เปิดภาพนาที "แอ๊ด คาราบาว" สำนึกผิด ยกพานดอกไม้ธูปเทียน ขอขมา "ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี" หลังขาดสติด่ากลางเวที เจ้าตัวบอกตอบแทนด้วยการแต่งเพลงประจำจังหวัด
จากก่อนหน้านี้ที่มีการรายงานว่า "แอ๊ด คาราบาว" หรือ "ยืนยง โอภากุล" ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ได้เดินทางเข้าพบ "ณัฐภัทร สุวรรณประทีป" ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี โดย แอ๊ด คาราบาว ได้นำพานดอกไม้ ธูปเทียน ช่อดอกไม้ มาขอขมาขอโทษผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ในกรณีขาดสติ จึงพูดพาดพิงด้วยถ้อยคำรุนแรงบนเวทีแห่งหนึ่ง
ซึ่งในขณะที่กำลังขอขมานั้น แอ๊ด คาราบาว ก็ไม่ได้อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปเก็บภาพแต่อย่างใด แต่ล่าสุดวันนี้ (3พ.ย.65) เพจเฟซบุ๊ก Carabao Official ได้เผยแพร่ภาพวินาที แอ๊ด คาราบาว นำพานพุ่มดอกไม้ธูปเทียน และกระเช้า เข้าไปขอขมาผู้ว่าฯสุพรรณ พร้อมเผยข้อความจากใจของเจ้าตัวไว้ว่า
"เมื่อเย็นวันที่ 31 ตุลาคม 2565 เวลา 16.15 น. กระผม นายยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ได้เดินทางไปศาลากลางจังหวัด และได้เข้าพบท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป โดยมี ผบช.ภ.7 และ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อกราบขอขมาที่ได้กล่าว วาจาล่วงเกินท่านตามที่เป็นข่าว บัดนี้ท่านผู้ว่าฯ ได้มีเมตตายอมรับคำขอขมา และให้อภัยแก่กระผมแล้ว กระผมจึงขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และท่านผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดด้วยความซาบซึ้งใจในความเมตตาครั้งนี้ด้วยครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แอ๊ด คาราบาว ยกพานดอกไม้ธูปเทียน ขอขมา ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี ปมด่ากลางเวที
แอ๊ด คาราบาว ยกมือท่วมหัวขอโทษ ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี ยอมรับผิด ทำไปเพราะผมเมา
แอ๊ด คาราบาว จ่อโดนพิจารณาถอดถอนพ้นศิลปินแห่งชาติ ปมด่าผู้ว่าฯสุพรรณบุรี
"แทนคำขอขมา กระผมขอตอบแทนด้วยการแต่งเพลงประจำจังหวัดในเชิงประวัติศาสตร์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้ง 77 จังหวัดให้แก่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อนำไปดำเนินการจัดสร้าง เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ของจังหวัดต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอปวารณาตัวมีส่วนร่วมในการสมัครเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรีขององค์การยูเนสโก ที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีกำลังดำเนินการอยู่"
"จึงกราบเรียนมาถึงพี่น้องประชาชน และชาวมหาดไทยทุกท่าน ว่ากระผมสำนึกผิดแล้ว และขอโอกาสให้ผมได้ปรับปรุงตนเองตามแนวทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไป ขอแสดงความเคารพเป็นอย่างยิ่ง ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) 2 พฤศจิกายน 2565" ท่ามกลางแฟนๆ รวมถึงชาวเน็ตที่เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก