svasdssvasds

มติ สว. เห็นชอบกฎหมาย "สมรสเท่าเทียม" ไว้พิจารณา ตั้ง กมธ.ศึกษา 27 คน

มติ สว. เห็นชอบกฎหมาย "สมรสเท่าเทียม" ไว้พิจารณา ตั้ง กมธ.ศึกษา 27 คน

สว.ทิ้งทวน ก่อนหมดวาระ มีมติ147 ต่อ 4 รับกฎหมาย "สมรสเท่าเทียม" ไว้พิจารณาต่อจาก สส. ตั้ง กมธ. วิสามัญ 27 คน ศึกษา ขณะที่ สว. แนะ องค์กรศาสนา ต้องทำความเข้าใจว่านี่ไม่ใช่การบังคับ แต่เพื่อให้โอกาส คู่รักเพศเดียวกันสร้างครอบครัวโดยสมัครใจ

ที่ประชุมวุฒิสภาวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งท้ายของสมัยประชุมนี้ ก่อนที่จะปิดสมัยประชุม ในวันที่ 9 เมษายน และจะเป็นครั้งสุด ของ สว.ชุดนี้ก่อนจะหมดวาระ ในวันที่ 10 พฤษภาคม และจะเปลี่ยนสถานะเป็น สว.รักษาการณ์ โดยมีวาระพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ เพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งแลพาณิชย์ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเสร็จแล้ว และส่งต่อมาให้วุฒิสภา พิจารณาต่อให้แล้วเสร็จ ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ สภาผู้แทนราษฎรส่งมาให้

โดยนายวันชัย สอนสิริ สว.ในฐานะ กรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม ย้ำว่า ต้องพิจารณากฎหมายฉบับนี้อย่างรอบคอบ เพราะเป็นการรับรองการก่อตั้ง ครอบครัวที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งถูกมองว่า นี่เป็นการดำเนินการที่ขัดกับหลักการของบางศาสนา เพราะมีไม่กี่ประเทศ ที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม และประเทศมุสลิม ก็ไม่รับรอง ซึ่งเป็นละเอียดอ่อน ต่อการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ควรพิจารณากฎหมายฉบับนี้อย่างรอบคอบ

กฎหมายฉบับนี้ เป็นการรับรองสิทธิ์ ในการก่อตั้งครอบครัว ที่มีความหลากหลายทางเพศ อาจขัดต่อคำสอบของบางศาสนา แต่กฎหมายหมายฉบับนี้ไม่ได้บังคับ แต่เป็นเป็นการเปิดโอกาสให้ใช้สิทธิ์ที่สามารถทำได้ ดังนั้น หากเห็นว่า ขัดต่อคำสอนของศาสนาที่ตัวเองนับถือก็ไม่ต้องทำก็ได้

ผลกระทบเชิงศีลธรรม กรรมาธิการมีข้อสังเกต เช่นปัญหาการค้ามนุษย์ การล่วงละเมิดทางเพศ ลักลอบอุ้มบุญ และข้อจำกัดในการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา กรรมาธิการเห็นว่า ควรมีการสร้างการรับรู้

 

ในกลุ่มที่นับถือศาสนาที่มีพระเจ้าองค์เดียวเพื่อให้เกิดการยอมรับว่า กฎหมายนี้เป็นการขยายสิทธิ์ ในการก่อตั้งครอบครัว ทั้งนี้องค์ทางศาสนาที่เกี่ยวข้อง ควรมีบทบาทในการสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง ต่อหลักการทางศาสนา และควรมีบทบาทในการป้องกันข้อพิพาททางความคิดที่อาจเกิดขึ้นในสังคมด้วย

ประเด็นทางสังคมควรมีการกำหนดนโยบาย ส่งเสริมความสัมพันธ์ คู่สมรสที่มีเพศเดียวกัน หรือข้ามเพศ รวมทั้งความสัมพันธ์ ระหว่าง ผู้ปกครองและบุตรบุญธรรมที่จดทะเบียนรับรอง ควรมีสิทธิ ศักดิ์ศรี และเป็นผู้สืบทอดวงศ์ตระกลู เทียบเท่าบุตรทั่วไป ที่สำคัญ ต้องมีการเตรียมความพร้อมรองรับปัญหาที่อาจจะตามมาหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ ที่สอดคล้องกับความเชื่อ ขนบธรรมเนียม อัตลักษณ์ ความเชื่อ และ ประเพณีของสังคมไทย

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. มองว่า กฎหมายฉบับนี้ มีความสำคัญ ที่หลายคนรอคอย และให้ความสนใจ ยืนยันว่า ตนเองสนับสนุน กฎหมายฉบับนี้ แต่ สว. จะพิจารณาด้วยเหตุผล ไม่ใช่ตามกระแสสังคม พิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้คนทุกกลุ่มอยู่ร่วมกันได้ในสังคมเดียวกัน อย่างยั่งยืน และมีความสุข

หลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ไปแล้ว ต้องมีการรวบรวมปัญหา และอุปสรรค มาปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนั้น และป้องกันปัญหาที่อย่างจะเกิดขึ้นตามมา เช่น ให้มีการอยู่ด้วยกันก่อน อย่างน้อย 6 เดือนก่อน มีการจดทะเบียนสมรส

พลตำรวจโทสานิตย์ มหถาวร สว. อยากให้ กรรมาธิการปรับแก้ช่วงอายุในการสมรสเป็น 20 ปี เพื่อป้องกันปัญหาสังคมที่จะตามมา เช่น การล่วงละเมิดทางเพศ และอยากให้กฎหมายฉบับนี้มีผลทันที ไม่จำเป็นต้องรอ 180 วัน เพราะมีคนจำนวนไม่น้อย ที่รอคอยกฎหมายฉบับนี้อยู่ ได้ใช้กฎหมายนี้โดยเร็วที่สุด ส่วนกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องแก้ไขตาม คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เช่น การเปลี่ยนแบบฟอร์ม ในระบบราชการเป็นต้น

นายรวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล สว. มีความห่วงกังวล ในประเด็นการรับบุตรบุญธรรม ว่า เด็กกลุ่มนี้จะมีสิทธิเท่าเทียมกับเด็กทั่วไปหรือไม่ เช่น สิทธิการเบิกค่าเล่นเรียน ค่ารักษาพยาบาล มรดก เพราะจากที่ตรวจสอบในกฎหมายยังเขียนไว้ไม่ชัดเจน

นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนรัฐบาล ย้ำว่า การนำเสนอกฎหมายฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ให้มีการจดทะเบียนของ คน 2 คนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันเท่านั้น ส่วนบุตรบุญธรรม เป็นเรื่องของ พ.ร.บ.รับบุตรบุญธรรมที่ กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์รับผิดชอบ  ส่วนสิทธิของเด็ก เป็นกฎหมายสิทธิของบุตร และบุตรบุญธรรม ที่ต้องไปดำเนินการต่อ โดย กฎหมายฉบับนี้ ไม่ได้เข้าไปก้าวล่วงสิทธิของบุตรบุญธรรม 

ด้าน ตัวแทนภาคประชาชน ผู้เสนอกฎหมาย ขอบคุณ สว. ที่เห็นคุณค่า เห็นศักดิ์ศรี และความเป็นอยู่ของ กลุ่ม LGBTQI+ นี่จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ในการให้สิทธิ์ ความเป็นธรรมทางเพศ มีความสำคัญต่อลมหมายใจของ LGBTQI+  

ท้ายที่สุด ที่ประชุม มีมติ 147 ต่อ 4 งดออกเสียง 7 เห็นชอบรับร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ไว้พิจารณาในวาระ 2 โดยตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาศึกษา ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จำนวน 27 คน และกำหนดแปรญัตติ ภายใน 7 วันทำการ

related