ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีด้านอุปกรณ์สื่อสารที่เดินหน้าไปทุกวัน แต่เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับยานอวกาศก็ก้าวหน้าไปอย่างน่าสนใจมากมาย
เหล่านักวิจัยในองค์กรด้านอวกาศต่างๆ เร่งผลักดันให้ภารกิจในอวกาศให้มีต้นทุนที่ประหยัดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การส่งดาวเทียมและการจัดหาสถานีอวกาศนานาชาติ เช่น
รวมทั้งแผนการให้ดวงจันทร์เป็นฐานสำหรับทดสอบและทดลองเทคโนโลยีต่างๆ ก่อนที่จะไปดาวอังคาร โดยมีเป้าหมายการขนส่งต่างๆ ต้องให้มีน้ำหนักเบา สามารถบรรทุกเครื่องมือที่ต้องมีขนาดเล็กลง
ดังนั้น การประมาณมูลค่ารวมของอุตสาหกรรมอวกาศในปี 2560 โดย Morgan Stanley และ Bank of America Merrill Lynch คาดการณ์ว่า
อุตสาหกรรมอวกาศจะมีมูลค่าตลาด 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2583 มีการคาดการณ์ว่าจะทวีมูลค่าเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในกลางศตวรรษนี้ และยิ่งเติบโตทวีคูณในทศวรรษต่อๆ ไป
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าในศตวรรษที่ 21 จะเป็นการเปิดศักราชยุคใหม่ของเทคโนโลยีอวกาศอย่างเป็นทางการ ความสนใจในการเดินทางในอวกาศและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีด้านอวกาศเริ่มถูกปลุกกระแสอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็น ทริป.ทัวร์.ท่องอวกาศ ที่เปิดกว้างเรื่องขีดจำกัดของการเดินทาง ส่งผลให้แนวคิดที่จะเริ่มตั้งรกรากบนดาวอังคารมีโอกาสเป็นไปได้ รวมทั้งความร่วมมือกัน ของหน่วยงานอวกาศนานาชาติที่ช่วยผลักดันให้ภาคการบิน มีความพร้อมมากยิ่งขึ้นในการส่งนักบินอวกาศไปยังอวกาศและต่อยอดไปในเชิงพาณิชย์ด้วยเทคโนโลยีอวกาศแห่งอนาคต
เทคโนโลยีอวกาศยุคใหม่ที่น่าสนใจ
หุ่นยนต์
เทคโนโลยีอวกาศในอนาคตจะพึ่งพาหุ่นยนต์และ AI อย่างมากเพื่อช่วยเหลือทีมมนุษย์อวกาศ เหล่านักวิจัยมีความตั้งใจให้หุ่นยนต์มีความสามารถในการบำรุงรักษา ซ่อมแซมสถานีอวกาศ และช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งได้เริ่มมีหุ่นยนต์ผู้ช่วย Robonaut 2 ในสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) แล้ว
เครือข่ายอวกาศ5G
เครือข่าย 5G อาศัยการสื่อสารระหว่างดาวเทียมเพื่อสร้างการเชื่อมต่อมือถือที่รวดเร็วบนโลก 5G และยังสร้างความเป็นไปได้สำหรับการเชื่อมต่อมือถือในสถานที่นอกระยะสัญญาณภาคพื้นดิน เช่น บนการขนส่งหรือในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น
Kepler Telescope: ใช้กล้องโทรทรรศน์ในการนำร่องสำรวจดาวเคราะห์หลายล้านดวงในเอกภพ
ยานบรรทุกเชื้อเพลิงน้ำหนักเบา
แนวโน้มการพัฒนายานอวกาศในอนาคตให้มีความคล่องตัว น้ำหนักเบา และประหยัดต้นทุนมากขึ้น ซึ่ง NASA กำลังทดลองกับถังเชื้อเพลิงสำหรับจรวด Space Launch System
เทคโนโลยีดาวเทียม
ดาวเทียมมีขนาดเล็กลง เบาลง ราคาถูกลง รวมทั้งต้นทุนของธุรกิจในการปล่อยดาวเทียมสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น และ Startup สามารถเข้ามาในธุรกิจดาวเทียมได้มากขึ้น เช่น
Artemis
กำหนดการสำหรับปี 2567 NASA มีภารกิจส่วนหนึ่งของโครงการ Artemis
ที่จะส่งนักบินอวกาศชายและหญิงไปยังดวงจันทร์ รวมทั้งมีแผนการสร้างที่อยู่อาศัยถาวรบนดวงจันทร์อีกด้วย
โดยภารกิจ Artemis I (4 พ.ย. 2564) และ Artemis II (ส.ค. 2566) จะเริ่มจากเที่ยวบินรอบดวงจันทร์สองเที่ยว (หนึ่งเที่ยวแบบไม่มีลูกเรือและอีกหนึ่งเที่ยวแบบมีลูกเรือ) จะให้ดวงจันทร์เป็นสถานีกลาง (Lunar Gateway) สำหรับการท่องอวกาศต่อไปยังดาวอังคาร
โดยได้ออกแบบและทดสอบ SLS และ Orion Artemis III รวมทั้งมีการเปิดตัว Power and Propulsion Element (PPE) และ Habitation and Logistics Outpost (HALO) เทคโนโลยีการลงจอดบนดวงจันทร์แบบใหม่ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมทั้งที่อยู่อาศัยสถานีอวกาศที่จะช่วยให้ปฏิบัติภารกิจการสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ระยะยาวได้
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี Human Landing System (HLS) ที่พัฒนาโดย SpaceX ในปี 2567 อีกด้วยยังไม่หมดแค่นั้น ในปี 2567 - 2573 ภายใต้โครงการ Artemis IV – IX NASA มีภารกิจในการพัฒนาสถานีกลาง ที่อยู่อาศัย (I-HAB) ระบบการจัดหาเชื้อเพลิง โครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคม (ESPRIT) และ สร้าง Artemis Base Camp ในแอ่ง Aitken ขั้วโลกใต้ของดวงจันทร์ที่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจระยะยาวได้ ในขณะที่รัสเซียและจีนประกาศว่าจะร่วมมือกันสร้างสถานีดวงจันทร์ของตนเองอีกด้วย
อุตสาหกรรมในอวกาศ EarthMoon
กิจกรรมทางการค้าบนดวงจันทร์อีกอย่างหนึ่งที่มีความเป็นไปได้คือการทำเหมืองบนดวงจันทร์ หลังจากทำการสำรวจพบน้ำแข็ง แร่ธาตุ และฮีเลียม-3 สำหรับเชื้อเพลิง ทำให้ทรัพยากรบนดวงจันทร์อาจกลายเป็นธุรกิจการค้าและตลาดส่งออกที่สำคัญ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายๆ บริษัทมีความตั้งใจที่จะสำรวจหาดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก (NEAs) ที่มีวงโคจรอยู่ภายใน 1.3 หน่วยดาราศาสตร์ (AU) หรือ 120.8 ล้านไมล์ (194.4 ล้านกิโลเมตร) จากโลกและหวังดึงเอาทรัพยากรจากดาวเคราะห์น้อยเหล่านั้น
การเดินทางในอวกาศเชิงพาณิชย์
ปี พ.ศ. 2564 การเปิดตลาดเชิงพาณิชย์ให้บริการเที่ยวบินสู่อวกาศให้กลายเป็นอุตสาหกรรมอย่างเต็มตัว เพื่อสัมผัสกับสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง และมองทัศนียภาพของโลก ที่ในปัจจุบันมี 9 บริษัทที่มีความพร้อมให้เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอวกาศสู่ภาคธุรกิจเต็มตัว ได้แก่ Virgin Galactic, SpaceX, Axiom Space, Blue Origin, Boeing, Space Adventures, Zero 2 Infinity, World View Enterprises และ CAS Space
ยังมีอีก 2 บริษัทที่มีเป้าหมายเปิดตัวธุรกิจโรงแรมในอวกาศ (สถานีอวกาศ) อีกด้วย ได้แก่ Orion Span และ Bigelow Aerospace ทำให้มีการคาดการณ์ไว้ว่าในอีกไม่เกินสามทศวรรษข้างหน้า มนุษย์จะเข้าสู่ยุคแห่งการท่องอวกาศอย่างเต็มตัว และในเร็วๆ นี้ บริษัท SpaceX ของ Elon Musk เพิ่งเปิดตัว SpaceX Falcon 9 สำหรับใช้ในการขนส่งนักบินอวกาศสี่คนไปยังสถานีอวกาศนานาชาติอีกด้วย
สำหรับปี พ.ศ. 2593 แนวคิดสถานีอวกาศแบบวงล้อมีแนวโน้มจะถูกมาแทนที่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) หรือสถานีอวกาศอื่นๆ มีหลักการใช้วงล้อหมุนจนเกิดแรงโน้มถ่วงจำลองเพื่อให้สามารถอยู่ในวงโคจรของโลกได้และสถานีอวกาศเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นเกตเวย์หรือสถานีกลางสำหรับเดินทางต่อไปยังดวงจันทร์และสถานที่อื่นๆ ห้วงอวกาศได้
Mars2020Rover
ในเดือนกรกฎาคม 2563 NASA ได้เปิดตัว Perseverance Mars Rover ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ่นยนต์ที่มีความซับซ้อนจำนวนมากที่ส่งไปสำรวจดาวเคราะห์สีแดง หน้าที่ของมันคือการเก็บตัวอย่างจากภูมิประเทศของดาวอังคาร เพื่อศึกษาว่าสิ่งมีชีวิตสามารถอาศัยอยู่ที่นั่นได้หรือไม่
Murray Lab ได้ใช้เทคนิคการประมวลผลประสิทธิภาพสูงในการสร้างภาพโมเสคของพื้นผิวดาวอังคารขนาด5.7 ล้านล้านพิกเซล (ที่รายละเอียด 5.0 ม./พิกเซล) โดยใช้ข้อมูลจาก Context Camera (CTX) บน Mars Reconnaissance Orbiter (MRO) และเผยแพร่ให้ชมแล้ว
ที่อยู่อาศัยบนดาวอังคาร
แนวโน้มการตั้งอาณานิคมบนดาวเคราะห์มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต NASA คาดการณ์ว่า บ้านที่พิมพ์ 3 มิติ พลังงาน และฐานที่มั่นบนดาวอังคารจะเกิดขึ้นจริงภายในปี 2573
ที่มา : GISTDA