ปัญหาการโจมตีผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ยังไม่แผ่ว แคสเปอร์สกี้ เผยตัวเลขภัยคุกคามทางไซเบอร์ผ่านเครือข่ายเพิ่ม 0.46% เป็นผู้ใช้งานชาวไทย 29.1% ส่วนการหลอกรูปแบบอื่นๆ ลดลง 35.74% มูลค่าความเสียหายกว่า 27,300 ล้านบาท
แคสเปอร์สกี้ ประกาศรายงานล่าสุดเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ สำหรับประเทศไทยในปี 2565 ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ได้ตรวจพบและบล็อกภัยคุกคามทางเว็บต่างๆ จำนวนเกือบ 17.3 ล้านรายการ ที่กำหนดเป้าหมายโจมตีผู้ใช้ในประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังตรวจพบความพยายามในภัยคุกคามทางเว็บจำนวน 17,295,702 รายการ บนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่แคสเปอร์สกี้ในประเทศไทย ซึ่งมีสัดส่วนสูงกว่าปีที่แล้ว 0.46% (17,216,656 รายการ) คิดเป็นผู้ใช้ชาวไทยจำนวน 29.1% ทำให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 109 ของโลก
อย่างไรก็ตาม รูปแบบการโจมตีผ่านเว็บเบราว์เซอร์เป็นวิธีการหลักในการแพร่กระจายโปรแกรมที่เป็นอันตราย และการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของเบราว์เซอร์และปลั๊กอิน รวมถึงเป็นวิธีที่อาชญากรไซเบอร์ ใช้ในการเจาะระบบโดยทั่วไปมากที่สุด
ทั้งนี้ แคสเปอร์สกี้ ยังตรวจพบการโจมตีแบบออฟไลน์จำนวน 21,339,342 รายการ ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 35.74% (33,205,557 รายการ) ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไทย จำนวน 35.1% เกือบถูกโจมตีจากภัยคุกคามออฟไลน์ และประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 85 ของโลก
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
โดยส่วนใหญ่แล้ว รูปแบบการกระจายภัยคุกคามในอุปกรณ์การทำงานหรืออุปกรณ์สื่อสารจะมี 2 รูปแบบหลัก คือ
นอกจากนี้ ความถี่ที่ผู้ใช้ถูกโจมตีโดยมัลแวร์ที่แพร่กระจายผ่านไดรฟ์ USB แบบถอดได้ ซีดี ดีวีดี และวิธีการออฟไลน์อื่นๆ ยังเป็นปัญหาที่ต้องกังวล
ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยหรือประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างก้กำลังเผชิญกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นประชาชนในประเทศจึงตระหนักถึงปัญหาอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาจากแอปที่เข้าถึงธุรกรรมการเงินจากโทรศัพท์มือถือ
นายคริส คอนเนลล์ กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 31 ธันวาคม 2565 สำนักงานตำรวจแห่งชาติพบการร้องเรียนเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์บนเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 163,091 รายการ สร้างความเสียหายประมาณ 27,300 ล้านบาท
การร้องเรียนที่พบบ่อยที่สุด คือ
“เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว เราพบว่าในปี 2565 จำนวนความพยายามโจมตีในประเทศไทยโดยรวมมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง"
ทั้งนี้ จำนวนที่ลดลงไม่ได้บ่งชี้ว่าเราปลอดภัยมากขึ้นและควรผ่อนคลายการป้องกัน
การป้องกันจากปัญหาภัยคุกคามทุกรูปแบบ ควรทำดังนี้
ระวังการขอรายละเอียดหรือขอเงิน
หลีกเลี่ยงการโอนเงินหรือให้รายละเอียดบัตรเครดิต รายละเอียดบัญชีออนไลน์ หรือสำเนาเอกสารส่วนตัว แก่คนที่คุณไม่รู้จักหรือไว้วางใจ ควรใช้วิธีการชำระเงินที่ปลอดภัยและคุ้นเคยเท่านั้น อย่าตกลงที่จะโอนเงินหรือสินค้าให้คนอื่น เพราะการฟอกเงินเป็นความผิดทางอาญา
