โรม สวน เสรีพิศุทธ์ ก้าวไกลเป็นหนี้บุญคุณประชาชนเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อไทย

นาย รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกพรรคฯ เปิดเผยผลการประชุมของพรรคก้าวไกล เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) ถึงการลงมติเรื่องนายกรัฐมนตรีว่า พรรคก้าวไกล ยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากเลขาธิการพรรค ได้ขออย่าเพิ่งมีข้อสรุป เนื่องจากเหตุการณ์ยังกะทันหันเกินไป และเดิมทีจะมีข้อสรุปในวันนี้ (3 ส.ค.)  แต่การเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) ได้ถูกเลื่อนออกไป จึงทำให้ยังไม่มีข้อสรุป แต่ย้ำว่า พรรคก้าวไกล จะไม่ลงมติสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคกรมไทยสร้างชาติ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

นายรังสิมันต์ โรม ให้ความเห็นถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ขอให้พรรคก้าวก่ายสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อตอบแทนบุญคุณว่า ในการทำงานทางการเมือง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ไม่เกี่ยวข้องกับบุญคุณ และพรรคพรรคก้าวไกลจะเป็นหนี้บุญคุณ ก็เป็นหนี้บุญคุณของประชาชน 14 ล้านเสียงเท่านั้น และเห็นว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลยอมตั้งแต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อรักษา 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเอาไว้นั้น ก็ถือว่า มีบุญคุณมากกว่า และถือว่า เป็นการยอมแล้ว ยอมอีก และยอมต่อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เพื่อไทย เลื่อนแถลงข่าว จัดตั้งรัฐบาล วันนี้ หลังวันนอร์เลื่อนโหวตนายกรอบ 3
• "เสรีพิศุทธ์" แนะ "ก้าวไกล" ตอบแทนบุญคุณช่วยโหวตนายกฯ "เพื่อไทย"
• เปิดโผ ครม. พรรคเพื่อไทย หลังแยกทางก้าวไกล คุม 5 กระทรวงหลัก "เศรษฐา" นั่งนายก

นายรังสิมันต์ โรม ยังกล่าวถึงการประชุมรัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) เพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ สว.ยกเลิกอำนาจการเลือกนายกรัฐมนตรี 

โดยหวังว่า สส.ทุกพรรคการเมือง และ สว. ทั้วที่เคยสนับสนุนการปิดสวิตช์ สว. และต้องการปิดสวิตช์ตนเองเพิ่มเติม จะให้การสนับสนุน และไม่ใช้ข้ออ้างเรื่องการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ยังจะต้องอาศัยเสียงของ สว.อยู่มาขัดขวางการแก้ไขมาตรา 272 ครั้งนี้ รวมถึงไม่ใช้วิชามาร ในการทำให้องค์ประชุมรัฐสภาล่ม จนไม่สามารถพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เพราะอำนาจการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของ สว. เหลือระยะเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน 

ดังนั้นอำนาจดังกล่าว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องคงไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อยื้อระยะเวลาประชาธิปไตยของประเทศ และเชื่อว่า หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง และมีความเห็นสอดคล้องกันว่า อำนาจ สว.ดังกล่าวเป็นหล่มทางการเมือง กระบวนการแก้ไขครั้งนี้ จะเสร็จสิ้นได้ 3 วาระ โดยใช้ระยะเวลา 1 เดือนเท่านั้น หรือเสร็จสิ้นในเดือนกันยายนนี้ ๆ

• ไม่มีมาตรา 272 ก็โหวตนายกฯผ่านไปตั้งนานแล้ว 

นายรังสิมันต์ โรม ยังย้ำด้วยว่า อำนาจการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของ สว. เป็นลมทางการเมือง เพราะหากไม่มีมาตรา 272  การจัดตั้งรัฐบาล และเลือกนายกรัฐมนตรี ตามความต้องการของประชาชน ก็น่าจะเสร็จสิ้นลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังทำให้การจัดตั้งรัฐบาล มีความแปลกพิสดาร มีการผสมข้ามสายพันธุ์ ไม่มีเรื่องอุดมการณ์ และเปิดโอกาสให้ สว. พี่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สามารถตั้งเงื่อนไขพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งมาร่วมรัฐบาลได้

ส่วนกรณีที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เห็นควรให้รอศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นก่อนนั้น นายรังสิมันต์ เห็นว่า การเลือกนายกรัฐมนตรี และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งในคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้มีการระบุถึงกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้