"สวนดุสิตโพล" เผยลดราคาพลังงาน คือนโยบายของรัฐบาลที่เป็นความหวังของประชาชนมากที่สุด ส่วนสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่คาดหวังกับฝ่ายค้านคือ การตั้งใจตรวจสอบนโยบายของรัฐบาล
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความคาดหวังของประชาชนที่มีต่อฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน” จำนวน 1,132 คน โดยใช้การสำรวจทางออนไลน์ ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2566 มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
1. สิ่งที่ประชาชนคาดหวังต่อ “รัฐบาล” ณ วันนี้
อันดับ 1 ทำตามนโยบายที่ให้ไว้ด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์ 80.43%
อันดับ 2 แก้ปัญหาค่าครองชีพสูง 64.52%
อันดับ 3 กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประเทศ 62.65%
อันดับ 4 บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ 59.52%
อันดับ 5 ดูแลผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ คนยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ 58.89%
2. สิ่งที่ประชาชนคาดหวังต่อ “ฝ่ายค้าน” ณ วันนี้
อันดับ 1 ให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ เสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ 78.70%
อันดับ 2 ทำงานในพื้นที่ เป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน 76.56%
อันดับ 3 ติดตาม ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 67.38%
อันดับ 4 เป็นฝ่ายค้านที่ดี ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา 67.02%
อันดับ 5 ร่วมมือในการทำงานกับรัฐบาล 51.25%
3. ผลงานของ “รัฐบาล” ที่ทำให้ประชาชนรู้สึกมีความหวัง
อันดับ 1 ลดราคาพลังงาน ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม น้ำมัน 51.54%
อันดับ 2 นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 49.30%
อันดับ 3 ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค 49.11%30
4. ผลงานของ “ฝ่ายค้าน” ที่ทำให้ประชาชนรู้สึกมีความหวัง
อันดับ 1 การตั้งใจตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 85.05%
อันดับ 2 สร้างความตระหนักรู้ในประเด็นสังคมที่ทันสมัย เช่น เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม 69.16%
อันดับ 3 การสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล 61.03%
จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่า ประชาชนหวังให้รัฐบาลทำตาม นโยบายที่หาเสียง ไว้ให้สำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาปากท้อง และค่าครองชีพ ส่วนฝ่ายค้านผลงานที่ทำให้ประชาชนมีความหวังคือ การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มงวด โดยภาพรวมคะแนนระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในช่วงสองเดือนแรก ถือว่าสูสีแบบชนะกันแค่ข้ามเส้น ซึ่งก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่า ฝ่ายไหนจะได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนในการสำรวจครั้งต่อไป
อันดับ 1 ลดราคาพลังงาน ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม
วันที่ 29 ต.ค. 2566 พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กส่วนตัวถึงผลงานตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง (60 วัน) โดยได้ประสานงานจากทุกฝ่ายเพื่อช่วยให้คนไทยได้ใช้พลังงานถูกลงถ้วนหน้า ทั้งน้ำมันดีเซลราคาลิตรละ 30 บาท ค่าไฟลดลงเหลือหน่วยละ 3.99 บาท กับ ตรึงราคาแก๊สหุงต้ม และล่าสุด เตรียมลดราคาน้ำมันเบนซินลิตรลง 0.15 - 1 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2566 ถึง 31 ม.ค. 2567
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานพลังงานยังมีโครงการระยะยาว เดินหน้าเต็มกำลังเพื่อปรับโครงสร้างพลังงานให้เป็นธรรมกับคนในประเทศ
อันดับ 2 นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวไว้ในหลายโอกาสว่า รัฐบาลจะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลจะลงทุนทั้งด้านการขนส่งของประเทศทางถนน ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศเชิญ โดยเวลานี้มีโครงการแลนด์บริดจ์ ที่เป็นเมกะโปรเจกต์มูลค่ากว่า 1 ล้านล้าน ซึ่งจะสร้างเส้นทางเชื่อมอ่าวไทยและอันดามันเข้าด้วยกัน โดยโครงการผ่านการเห็นชอบของขณะรัฐมนตรีและกำลังดำเนินการแล้ว
อันดับ 3 ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค
พผลักดันนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีได้ทุกที่ และประชาชนเลือกหมอหรือโรงพยาบาลเองได้ ซึ่งจะนำร่องใน 4 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส นอกจากนี้ยังส่งเสริมการดูแลเรื่องมะเร็งแบบครบวงจรทั้งตรวจวินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วย รวมถึงเพิ่มสถานชีวาภิบาล การบริการเขตเมือง กทม. และบริการสุขภาพจิต และยาเสพติด โดยในวันที่ 24 ต.ค. 66 คณะกรรมการ ได้แต่งตั้งให้ แพทองธาร ชินวัตร นั่งเป็นประธานบอร์ดบริหารการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"นิด้าโพล" ชี้ประชาชนค่อนข้างพอใจบทบาท/ผลงาน ช่วง 2 เดือนของ "นายกฯเศรษฐา"
นายกฯ เล็ง "ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ" สั่ง “ปานปรีย์” ชงครม. ภายในเดือน พ.ย.นี้
"นิด้าโพล" ชี้ประชาชนหนุน "แจกเงินดิจิทัล" ทุกกลุ่มเท่ากัน ไม่จำกัดพื้นที่