ระวังการหลอกลวงแบบฟิชชิง
รูปแบบของการหลอกลวงทางออนไลน์จำนวนมากคือฟิชชิง หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ หรือเปิดไฟล์แนบในอีเมล หรือข้อความที่น่าสงสัย และอย่าตอบกลับข้อความที่ไม่พึงประสงค์ และการโทรเพื่อขอรายละเอียดส่วนตัวหรือการเงิน
อย่ากดยืนยัน/ตอบรับการขอเข้าถึงข้อมูลผ่านระยะไกล
หากมีคนอ้างว่ามาจากบริษัทโทรคมนาคมหรือบริษัทเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียง และต้องการเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อแก้ไขปัญหาหรือติดตั้งการอัปเกรดฟรี ให้วางสายทันที แรงจูงใจที่แท้จริงคือการควบคุมคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อติดตั้งมัลแวร์ เพื่อให้การเข้าถึงรหัสผ่านและรายละเอียดส่วนตัวของคุณ
ไม่กรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อเข้าใช้ Wifi ฟรี จากเครือข่ายสาธารณะ
ใช้รหัสผ่านเพื่อป้องกันอุปกรณ์และหลีกเลี่ยงการให้สิทธิ์การเข้าถึงแก่ผู้อื่น (รวมถึงจากระยะไกล) ปกป้องเครือข่าย Wi-Fi ด้วยรหัสผ่าน และหลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะหรือ Wi-Fi hotspot เพื่อเข้าถึงธนาคารออนไลน์หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคล
ใช้รหัสผ่านที่เข้าถึงได้ยาก
รหัสผ่านที่รัดกุมนั้น ทำให้คาดเดาได้ยาก และมีตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก อักขระพิเศษ และตัวเลขผสมกัน ผู้ใช้มักจะปล่อยรหัสผ่านไว้โดยไม่เปลี่ยนเป็นเวลาหลายปี ซึ่งทำให้ความปลอดภัยลดลง แอป password manager เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ยอดเยี่ยมในการดูแลรหัสผ่านของคุณ
ใช้การตั้งค่าสองครั้งบนเฟสบุคหรือโซเชียลต่างๆ
หากคุณใช้โซเชียลมีเดีย ควรระวังว่ากำลังเชื่อมต่อกับใคร และเรียนรู้วิธีใช้การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย หากสังเกตเห็นพฤติกรรมที่น่าสงสัย เคยคลิกสแปม หรือถูกหลอกลวงทางออนไลน์ ให้แจ้งแก่ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย
อย่าแชร์เนื้อหาหรือข้อมูลบนเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก
การสตรีมเนื้อหาจากเว็บไซต์ที่ไม่คุ้นเคยและอาจไม่น่าเชื่อถืออาจมีความเสี่ยงสูงต่อมัลแวร์ อาชญากรที่อยู่เบื้องหลังการละเมิดลิขสิทธิ์ดิจิทัล มักทำเนื้อหาฟรีที่ผิดกฎหมาย เพื่อเป็นเหยื่อล่อผู้เยี่ยมชมจำนวนมาก จึงเลือกแชร์ข้อมูลจากเว็บไซต์ที่คุณรู้จักและเชื่อถือได้เท่านั้น
ปฏิเสธการให้ข้อมูลส่วนตัวหรือตัดสินใจบางอย่างจากคนที่ไม่รู้จัก
บริษัทหรือธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะให้เวลาคุณในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ หากใครก็ตามกดดันให้คุณจ่ายเงินหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแบบทันทีทันใด ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นผู้ที่กำลังล่อลวง
ถ้ามีโปรโมชั่นหรือส่วนลดที่ดีเกินไป ยิ่งต้องระวัง
หากเว็บไซต์หรือใครก็ตาม ที่คุณกำลังติดต่อด้วยทางออนไลน์เสนอส่วนลดจำนวนมาก หรือรางวัลก้อนโตที่ดูเหมือนไม่น่าจะเป็นจริงหรือไม่น่าเชื่อ ก็น่าจะไม่ใช่เรื่องจริง
ดังนั้น การใช้งานอุปกรณ์สื่อสารไม่ใช่เรื่องยาก เทคโนโลยีก็ไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ว่าเราจะรอบคอบและระวังในการใช้งานหรือไม่