ญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวเฮ เช็กลิสต์ 8 สถานที่ท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปี 2022 รับปีใหม่ 2023 หวังดึงนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังธรรมชาติได้ฟื้นฟูเต็มที่ รอต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลกอีกครั้ง
หลังจากได้เฮกับข่าว ประเทศญี่ปุ่นเปิดประเทศ 11 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป พร้อมรับนักท่องเที่ยวแบบฟรีวีซ่าเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังจากโควิด-19 ระบาด เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ของประเทศที่ซบเซามานานเกือบสามปี องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เปิดเผยถึงตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2019 ที่เข้ามาเที่ยวในญี่ปุ่น มีมากถึง 31.9 ล้านคน และมีมากกว่า 2 ล้านคนในแต่ละเดือน และเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนสิงหาคมปีนี้ ญี่ปุ่นรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเพียงแค่ 169,800 คนเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยถ้าดูกันจากเสียงตอบรับหลังประกาศเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยก็เรียกได้ว่าตลาดแตก แห่เช็ก จองตั๋วที่พักกันในช่วงปลายปี แบบนี้มีที่ท่องเที่ยวแลนมาร์กที่ไหนบ้างที่เหมาะกับการวางแผนไปสัมผัสบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ที่ใครหลายคนติดใจและเฝ้ารอการได้กลับไปเยือนอีกครั้ง วันนี้เรารวบรวมลิสต์ 8 สถานที่ที่รอคุณเช็กอิน ฟินส่งท้ายและรับปีใหม่ 2022-2023
เริ่มกันที่ Autumn หรือ ฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่ประมาณในเดือนกันยายน-พฤศจิกายน เป็นฤดูที่เหมาะกับกีฬากลางแจ้งและการพักผ่อน อาหารตามฤดูกาลอุดมสมบูรณ์ด้วยคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติ เป็นฤดูถูกกล่าวขานว่า "ฤดูใบไม้ร่วงที่ทำให้คุณหิว" ก็เป็นสิ่งควรค่าแก่การตระเวณลิ้มลองความอร่อยที่มาพร้อมกับสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี
วัดรุริโคอิน Rurikoin (瑠璃光院 )
สัมผัสบรรยากาศของวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ชวนตกตะลึงไปกับธรรมชาติอันงดงามเหมือนภาพฝัน วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดเกียวโต เมืองเก่าที่สงบและอุดมด้วยประเพณีอันสวยงาม
เช็กพิกัด
https://goo.gl/maps/WUr8WHLEq7Wrt5J8A
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
https://rurikoin.komyoji.com/lp/?_trms=c037d36adc6d7ed6.1664677804407
บ่อน้ำสีฟ้า Shirogane Blue Pond (白金青い池)
สระอะโออิเคะ (Aoi-ike) แห่งเมืองบิเอะ ในจังหวัดฮอกไกโดนี้ จะสะกดทุกสายตาจนแทบหยุดหายใจ ที่สำคัญยังไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก มีเพียงนักท่องเที่ยวท้องถิ่น จึงทำให้สถานที่แห่งนี้มีความสงบ เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนและไม่ต้องการความพลุกพล่านสุดๆ
เช็กพิกัด
https://goo.gl/maps/qiPi36Fua1Y9HNp68
ไม่มีค่าเข้าชมและเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
สวนเมจิจิงกูไกเอ็น Meiji-jingu Gaien (明治神宮外苑 )
อยู่ในกรุงโตเกียว เพียง เดิน 5 นาทีจากสถานี Shinanomachi ก็จะได้ชมความงดงามของใบแปะก๊วยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่าม จูงมือครอบครัวหรือคนรักเดินเล่นผ่านต้นไม้สองข้างทาง ในบรรยากาศที่ชวนให้กุมมือกันแน่นๆ กอดกันกำลังอบอุ่นโรแมนติกเชียวล่ะ
เช็กพิกัด
https://goo.gl/maps/zQeDx7mrfpPyLnHk8
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
http://www.meijijingugaien.jp/
วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส Kiyomizu-dera (清水寺)
วัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแห่งจังหวัดเกียวโต การันตีด้วยตำแหน่งมรดกโลก ที่ประกาศโดยยูเนสโก เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 798 ต่อเติมศาลาไม้ในปี ค.ศ. 1633 สถาปัตยกรรมไม้โอ่อ่าโดดเด่นบนยอดเนินเขาแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศทั่วโลกให้มาเยือนโดยชื่อมาจากการรวมตัวกันของน้ำบริสุทธิ์สามสาย ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มกินหรือนำมาล้างหน้าเพื่อความเป็นมงคล
เช็กพิกัด
https://goo.gl/maps/4shjBizfm5hEe2g66
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
https://www.kiyomizudera.or.jp/
By <a href="//commons.wikimedia.org/w/index.php?title=User:Yodalica&action=edit&redlink=1" class="new" title="User:Yodalica (page does not exist)">Yodalica</a> - <span class="int-own-work" lang="en">Own work</span>, CC BY-SA 4.0, Link
และตามด้วย Winter ฤดูหนาว ตั้งแต่ในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ที่จะเป็นช่วงที่อากาศหนาวที่สุดของปี ซึ่งเหมาะกับการนอนแช่ฟินในน้ำพุร้อน เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ความสวยงามที่น่าทึ่งแตกต่างของฤดูนี้รวมทั้งงานประดับตกแต่งไฟที่มีตลอดช่วงปลายปีทั่วประเทศญี่ปุ่น คงจะดีไม่น้อยถ้าสัมผัสกับประสบการณ์การเล่นสกี ที่หาไม่ได้ในประเทศไทย
เทศกาลโยโคเตะคามาคูระ Yokote Kamakura Festival (横手の雪まつり)
การสร้างกระท่อมน้ำแข็งที่เรียกว่า คามาคูระ (kamakura) คล้ายอิกลูของชาวเอสกิโม ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีของจังหวัดอากิตะ ที่มีธรรมเนียมปฏิบัติกันต่อเนื่องมายาวนานกว่า 450 ปี เพื่อเป็นการบูชาเทพเจ้าแห่งน้ำ อำนวยพรให้แม่น้ำสมบูรณ์เหมาะแก่การทำเกษตร ในตลอดช่วงปลายเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี
เช็กพิกัด
https://goo.gl/maps/6CocKUhBsXk2h25A9
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
https://www.city.yokote.lg.jp/kanko/1004035/1004590.html
หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ Shirakawago (白川郷)
หมู่บ้านโบราณเล็กๆ กลางหุบเขาแห่งนี้อยู่ในจังหวัดกิฟุ (Gifu) ได้รับการประกาศให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกในทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโกในปี 1995 ด้วยลักษณะหลังคาทรงพนมมือ (กัสโชสึคุริ) ที่เป็นเอกลักษณ์นี้ไม่ใช้ตะปูหรือวัสดุจากเหล็กเลย ออกแบบขึ้นเพื่อรับมือในช่วงหิมะตก ไม่ให้กองสะสมบนหลังคาลาดเอียงลงมา เป็นสถานที่ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จะได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป แต่ในช่วงฤดูหนาวจะได้พบกับบรรยากาศเมืองสีขาวโพลนที่มีแสงไฟลอดออกมาจากบ้านแต่ละหลังเพื่อสร้างความอบอุ่นจะถือเป็นไฮไลท์สำคัญในช่วงปลายปีรับปีใหม่
เช็กพิกัด
https://goo.gl/maps/TGKoPtMN8j4QGdEBA
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
https://www.vill.shirakawa.lg.jp/en/
เบปปุ ออนเซน Beppu Onsen (別府温泉)
เมืองออนเซนริมทะเลที่มีชื่อเสียงและเป็นความภาคภูมิใจ ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ มีบ่อน้ำแร่ธรรมชาติมากถึง 8 บ่อ ปริมาณการผลิตน้ำพุร้อนมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
เช็กพิกัด
https://goo.gl/maps/Np6q78pLqYgqwEP86
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
https://www.city.beppu.oita.jp/sisetu/shieionsen/detail4.html
Niseko Ski Resort (ニセコモイワスキーリゾート)
Moiwa เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับสกีที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ปี 1919 ตั้งอยู่ในจังหวัดชิริเบะชิ มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง นิเซโกะ (Niseko) ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและต่างประเทศได้มาสัมผัสประสบการณ์การเล่นสกี โดยในซีซั่นนี้ได้เปิดขายบัตรล่วงหน้าแล้ว
เช็กพิกัด
https://g.page/NisekoMoiwaSkiResort?share
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
https://niseko-moiwa.jp/
อ้างอิงจาก