50 ปี ในความผิดฐานรุกป่า

รวมเหตุ ส.ป.ก. พ่นพิษ เปลี่ยนชีวิตนักการเมือง

ความผิดของ พ.ต.ท.ไวพจน์ ถูกตัดสินว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และประมวลกฎหมายที่ดิน ศาลตัดสินว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ มีความผิดฐานร่วมกันทำไม้หวงห้ามประเภท ข, ร่วมกันครอบครองที่ดินป่าสงวน, ร่วมกันทำป่าไม้, ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป และร่วมกันแปรรูปไม้หวงห้าม

โทษจำคุกแบ่งเป็น ฐานร่วมกันทำป่าไม้ 14 ปี, ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งไม้หวงห้าม 14 ปี, ฐานร่วมกันแปรรูปไม้หวงห้าม 12 ปี และฐานร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครอง 12 ปี รวม 50 ปี

ขณะที่ในวันที่ศาลอ่านคำพิพากษา พ.ต.ท.ไวพจน์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด ขณะนี้ตัวเขากำลังหลบหนีคดีอยู่

คดีของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ

‘ปารีณา ไกรคุปต์’ จบชีวิตการเมือง ไม่มีไก่ให้เลี้ยง 

น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. โดยมิชอบ ซึ่งศาลฎีกาตัดสินว่ามีความผิดฐานฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

คดีนี้เริ่มต้นจากการที่ น.ส.ปารีณาตั้งคำถามถึงการครอบครองที่ดินของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทำให้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบที่ดินของ น.ส.ปารีณา เช่นกัน

ผลการตรวจสอบ กรมป่าไม้พบว่าที่ดินของ น.ส.ปารีณา บางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวน และ ป.ป.ช. มีมติว่า น.ส.ปารีณา ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

รวมเหตุ ส.ป.ก. พ่นพิษ เปลี่ยนชีวิตนักการเมือง

ศาลฎีกาตัดสินว่า น.ส.ปารีณา มีความผิดจริง ต้องพ้นจากตำแหน่ง สส. และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รวมถึงเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี

ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์หลายอย่าง เช่น การครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. โดยไม่มีคุณสมบัติ การไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน และการเป็น สส. ซึ่งควรเป็นแบบอย่างที่ดีแต่กลับไม่เคารพกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง 

ขณะที่ น.ส. ปารีณา อ้างว่าได้รับที่ดินต่อจากบิดา และไม่ทราบว่าเป็นที่ดิน ส.ป.ก. เธอมองว่าคำตัดสินรุนแรงเกินไป

ด้านนายทิวา การกระสัง ทนายความของ น.ส. ปารีณา ยอมรับคำตัดสินแต่เชื่อว่า น.ส. ปารีณาไม่ได้บุกรุกป่า

รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต และมองว่ามาตรฐานจริยธรรมควรเป็นเรื่องภายในองค์กร ไม่ใช่เรื่องของศาล

คดีนี้เป็นคดีแรกที่ศาลฎีกาตัดสินว่า สส. ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง และอาจเป็นบรรทัดฐานสำหรับคดีอื่นๆ ในอนาคต

ขณะเดียวกัน น.ส.ปารีณา ยังมีคดีความอื่นๆ รออยู่อีก เช่น คดีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ และคดีบุกรุกที่ดินป่าสงวน

คดีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับจริยธรรมของนักการเมือง และกระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในสังคม

‘กนกวรรณ วิลาวัลย์’ พ้นเก้าอี้รัฐมนตรี ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต ปม รุกป่าเขาใหญ่

คดีของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พรรคภูมิใจไทย ที่ถูกศาลฎีกาตัดสินว่ามีความผิดฐานรุกป่าเขาใหญ่ และตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ศาลฎีกาได้พิพากษาคดีหมายเลขดำที่ คมจ. 2/2564 ให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นับตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2565

ศาลฎีกาตัดสินให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดไป รวมถึงไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 (3) (4) และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี นับแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566

ศาลฎีกาตัดสินว่านางกนกวรรณกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เนื่องจากได้ที่ดินมาโดยมิชอบ

ด้าน นางกนกวรรณ อ้างว่าได้ซื้อที่ดินมาจากนายทิว มะลิซ้อน ตั้งแต่ปี 2533 และทำประโยชน์ในที่ดินด้วยการทำสวน ปลูกมะม่วง กระท้อน แต่จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศพบว่าไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ใดๆ

ศาลเห็นว่าการที่ นางกนกวรรณ ขอออกโฉนดที่ดินโดยไม่มีคุณสมบัติ และยังถือครองโฉนดที่ดินดังกล่าวมาจนถึงวันที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเอง

ศาลฎีกาเห็นว่าแม้การกระทำดังกล่าวจะไม่ได้เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยตรง แต่อาจทำให้สาธารณชนขาดความเชื่อถือศรัทธาต่อการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

คดีของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ เป็นอีกหนึ่งกรณีที่แสดงให้เห็นว่าศาลไทยเอาจริงเอาจังกับการลงโทษนักการเมืองที่กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ

‘หวานใจ บิ๊กการเมือง’ ที่แตะไม่ได้

ล่าสุดมีข่าวกรณีรีสอร์ทรุกที่ดิน ส.ป.ก. โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกบุคคลใกล้ชิดนักการเมืองคนสำคัญ หลังพบเส้นทางการเงิน 10 ล้านบาท เชื่อมโยงกับรีสอร์ทที่รุกที่ดิน ส.ป.ก.

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าการดำเนินคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นการตรวจสอบและขยายผลไปยังเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ

คดีนี้เริ่มต้นจากการตรวจสอบ “ไร่ภูนับดาว” ที่พบการทุจริตในการออกเอกสารสิทธิ์โดยข้าราชการระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จากนั้นจึงพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปยังบุคคลใกล้ชิดนักการเมือง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่าเงินจำนวน 10 ล้านบาทถูกโอนเป็นงวด งวดละ 2 ล้านบาท

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าคดีนี้จะดำเนินไปตามพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และข้อกฎหมาย ใครผิดก็ต้องรับโทษ โดยจะออกหมายเรียกบุคคลใกล้ชิดนักการเมืองดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อชี้แจงที่มาของเงินจำนวนนี้

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ข่าวอื้อฉาวของนักการเมืองกับการรุกที่ดินของรัฐปรากฏสู่สายตาประชาชน "เส้นใหญ่" ราวกับมนต์ดำที่แผ่ปกคลุม คุ้มครองผู้มีอำนาจให้อยู่เหนือกฎหมาย "โครงการทวงคืนผืนป่า" ของ คสช. ที่เคยสร้างความหวัง กลับถูกตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพ เมื่อนักการเมืองยังคงลอยนวล

"ปารีณา ไกรคุปต์" อดีต สส. ราชบุรี ถูกศาลฎีกาสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และ "ประหารชีวิตทางการเมือง" จากคดีครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. โดยมิชอบ "กนกวรรณ วิลาวัลย์" อดีต รมช.ศึกษาธิการ ก็ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่งเช่นกัน ฐานรุกป่าเขาใหญ่ พร้อมโทษตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต แต่โทษทางกฎหมายที่รุนแรง ก็ไม่อาจลบภาพลักษณ์ของนักการเมืองที่ใช้อำนาจในทางมิชอบ

ล่าสุด "หวานใจ" ของอดีตรองนายกรัฐมนตรี ถูกเชื่อมโยงกับคดีรีสอร์ทรุกที่ดิน ส.ป.ก. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เตรียมออกหมายเรียกบุคคลใกล้ชิดนักการเมืองคนดังกล่าว หลังพบ "เส้นเงิน" 10 ล้านบาท โอนเป็นงวด งวดละ 2 ล้านบาท "ไร่ภูนับดาว" กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเปิดโปงขบวนการทุจริตของข้าราชการ คำถามที่ตามมาคือ "บิ๊กเนม" ผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้คือใคร?

"ข้อกฎหมาย" และ "หลักฐานทางวิทยาศาสตร์" คือสิ่งที่ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ย้ำว่าจะใช้ในการดำเนินคดี แต่ในสังคมที่อำนาจและเงินตรามีอิทธิพลเหนือสิ่งอื่นใด ความยุติธรรมจะยังคงอยู่หรือไม่? "คนผิดว่าไปตามผิด คนถูกว่าไปตามถูก" จะเป็นเพียงวาทกรรมเลื่อนลอยหรือไม่?

อนาคตของประเทศไทย อยู่ในมือของคนไทยทุกคน ที่ต้องลุกขึ้นมาทวงคืนความยุติธรรม และสร้างสังคมที่ทุกคนเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง

อ้างอิง

กรุงเทพธุรกิจ / กรุงเทพธุรกิจ 1 /ปารีณา / BBC / Thai / Thai1 / Thai2 / ฐานเศรษฐกิจ / อิศรา / ออนไลน์ / การเมือง /

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related