“มาดามเดียร์” แถลงหลังลาออกจาก ส.ส. เผย “ชวน” อวยพรขออย่าเพิ่งหมดหวัง ซัด “ชัยวุฒิ” อย่านำนิสัยคุ้นชินมาตัดสินคนอื่น ขอบคุณ “พนิต” ที่ต้อนรับเข้า ปชป. ย้ำเดินหน้าทางการเมือง แต่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคสังกัดใหม่
วันนี้ มาดามเดียร์ นางสาววทันยา บุนนาค อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงว่า วันนี้ตนได้เดินทางมารัฐสภาอีกครั้งเพื่อมายื่นจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นการยุติบทบาทของตนในฐานะ ส.ส. อย่างเป็นทางการ
โดยตลอดเวลาในการทำงาน 3 ปี ที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณสื่อทุกคนที่ให้การสนับสนุน ซึ่งประสบการณ์ตลอด 3 ปี เป็นประสบการณ์ที่สำคัญที่ตนจะเก็บไว้ใช้และนำพัฒนาต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ทางด้านของนายชวนได้อวยพรขอให้โชคดีภายในอนาคตข้างหน้า และขออย่าเพิ่งหมดหวังกับสภา เพราะสภายังคงมีศรัทธา เป็นที่พึงพิงได้เสมอ เนื่องจากปัญหาไม่ได้อยู่ที่สภา แต่อยู่ที่บุคคล ตนก็จะน้อมรับและนำไปใช้ในชีวิตต่อไป
ส่วนเหตุผลการลาออกนั้น ตนได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวไปหมดแล้ว ซึ่งเป็นข้อความที่มาจากใจทั้งหมดตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และก้าวขึ้นมาเป็น ส.ส. จนถึงวันนี้ที่ตัดสินใจลาออก โดยตนได้เขียนเหตุผลไว้ชัดเจนหมดแล้ว คงไม่มีอะไรจะต้องชี้แจงเพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกนงระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ว่าการลาออกของตนไม่เกี่ยวกับสภาล่มนั้น นางสาววทันยา กล่าวว่า ตนเคารพในความแตกต่างของทุกคน แต่ก็ยืนยันว่า การที่นายชัยวุฒิจะนำนิสัยที่คุ้นชินของตนเองมาตัดสินคนอื่นเป็นการไม่ถูกต้อง การที่สภาล่มซ้ำซากด้วยการเล่นเกมทางการเมืองของนักการเมืองนั้น ส.ส.ทุกคนรับทราบ สื่อและประชาชนทุกคนก็รับทราบว่าเป็นการเล่นเกมของนักการเมือง ซึ่งทางนายชัยวุฒิสามารถยอมรับเกมการเมืองที่ไม่สนใจผลประโยชน์ของประชาชนใช่หรือไม่ และตนไม่ทราบว่านายชัยวุฒิมีบรรทัดฐานการทำงานอย่างไร แต่ตนเชื่อว่าบรรทัดฐานของตนสูงกว่านั้น
มาดามเดียร์ ยังยืนยันว่า กรณีสภาล่มนั้น ตนไม่เคยได้รับสายโทรศัพท์ หรือข้อความจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือผู้บริหารของพรรค ส่วน ส.ส.คนอื่นตนไม่อาจรับรู้ได้ แต่ยืนยันว่ากับตนไม่มีเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ต้อนรับเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์นั้น ต้องขอขอบคุณนายพนิต ที่ให้การต้อนรับ และพร้อมทาบทามผ่านสื่อ ซึ่งก็ไม่เพียงแต่นายพนิต เพราะเมื่อวานก็มีผู้ใหญ่หลายคนที่ได้ติดต่อมา ก็ขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่ให้ความเข้าใจ หยิบยื่นมิตรไมตรีชักชวนเข้าไปทำงานทางการเมือง แต่ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่าเป็นการตัดสินใจอย่างกะทันหัน ดังนั้นเมื่อตัดสินใจเช่นนี้ คงจะถือโอกาสถอยออกมาจากการเป็นนักการเมืองที่อยู่ในสภา มาเป็นประชาชนที่นั่งอยู่ข้างนอก เพื่อไตร่ตรองและทบทวนในหลายเรื่อง
และหลังจากนี้จะขอใช้เวลาอีกสักพักก่อน เพราะยังมีภารกิจอื่นๆ ที่ต้องไปจัดการ แต่ยังยืนยันว่าจะไปต่อทางการเมืองแน่นอน เพราะคิดว่าเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ประชาชนได้ให้ความไว้วางใจ และเมื่อเข้ามาสัมผัสการเมืองโดยตรง ได้เห็นว่าการเมืองยังสามารถพัฒนาประเทศได้อีก การที่เราผิดหวังกับอะไรบางอย่าง ไม่อยากให้เป็นการละทิ้งการทำงานการเมือง อยากทำตามสิ่งที่ได้ตั้งปณิธานไว้ให้สำเร็จ
มาดามเดียร์ยังเปิดเผยถึงการเข้าพบกับพลเอกประวิตร เมื่อวานตอนเช้าว่า ตนได้ไปเรียนกับพลเอกประวิตรว่าได้ตัดสินใจลาออกจาก ส.ส. และสมาชิกพรรค ซึ่งพลเอกประวิตรก็ได้อวยพรขอให้โชคดี และเชื่อว่าท่านรับทราบดีว่า เมื่อตนตัดสินใจสิ่งใดแล้ว จะมีจุดยืนที่ชัดเจน
“การตัดสินใจลาออกถึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพราะกฎหมายก็ได้ตกไปแล้ว แต่ตนอยากให้การลาออกเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าการที่เล่นเกมการเมืองโดยไม่สนใจประชาชนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การไปถึงจุดหมายด้วยกติกาที่ผิดๆเป็นบรรทัดฐานที่ผิดๆ ในสังคม ดังนั้นการตัดสินใจลาออกจะเป็นเครื่องบ่งชี้ไปถึงประชาชนและไปถึงผู้ใหญ่ที่มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” มาดามเดียร์กล่าว
เมื่อถามว่าการกลับมาอีกครั้ง มีโอกาสจะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ มาดามเดียร์กล่าวว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทั้งหมด แต่การตัดสินใจในก้าวต่อไปนั้น จากประสบการณ์ 3 ปี ทำให้เข้าใจการเมืองมากขึ้น ก็คงต้องใช้ประสบการณ์นำไปเป็นเครื่องประกอบการตัดสินใจ และขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปอยู่พรรคใด
แต่การที่ยังไม่ได้ระบุพรรคนั้น ไม่ได้เป็นการหยั่งเชิง เพราะจะต้องไปศึกษาอีกหลายเรื่อง เช่นเรื่องวัฒนธรรมในแต่ละพรรค ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ แต่ย้ำว่าวันนี้ตัดสินใจว่าจะเดินหน้าทำการเมืองต่อ ดังนั้นการเตรียมตัวเพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งก็ต้องมีการเตรียมการ เพราะจะไปเอาเปรียบพรรคการเมืองใดด้วยการเข้าไปในวันที่จะมีการเลือกตั้งก็คงจะไม่ใช่
มาดามเดียร์ยังเปิดเผยว่า ได้มีการพูดคุยกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยมาโดยตลอด ไม่ได้มาพูดคุยเฉพาะหลังการลาออก ซึ่งท่านก็ได้เริ่มต้นทำพรรคการเมืองใหม่ด้วยความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ตนก็ได้ให้กำลังใจท่าน