นายกฯ นั่งเรือชมการท่องเที่ยวทางน้ำ “วิถีคลอง วิถีไทย” ณ คลองดำเนินสะดวก ต้นแบบเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำและประวัติศาสตร์ของไทย
วันที่ 11 พ.ย. 62 เวลา 11.00 น. ตลาดน้ำดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงวัดโชติทายการามและเข้ากราบสักการะหลวงพ่อลพบุรีราเมศร์ (พระประธาน) นมัสการเจ้าอาวาสวัดโชติทายาการาม จากนั้นสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9
ก่อนลงเรือไปยังตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก และคลองดำเนินสะดวก เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวทางน้ำ “วิถีคลอง วิถีไทย” ชมกิจกรรมเกษตรปลอดสารพิษและการผลิตผักผลไม้ไร้สารเคมีตามวิถีธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP พบปะกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆ
โอกาสนี้ นายกฯ พบปะประชาชนในพื้นที่และกล่าวถึงการท่องเที่ยวทางน้ำ “วิถีคลอง วิถีไทย” ว่า รัฐบาลต้องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำคลองดำเนินสะดวก ให้เป็นต้นแบบการท่องเที่ยวทางน้ำ พัฒนาคลองสวย น้ำใส ชูจุดขายการท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวิถีชีวิตชุมชน ส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานพักผ่อนหย่อนใจ มีการนำเสนอสตอรี่ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจ
พร้อมๆ ไปกับการรณรงค์และประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึก และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูแหล่งน้ำ คู คลอง การเก็บขยะบริเวณลำคลอง รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสองฝั่งคลอง เพื่อให้ลำคลองแห่งนี้ใสสะอาดเป็นแหล่งท่องเที่ยว
นายกฯ ยังแนะนำให้มีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การให้นักท่องเที่ยวนั่งเรือชมสวน เก็บผลไม้ในร่องสวน ชิมและซื้อผลไม้สด และผลิตภัณฑ์แปรรูปเกษตรจากสวน เพื่อสร้างงานสร้างรายเสริมให้แก่เกษตรกร รวมทั้งสืบสาน ต่อยอดศิลปวัฒนธรรม และอัตลักษณ์ท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
จากนั้น นายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักและตลาดน้ำดำเนินสะดวก ซึ่งเป็นศูนย์รวมการค้าขาย พืชผักและผลไม้ตามฤดูกาลจากเกษตรกรในท้องถิ่น พร้อมเดินทักทายนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง
โอกาสนี้ นายมนัส อัตวัฒนา ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานริมฝั่งคลองตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก ยังมอบภาพเหมือนนายกฯ ที่วาดลงในเสื้อยืดสีขาว โดยมีข้อความเขียนว่า "โอ้....ดำเนินสะดวก รักเหลือเกินนะจ๊ะลุงตู่" ให้แก่นายกรัฐมนตรีด้วย
หลังจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปยังสหกรณ์โคนมหนองโพในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อพบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคต่อไป
ข้อมูลจาก กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก