svasdssvasds

“พาณิชย์” ขานรับนโยบายนายกฯ ชูไทยเป็นคลังอาหารของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

“พาณิชย์” ขานรับนโยบายนายกฯ ชูไทยเป็นคลังอาหารของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

“พาณิชย์” ขานรับนโยบาย “นายกฯ” ชูไทยเป็นคลังอาหารของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เสริมความมั่นคงทางอาหารโลก (Food Security) พร้อม ผลิตสินค้า-เก็บรักษา-ส่งทันที 24 ชั่วโมง

SHORT CUT

  • นายกฯ แสดงวิสัยทัศน์ เสนอแนวคิดความมั่นคงทางอาหาร ในภาวะที่ความไม่สงบในบริเวณกลุ่มประเทศใตะวันออกกลาง 
  • โดยไทยเสนอที่จะผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายและเก็บรักษาพร้อมส่งมอบให้กับกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางทันทีภายใน 24 ชม.
  • "พิชัย" ขานรับนโยบายนายกฯ พร้อมสานต่อความร่วมมือกับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเพื่อรับมือความมั่นคงทางอาหารต่อไปให้สำเร็จ

“พาณิชย์” ขานรับนโยบาย “นายกฯ” ชูไทยเป็นคลังอาหารของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เสริมความมั่นคงทางอาหารโลก (Food Security) พร้อม ผลิตสินค้า-เก็บรักษา-ส่งทันที 24 ชั่วโมง

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุม ACD Summit ครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงบทบาทผู้นำของประเทศไทยอย่างยอดเยี่ยม และเป็นที่ชื่นชมของผู้นำต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งมีผู้นำหลายประเทศมาขอร่วมถ่ายภาพด้วย และล่าสุดติดอันดับ 100 ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคตของนิตยสาร TIME ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์ โดยเสนอว่าในภาวะที่ความไม่สงบและมีความผันผวนในบริเวณกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ที่อาจจะทวีความรุนแรงขึ้นได้ จึงได้เสนอแนวคิดความมั่นคงทางอาหาร (Food Security)

โดยประเทศไทยจะเสนอเป็นประเทศที่จะผลิตอาหารเพื่อจำหน่าย อีกทั้งเก็บรักษาพร้อมส่งมอบให้กับกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางทันทีภายใน 24 ชม. หากมีความรุนแรงและความขาดแคลนในอาหารในกลุ่มประเทศดังกล่าว สามารถทำให้มั่นใจได้ว่าประชาชนในกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางจะไม่ขาดแคลนอาหาร ทำให้ประเทศต่างๆให้ความสนใจอย่างมาก เช่น UAE,  Qatar, Kuwait, Oman เป็นต้น โดยประเทศไทยจะสามารถขายสินค้าเกษตรและอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานและเก็บรักษาในประเทศไทยพร้อมส่งมอบทันทีให้กับประเทศในตะวันออกกลาง

“พาณิชย์” ขานรับนโยบายนายกฯ ชูไทยเป็นคลังอาหารของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

นายพิชัย กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์​ สานต่อความร่วมมือด้านการสร้างคลังอาหารกับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเพื่อรับมือกับความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ต่อไปให้สำเร็จ โดยตนได้มีโอกาสหารือกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศโอมาน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและส่งเสริมโอกาสความร่วมมือการค้าและการลงทุนระหว่างกัน รวมทั้งแสดงความพร้อมของไทยในการผลิตอาหารที่มีคุณภาพเพื่อเป็นคลังอาหารให้แก่ทั้งสองประเทศเพื่อเสริมความมั่นคงทางอาหาร

นอกจากนี้นายพิชัย ได้หารือกับดร.ธานี บินอาเหม็ด อัลเซ ยูดี (Dr. Thani Bin Ahmed Al Zeyoudi) รัฐมนตรีแห่งรัฐประจำกระทรวงเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยกล่าวว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 1 ของไทยในตะวันออกกลาง และไทยได้แสดงความพร้อมและศักยภาพที่จะเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จึงได้เชิญชวนมาลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและสินค้าเกษตรของไทย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังแสดงเจตนารมน์ที่จะสรุปผลการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-ยูเออี ในโอกาสแรก

“พาณิชย์” ขานรับนโยบายนายกฯ ชูไทยเป็นคลังอาหารของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

โดย นายพิชัย ยังได้หารือกับ ดร.ซาอิด โมฮัมเหม็ด (Dr. Said Mohammed Al-Saqri) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจโอมาน เพื่อพูดคุยหารือแนวทางการขยายการค้าระหว่างกัน ทางฝ่ายโอมานได้ชื่นชมพัฒนาการด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและการนำ AI มาใช้ในภาคธุรกิจของไทย และเห็นว่าสองฝ่ายควรร่วมมือกันเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยฝ่ายโอมานแสดงความสนใจต่อบทบาทการเป็นคลังอาหารให้แก่โอมาน พร้อมทั้งเชิญชวนโอมานเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ฝ่ายโอมานแสดงความประสงค์ที่จะจัดทำความตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างกันเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนอีกด้วย

“กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของท่านนายกฯ ซึ่งได้เชิญชวน และแสดงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นคลังอาหารให้กับประเทศตะวันออกกลาง โดยในการหารือทวิภาคีวงต่างๆ ระหว่างผมกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ก็ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของไทยในการผลิตอาหารและการมีสินค้าฮาลาลคุณภาพสูง โดยประเทศต่างๆ มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย และใช้ไทยเป็นคลังอาหารเพื่อจัดหาและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังประเทศในตะวันออกกลาง เพื่อเสริมความมั่นคงทางอาหาร” นายพิชัยกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related