ครม.ไฟเขียว เดินหน้านโยบายท่องเที่ยว เพิ่มวีซ่าฟรีจาก 57 เป็น 93 ประเทศ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวมาไทย มั่นใจดึงเม็ดเงินเข้าประเทศถึง 1 ล้านล้านบาท
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการและแนวทางในการตรวจลงตราและส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะที่ซบเซาเรื้อรังยาวนาน และตัวเลขฟ้องว่าจีดีพีโตต่ำกว่าศักยภาพของประเทศ และต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงหนี้สาธารณะเพิ่มมากขึ้น
ที่ประชุม ครม. จึงมีข้อสรุปตรงกัน คือประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างรายได้ใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการเร่งเดินหน้านโยบายด้านการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจตัวเดียวที่จะให้ผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว สามารถแก้ปัญหาระยะสั้นได้ โดยสิ้นปี 2567 รัฐบาลจะเร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท
การจะไปให้ถึงเป้าหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยการกำหนดมาตรการเชิงรุกเรื่องของการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เรียกได้ว่ารัฐบาลเดินหน้าเข้าเกียร์ 5
ประเทศที่ได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา สามารถพำนักในประเทศไทยไม่เกิน 60 วัน เพื่อการท่องเที่ยว การติดต่อธุรกิจและการทำงานระยะสั้น จากเดิม 57 ประเทศ เป็น 93 ประเทศ เช่น อันดอร์รา ออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยียม บาห์เรน บรูไน แคนาดา เช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ฯลฯ
พร้อมปรับปรุงรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival: VOA) จากเดิม 19 ประเทศ เป็น จำนวน 31 ประเทศ ได้แก่ อาร์เมเนีย เบลารุส บัลแกเรีย ภูฏาน โบลิเวีย จีน คอสตาริกา ไซปรัส เอลซัลวาดอร์ เอธิโอเปียฟีจี จอร์เจีย อินเดีย คาซัคสถาน คีร์กีซ มอลตา เม็กซิโก นามิเบีย นาอูรู ปาปัวนิวกินี ปารากวัย ฯลฯ
เพิ่มการตรวจลงตราประเภทใหม่ Destination Thailand Visa (DTV) เพื่อให้คนต่างด้าวประสงค์จะพำนักในประเทศไทยเพื่อทำงานและท่องเที่ยวไปพร้อมกัน (workcation) มีคุณสมบัติและสิทธิประโยชน์
ครม.ยังเห็นชอบปรับปรุงสิทธิสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนระดับปริญญาตรีขึ้นไป ที่ได้รับการตรวจลงตรา Non-Immigrant Visa รหัส ED. เป็นอำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาต่างชาติที่กำลังศึกษาหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศไทย เพื่อดึงดูดผู้ที่มีศักยภาพและทักษะเข้าสู่ตลาดแรงงานของประเทศ และขยายเวลาพำนักในประเทศไทยหลังสำเร็จการศึกษา 1 ปี เพื่อหางาน เดินทางท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมอื่นๆ โดยต้องมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ประกอบด้วย 3 มาตรการ เริ่มใช้เดือนกันยายน - เดือนธันวาคม 2567 ได้แก่
เริ่มใช้เต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบ Electronic Travel Authorization (ETA) สำหรับกลุ่มคนต่างด้าวที่ได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา เป็นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองคนต่างด้าว โดยการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
“มาตรการอำนวยความสะดวกเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว จะเป็นเหตุให้กระทรวงการต่างประเทศสูญเสียรายได้แผ่นดินปีละประมาณ 12,300 ล้านบาท ถือว่ายอดเงินไม่น้อย แต่หากเทียบกับผลตอบแทนที่จะได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเราเล็งไปที่ระดับ 8 แสนล้านบาท - 1 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมครม. เห็นชอบ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง