"ปิยบุตร" ยกสถิติ คำวินิจฉัย" ศาลรธน." ส่งผลกระทบทางการเมือง ปลดนายกฯ 3 คน ยุบพรรค 5 ครั้ง ขวางการแก้รธน. 2 ครั้ง ล้มเลือกตั้ง 2 ครั้ง ปลด ส.ส.อีกหลายครั้ง
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ทำให้ประเทศไทยต้องหานายกรัฐมนตรีคนใหม่มาดำรงตำแหน่ง
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า
แต่กลับเงียบสงัดชนิดเข็มตกลงพื้นยังได้ยินเสียง สมัยรัฐประหารปกครองประเทศ
ดังนั้นการต่อสู้กับศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นภารกิจอันจำเป็นที่ต้องร่วมมือกัน
ประชาชนแต่ละคนทำไม่ได้ เพราะ ไม่มีอำนาจรัฐในมือ ทำได้แต่เพียงส่งเสียง และกดดัน
พวกที่ทำได้ คือ นักการเมืองในสภา
ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองต้องจัดการสู้/โต้กับศาลรัฐธรรมนูญ
อย่ามัวแต่สวมวิญญาณ "นักร้อง" ร้องศาล รธน เพื่อจัดการนักการเมืองด้วยกัน
พอกันทีกับการทำตนเป็น "ไก่ในเล้า" จิกตีกันเอง รอให้พวกเขาเลือกไก่ไปเชือดทีละตัว
หยุดเสียทีกับการออกมายืนกุมเป้า เปล่งวาจา ”น้อมรับคำวินิจฉัย“ แล้วก็กลับบ้านไปพักผ่อน ส่งคนอื่นๆเข้ามารับบทต่อ
แต่นักการเมืองต้องรวมพลังกันจัดการศาลรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจที่ตนมี
ยกเลิกการยุบพรรค
ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ หรือเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและที่มาเสียใหม่
ยกเลิกความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
ยกเลิกอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ของ ส.ส./รมต.
ยกเลิกอำนาจการตรวจสอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นักการเมืองต้องแบกรับภารกิจเหล่านี้
ถ้านักการเมืองในสภารอบนี้ ไม่คิดทำ แต่เลือกกลับไปสมคบสุงสิงกับพวกชนชั้นนำ เลือกหนทาง “อยู่เป็น” หรือร้องขอความเมตตาจากพวกเขา เพื่อขอใบอนุญาตใบที่สองให้ตนได้เป็นรัฐมนตรี กันแบบเดิมๆแล้วล่ะก็
หนทางเดียวที่ "ประชาชน" มีคือ "ประชาชน" เลือก "ประชาชน" เข้าไปจัดการ
และถ้า "ประชาชน" โดนจัดการ เอาคืน ทุบ ยุบ ปราบ อีก
"ประชาชน" ก็จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้ "ประชาชน"
สุกงอมเพียงพอที่จะเดินหน้าไปสู่สิ่งที่ไม่เคยเห็นในประเทศไทยมาก่อน
ที่มา : Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง