svasdssvasds

6 ขั้นตอนการเลือก สว. 67 และทุกสิ่งที่ต้องรู้สำหรับผู้สมัคร-ประชาชน

6 ขั้นตอนการเลือก สว. 67 และทุกสิ่งที่ต้องรู้สำหรับผู้สมัคร-ประชาชน

ขั้นตอนการเลือก สว. 67 ย้ำ นี่คือการ ‘เลือก’ ไม่ใช่ ‘เลือกตั้ง’ เพราะมีแต่ผู้สมัคร ที่เลือกกันเอง สื่อ-ประชาชน ทำได้แค่สังเกตการณ์ และแจ้งเจ้าหน้าที่หากมีผู้สมัครฝ่าฝืนกฎ

สมาชิกวุฒิสภาชุดที่ 13 นับว่ามีที่มาที่แตกต่าง ซับซ้อน และชวนปวดหัว มากกว่าชุดอื่นๆ ในอดีตมาก เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ทั้งการเลือกตั้งทางตรง หรือแต่งตั้งกันเองเหมือนปกติที่ผ่านมา แต่เป็นการให้ผู้สมัคร สว. ทำการเลือกกันเอง 3 ระดับ ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด และ ประเทศ

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงเผยแพร่ขั้นตอนการเลือก สว. แบบเข้าใจง่ายที่สุด เพื่อให้ผู้สมัคร และประชาชนทั่วไปเข้าใจในทุกข้อสงสัย ซึ่งมีหลักๆ ดังนี้

วิธีการเลือก สว.67

ขั้นตอนการ เลือก สว.2567

ขั้นตอนที่ 1 ประกาศให้มีการเลือก สว.

ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. ใช้บังคับ ให้ กกต. ประกาศกำหนดวันเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ

ขั้นตอนที่ 2 เปิดสมัคร สว. (20-24 พ.ค. 67)

ผู้สมัครเลือกสมัครได้ 1 กลุ่มอาชีพ และ 1 อำเภอเท่านั้น โดยเริ่มสมัครไม่เกิน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. บังคับใช้ และกำหนดวันรับสมัคร ไม่น้อยกว่า 5 วัน แต่ต้องไม่เกิน 7 วัน

ขั้นตอนที่ 3 เลือก สว. ระดับอำเภอ (9 มิ.ย. 67)

รอบที่ 1 : เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน

ผู้สมัครเลือกกันเองในกลุ่ม เลือกตนเองได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนไม่ได้ ผู้ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1-5 เป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของกลุ่มนั้น และเข้าไปเลือกในรอบที่ 2 (เหลือกลุ่มละ 5 คน)

รอบที่ 2 : เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่สายเดียวกัน

ผู้สมัครเลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นในสายเดียวกันกลุ่มละ 1 คน ห้ามเลือกกลุ่มเดียวกันหรือเลือกตนเอง ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรก ของแต่ละกลุ่มเป็นผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ สำหรับกลุ่มนั้น

ขั้นตอนที่ 4 เลือก สว. ระดับจังหวัด (16 มิ.ย. 67)

รอบที่ 1 : เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน

ผู้สมัครเลือกกันเองในกลุ่ม เลือกตนเองได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนไม่ได้ ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1-5 เป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของกลุ่มนั้น และเข้าไปเลือกในรอบที่ 2 (เหลือกลุ่มละ 5 คน)

รอบที่ 2 : เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่สายเดียวกัน

ผู้สมัครเลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นในสายเดียวกันกลุ่มละ 1 คน ห้ามเลือกกลุ่มเดียวกันหรือเลือกตนเอง ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 2 ลำดับแรก ของแต่ละกลุ่มเป็นผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัด สำหรับกลุ่มนั้น

ขั้นตอนที่ 5 เลือก สว. ระดับประเทศ (26 มิ.ย. 67)

รอบที่ 1 : เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน

ผู้สมัครเลือกกันเองในกลุ่มได้ไม่เกิน 10 คน เลือกตนเองได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนไม่ได้ ผู้ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1-40 เป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของกลุ่มนั้น และเข้าไปเลือกในรอบที่ 2

รอบที่ 2 : เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่สายเดียวกัน

ผู้สมัครเลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นในสายเดียวกันกลุ่มละไม่เกิน 5 คน ห้ามเลือกกลุ่มเดียวกันหรือเลือกตนเอง ผู้ได้รับคะแนนลำดับที่ 1-10 เป็น สว. และลำดับที่ 11-15 อยู่ในบัญชีสำรองของกลุ่มนั้น

ขั้นตอนที่ 6 ประกาศผลการเลือก สว. (ก.ค. 67)

เมื่อ กกต. ได้รับรายงานการเลือกระดับประเทศแล้ว ให้รอไว้ไม่น้อยกว่า 5 วัน เมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว ถ้าเห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยถูกต้อง สุจริต และเที่ยงธรรม ให้ประกาศผลการเลือกในราชกิจจานุเบกษา

คุณสมบัติของสมาชิกวุฒิสภา

สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ภายใต้ของพรรคการเมืองใดๆ โดยมีคุณสมบัติดังนี้

  1. มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
  2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปีในวันสมัครรับเลือก
  3. มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่าสิบปี ยกเว้น ผู้สมัครในกลุ่มสตรี ผ้ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธ์ุ และกลุ่มอัตลักษณ์อื่น

   4.ผู้สมัครต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ด้วย

  • เป็นบุคคลซึ่งเกิดในอำเภอที่สมัครรับเลือก
  • มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอที่สมัครรับเลือกมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า สองปีนับถึงวันสมัครรับเลือก
  • ทำงานอยู่ในอำเภอที่สมัครรับเลือกมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี นับถึงวันสมัครรับเลือก
  • เคยทำงานหรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านอยู่ในอำเภอที่สมัครรับเลือก แล้วแต่กรณี เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี
  • เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในอำเภอที่สมัครรับเลือกเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า สองปีการศึกษา

20 กลุ่มอาชีพที่สมัคร สว . ได้

20 กลุ่มอาชีพที่สมัคร สว . ได้

ลักษณะต้องห้ามของสมาชิกวุฒิสภา

  1. ติดยาเสพติดให้โทษ
  2. เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
  3. เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
  4. เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
  5. อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่
  6. วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
  7. อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
  8. ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
  9. เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกในระดับอำเภอ เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
  10. เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
  11. เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
  12. เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือ ต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือ หรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
  13. เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง
  14. อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
  15. เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
  16. เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
  17. เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอ การแปรญัตติ หรือ การกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย
  18. เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
  19. เป็นข้าราชการ
  20. เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เว้นแต่ ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือก
  21. เป็นสมาชิกพรรคการเมือง
  22. เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เว้นแต่ ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือก
  23. เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรี เว้นแต่ ได้พ้นจากการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือก
  24. เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรอืผู้บริหารท้องถิ่น เว้นแต่ ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือก
  25. เป็นบุพการี คู่สมรส หรือบุตรของผู้ดำรงตาแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในคราวเดียวกัน หรือผู้ดำรงตำแหน่งใดในศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระ
  26. เคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญนี้

ผู้สมัคร สว. ห้ามหาเสียง

ผู้สมัคร สว. ห้ามหาเสียง

ผู้สมัคร สว. ไม่สามารถหาเสียงได้ แต่สามารถแนะนำตัวตามแบบข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว.3) โดยระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือก สมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 กำหนดให้มีข้อความและข้อมูลดังนี้

  1. ข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัคร
  2. ประวัติการศึกษาของผู้สมัคร
  3. ประวัติการทำงานหรือประสบการณ์ในการทำงานของกลุ่มที่สมัคร (ไม่เกิน 5 บรรทัด)

เลือก สว. 67 สื่อประชาชน ทำอะไรได้บ้าง

สื่อสามารถรายงานข่าวได้ตามปกติ นำเสนอข้อมูลความจริงของผู้ลงสมัคร เขียนบทความวิเคราะห์ รวมถึงตรวจสอบการทุจริตของผู้สมัครได้ และ ผู้สมัครที่เป็นสื่อมวลชน สามารถจัดรายการของตัวเองได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถเสนอข่าวช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครได้

ส่วนประชาชนก็สามารถ ตรวจสอบ และแจ้งการทุจริตของผู้สมัครต่อเจ้าหน้าที่ได้เช่นกัน โดยสามารถแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน ตาสับปะรด และสายด่วน 1444 ก็ได้ นอกจากนี้ในวันเลือกตั้ง ทางหน่วยงานจะเตรียมพื้นที่ไว้เพื่อให้ประชาชนมาสังเกตการณ์ได้

6 ขั้นตอนการเลือก สว. 67 และทุกสิ่งที่ต้องรู้สำหรับผู้สมัคร-ประชาชน

ย้ำ เลือก สว. ไม่ใช่ เลือกตั้ง สว. !!!

วันที่ 17 พ.ค. 67 ทาง กกต. เป็นประธานในการจัดกิจกรรม จัดกิจกรรม "KICK-OFF 20 กลุ่มอาชีพร่วมใจ ขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมกัน" ซึ่งมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเลือก สว. 2567 ระหว่างสำนักงาน กกต. โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยนายผาติยุทธ ใจสว่าง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ เป็นตัวแทนลงนาม และกรมประชาสัมพันธ์

ภายในงานมีการเสวนาตอบทุกข้อสงสัยของการเลือกตั้ง สว. ซึ่งมีการเน้นย้ำว่า การเลือกครั้งนี้ คือการเลือก สว. ไม่ใช่ การเลือกตั้ง สว. ซึ่งมีหลายฝ่ายเข้าใจผิด และยังใช้คำว่าเลือกตั้งอยู่ ทาง กกต. จึงอยากให้ประชาชนทำความเข้าใจใหม่ และช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องผู้สมัครที่ทุจริต

related