รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด Plug-in Hybrid (PHEV) เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการกังวลเรื่องสถานีชาร์จไม่ทั่วถึงและไม่เพียงพอ ปัจจุบันแบตเตอรี่ได้พัฒนาจนทำให้รถ PHEV สามารถชาร์จไฟฟ้าและวิ่งได้ไกลเกือบจะเทียบเท่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) บางคันเลยทีเดียว
ทำความรู้จัก รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) กันอีกครั้ง
รถยนต์ที่สามารถใช้ได้ทั้งเชื้อเพลิงน้ำมันและสามารถสลับไปใช้ EV mode ได้ซึ่งจะใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนที่อยู่ต่างจังหวัด สถานที่ห่างไกลสถานีชาร์จ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดตอบโจทย์ได้ทั้งการเดินทางไกลและใกล้ เพราะสามารถเลือกใช้ได้ทั้งไฟฟ้าและน้ำมันตามสถานการณ์ที่สะดวก
หลากหลายแบรนด์กำลังมุ่งหน้าไปที่การผลิตรถยนต์ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ในฝั่งของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดก็มีการแข่งขันกันไม่น้อยซึ่งเราได้รวบรวมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รุ่นที่น่าสนใจเอาไว้ ว่ามีราคาเท่าไรบ้าง และระยะทางที่วิ่งด้วยไฟฟ้าได้นั้นค่ายไหนสามารถทำได้มากที่สุด
Haval H6 PHEV
ราคาคาด 1.5-1.6 ล้านบาท
ชาร์จไฟฟ้าเต็มวิ่งได้ 201 กม.
Mercedes Benz GLE 350 de
ราคา 4.69 ล้านบาท
ชาร์จไฟฟ้าเต็มวิ่งได้ 106 กม.
BMW X5 xDrive45e
ราคา 4.99 ล้านบาท
ชาร์จไฟฟ้าเต็มวิ่งได้ 67-87 กม.
MG HS PHEV
ราคา 1.35 ล้านบาท
ชาร์จไฟฟ้าเต็มวิ่งได้ 67 กม.
Mitsubishi Outlander PHEV
ราคา 1.64-1.74 ล้านบาท
ชาร์จไฟฟ้าเต็มวิ่งได้ 55 กม.
Volvo XC40 Recharge
ราคา 2.09 ล้านบาท
ชาร์จไฟฟ้าเต็มวิ่งได้ 44 กม.
ที่มา : GWM , Mercedes , BMW , MG , Mitsubishi , Volvo
20/9/2022
จุดเด่นของรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่รถ EV ไม่สามารถทำได้
ความสะดวกสบายของการใช้รถยนต์ Plug-in Hybrid หรือ PHEV นั้น เหมาะสำหรับผู้ใช้ในเมืองและนอกเมือง ยกตัวอย่างเหตุการณ์เช่น หากสามารถชาร์จไฟฟ้าที่บ้านได้ และเดินทางในระยะทางที่ไม่ไกลจากบ้านซึ่งแบตเตอรี่สามารถครอบคลุมได้ จะทำให้การใช้รถในแต่ครั้งไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันอีกต่อไป แค่ใช้และนำรถกับมาชาร์จที่บ้าน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายกับเชื้อเพลิงได้มาก
และหากต้องการเดินทางไกล ซึ่งอาจไม่มีสถานีชาร์จครอบคลุม ก็สลับโหมดไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเติมได้ทั่วประเทศ และหากมีสถานีชาร์จก็สามารถเติมเพิ่มได้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายตามความสะดวก