ธนาธร ชี้ กสทช. อนุมัติควบรวมทรู-ดีแทค คือวันที่น่าเศร้าของเศรษฐกิจไทย

จากกรณีที่เมื่อคืนนี้ กสทช. มีมติอนุมัติการควบรวมกิจการระหว่างทรู-ดีแทค  ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว แสดงความคิดเห็นทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ดังต่อไปนี้

“การอนุมัติควบรวมโดย กสทช. นี้เป็นเรื่องที่พอจะคาดเดาได้อยู่แล้ว จากท่าทีของ กสทช. ที่พยายามแสดงออกมาโดยตลอด ทั้งการเอาแต่ถกเถียงกันว่า กสทช. มีอำนาจพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งชัดเจนว่าเป็นเรื่องการเมืองของ กสทช. ที่ต้องการปฏิเสธความรับผิดรับชอบ และการจ้าง บริษัท ฟินันซ่า ซึ่งบริษัทแม่ของฟินันซ่า มีผู้บริหารบริหารคนเดียวกับของ บริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น มาทำงานศึกษาวิจัย ก่อนออกรายงานที่ให้น้ำหนักไปในทางสนับสนุนการควบรวมอย่างชัดเจน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• กสทช. อนุมัติ TRUE-DTAC ควบรวมกิจการ แต่มีเงื่อนไข ให้ 2 แบรนด์แยกกัน 3 ปี

• พิรงรอง เปิด 7 เหตุผล กสทช. เสียงข้างน้อย “ไม่อนุญาตรวมธุรกิจ” ทรู-ดีแทค

• ลือ! กสทช.ไฟเขียวแผนควบรวม TRUE-DTAC แบบมีเงื่อนไข หลังประชุมยาว 6 ชม.

ยังไม่นับรวมถึงการที่ กสทช. ชุดปัจจุบันนี้ มาจากการแต่งตั้งโดยวุฒิสภา ที่มาจากการแต่งตั้งโดย คสช. ที่ไม่มีความยึดโยงกับประชาชน แต่กลับมีความยึดโยงกับกลุ่มทุนที่ต้องการเห็นการควบรวมเกิดขึ้นครั้งนี้ ส่วนมาตรการต่างๆ ที่ออกมานั้น ไม่มีมาตรการใดๆ ที่ดีพอเลยในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและประเทศชาติได้

รายงานอย่างน้อย 5 ฉบับพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าราคาค่าบริการจะขึ้น น้อยที่สุด 10% และสูงสุดถึง 200% นี่คือสิ่งที่ผมประเมินว่ามีความเป็นไปได้ถึง 50-50 ที่จะเกิดขึ้น แต่เรื่องของผู้บริโภคไม่ใช่ปัญหาเดียวที่จะเกิดขึ้น การตัดสินใจเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั้งระบบด้วย

การให้บริการด้านข้อมูลสารสนเทศมีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศมาก การค้าขายรายเล็กรายย่อย การเรียนรู้ทักษะสมัยใหม่ การเสพข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงต่างๆ โยกย้ายมาอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้นทุกวัน ผมนึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่เกิดการแข่งขัน โครงข่ายข้อมูลข่าวสารของประเทศนี้จะสามารถพัฒนาทั้งในด้านความเร็วและความเสถียรของการให้บริการได้อย่างไร?

นี่เป็นวันที่น่าเศร้าของระบบเศรษฐกิจไทย น่าเสียดายที่ กสทช. ไม่ได้ยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก นำพาธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งเป็นธุรกิจยุทธศาสตร์ของประเทศไปยืนอยู่บนความเสี่ยง ที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและเศรษฐกิจของประเทศชาติอย่างมหันต์

 ที่มา FB : Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