เปิดหลักเกณฑ์ “รถตำรวจนำขบวน” บุคคลใดมีสิทธิใช้ได้บ้าง ต้องมีการขออนุญาตล่วงหน้า 7 วัน หลังปมนักท่องเที่ยวชาวจีนรีวิวเข้าประเทศไทย จ่ายค่าบริการพิเศษมี "รถนำขบวน" ขับไปส่งถึงที่พัก กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม
จากกรณีคลิปที่กำลังเป็นกระแสโซเชียลในประเทศจีน หลังที่มีนักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่งได้ทดสอบใช้บริการ "ตำรวจไทย" ว่าใช้เงินซื้อได้ทุกอย่างจริงหรือไม่ ก่อนจะเห็นได้ว่ามีตำรวจเดินไปรอรับถึงประตูเครื่องบิน เดินนำทาง ยกกระเป๋า-เปิดประตูรถให้ และขับรถนำขบวนพร้อมเปิดไฟฉุกเฉินไปถึงพัทยา
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ทราบเรื่องแล้ว และเล็งเห็นว่ากระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร จึงสั่งการด่วนให้จเรตำรวจไปตรวจสอบ และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้วนั้น
เบื้องต้นมีการยืนยันว่า บุคคลที่ปรากฎในคลิปเป็นตำรวจจริง 3 นาย โดยเป็นตำรวจท่องเที่ยว 1 ราย และ ตำรวจ บก.จร.2 นาย ซึ่งทางผู้บังคับกองบังคับการท่องเที่ยว และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
ทางกรุงเทพธุรกิจ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแนวปฏิบัติ และข้อกำหนดทางราชการในการขอใช้รถตำรวจในการนำรถ หรือขบวนรถ โดยเว็บไซต์ของกองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้เผยแพร่
หลักเกณฑ์เรื่องการขอรถตำรวจนำขบวน
การนำขบวนโดยการร้องขอเป็นครั้งๆ ไป เป็นกรณีตามความจำเป็นแห่งโอกาสสำหรับบุคคคล โดยจะต้องร้องขอและได้รับอนุญาตตามระเบียบ
• ขบวนที่มีความจำเป็นต้องใช้รถตำรวจนำขบวนเพื่อความปลอดภัยของขบวนหรือความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนตามความจำเป็นแก่กรณี เช่น รถนักเรียน
• ขบวนรถซึ่งเดินทางไปประกอบศาสนกิจหรือพิธีการที่มีรถหลายคัน หรือกรณีมีความ จำเป็นเร่งด่วนของบุคคลผู้มีหน้าที่ต่างๆ ในทางราชการเพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ตร.ท่องเที่ยวยอมรับ คลิปนำขบวน VVIP ให้สาวจีน เป็นตำรวจจริง สั่งสอบด่วนแล้ว
• สั่งเด้ง 2 ตร. เซ่นปมคลิปนำขบวน VVIP สาวจีน พร้อมสอบย้อนหลังเคยทำมาก่อน?
• ผบก.จร. เรียก ตร.นำขบวนสาวจีนแจง บิ๊กไบค์ไร้ตรา สตช. ป้ายทะเบียนส่วนบุคคล
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการขอรถนำขบวน
1.เส้นทางที่จะไปเป็นเส้นทางอันตรายเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
2.มีจำนวนรถในขบวน รถโดยสารไม่ประจำทาง 8 คัน หรือ รถยนต์เก๋ง 10 คัน หรือ รวมกัน 10 คันขึ้นไป
3. ต้องมีรถวิทยุตรวจการณ์เพียงพอ ไม่กระทบภารกิจหลักหรือการถวายความปลอดภัยฯ ,คำนึงถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในภารกิจประจำด้วย.
4.เอกสารและเหตุผลประกอบการขอรถนำขบวนหนังสือจากหน่วยงาน เรียนผู้บังคับการตำรวจทางหลวงแสดงเหตุผลความจำเป็น จำนวนรถในขบวน วันเวลาและ เส้นทาง ต้นทาง-ที่หมายผู้ประสานงานพร้อมหมายเลขโทรศัพท์
ติดต่อโดยส่งเอกสารทางไปรษณีย์ หรือยื่นด้วยตนเอง ได้ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง
2/486 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 หรือส่งโทรสารที่หมายเลข 023546021 0 (งานนำขบวน) โดยต้องร้องขอล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน
ทั้งนี้ในหนังสือของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร.1205/ว188 ตุลาคม 2544
หลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญหรือนักการเมือง หรือการใช้ รับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทย
สาระสำคัญคือตามที่สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกได้เสนอเรื่อง หลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญหรือนักการเมือง หรือการใช้รถนำขบวนรับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทย มาเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อให้ชัดเจน สะดวกแก่การปฏิบัติของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีข้อความดังต่อไปนี้
1.การใช้รถตำรวจนำขบวนตามหลักเกณห์นี้หมายถึง การขออนุญาตนำรถยนต์และ รถจักรยานยนต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาใช้เพื่อนำขบวนยานพาหนะของบุคคลผู้มีตำแหน่งหน้าที่ สำคัญ โดยมุ่งหมายที่จะรักษาความปลอดภัยของผู้เดินทางหรือของผู้ใช้รถใช้ถนน อารักขาบุคคลสำคัญและอำนวยความสะดวกเป็นสำคัญ
ในการใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นครั้ง ๆ ไปนั้น ให้บุคคลผู้มีสิทธิหรือหน่วยงานของ บุคคลนั้น แจ้งขอล่วงหน้าต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดรถตำรวจนำขบวน โดยให้แจ้งขอตามความจำเป็น ไม่ใช้ในภารกิจที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ เมื่อสิ้นสุดภารกิจแล้วให้ส่งคืน และให้เจ้าหน้าที่ประจำรถตำรวจนำขบวนรายงานการสิ้นสุดภารกิจต่อผู้บังคับบัญชา
ส่วนการใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นประจำ ให้บุคคล ผู้มีสิทธิหรือหน่วยงานของบุคคลนั้น แจ้งขอรถตำรวจนำขบวนได้คราวละหนึ่งชุด มิให้มีชุดสำรองอยู่ ประจำ เมื่อพันจากตำแห่น่งแล้วให้ส่งคืนทันที ทั้งนี้ ให้เจ้าหน้าที่ประจำรถตำรวจนำขบวนรายงาน
การสิ้นสุดภารกิจต่อผู้บังคับบัญชาด้วยเช่นกัน
นอกจากขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ขบนเสด็จพระดำเนิน และขบวนเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งมีรถตำรวจนำขบวนตามปกติประเพณีแล้ว บุคคลสำคัญอื่นๆ สามารถใช้รถตำรวจนำขบวนได้เป็นประจำหรือเป็นครั้ง ไปตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
ในเขตกรุงเทพมหานครให้ใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นประจำได้สำหรับบุคคล
• ประธานองคมนตรี รัฐบุรุษ
• นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา (ประธานสภาผู้แทนราษฎร)
• รองประธานรัฐสภา (ประธานวุฒิสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธาน
• สมเด็จพระสังฆราช
• รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้นำฝ้ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
• ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และประธานกรรมการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและมีอำนาจหน้าที่ติดตามการปฏิบัติราชการในเขตพื้นที่ต่าง ๆ
• ผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นอกเขตกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บังคับการตำรวจจราจร หรือผู้ได้รับมอบหมาย จากผู้บังคับการตำรวจจราจรมีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้ใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นครั้งไปตามความจำเป็นแห่งโอกาสสำหรับบุคคล ดังนี้
• ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ ประมุขของรัฐต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
• องคมนตรี
• ผู้นำทางศาสนาอื่น สมเด็จพระราชาคณะ
สำหรับขบวน ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้รถตำรวจนำขบวนเพื่อความปลอดภัย ของขบวน หรือความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนตามความจำเป็นแก่กรณี เช่น รถนักเรียน ขบวนรถ ซึ่งเดินทางไปประกอบศาสนกิจหรือพิธีการ ขบวนที่มีรถหลายคัน เป็นต้น หรือเป็นกรณีมีความจำเป็น เร่งด่วนของบุคคลผู้มีตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ในทางราชการเพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจสำคัญของ ทางราชการ
นอกจากนี้ยังมีกรณีการใช้รถตำรวจนำขบวนในราชการและภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาอนุญาตเป็นราย ๆ ไป ตามความจำเป็นแก่กรณี ทั้งนี้ ให้มีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้มีรถตำรวจนำขบวนเป็นครั้ง ๆ ไปสำหรับบุคคลสำคัญ ชาวต่างประเทศที่เป็นแขกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้
สำหรับการใช้รถนำขบวนของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้ใช้รถนำขบวนของฝ่ายทหารเอง โดยใช้หลักเกณฑ์และวิธีการใช้ไฟสัญญาณของฝ่ายตำรวจโดยอนุโลม
อย่างไรก็ตามเกณฑ์ดังกล่าวยังกำหนดให้กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตาม หลักเกณฑ์นี้โดยเคร่งครัด และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำบัญชีแสดงรายการการขอใช้รถตำรวจ นำขบวนไว้เพื่อการตรวจสอบด้วย สำหรับการใช้รถตำรวจนำขบวนที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์นี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียกคืนภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งมตินี้
ที่มา : กรุงเทพธุกิจ