svasdssvasds

จับตา! ตรึง “ราคาก๊าซหุงต้ม”ต่อออกไปอีก 3 เดือน ช่วยเหลือประชาชน

จับตา!  ตรึง “ราคาก๊าซหุงต้ม”ต่อออกไปอีก 3 เดือน ช่วยเหลือประชาชน

จับตา! กบง.เตรียมออกมาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือน 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม หลังจะสิ้นสุดระยะเวลาวันที่ 31 มี.ค. 68 หลังกองทุนตรึงมาตั้งแต่เม.ย. 65

SHORT CUT

  • ลุ้น! กบง.เตรียมออกมาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือน 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม หลังจะสิ้นสุดระยะเวลาวันที่ 31 มี.ค. 68
  • ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคาขายปลีกแอลพีจี อยู่ 2.4190 บาทต่อกก. หรือ 36.28 บาทต่อถังขนาด 15 กก.
  • โดยที่ผ่านมาผ่านมา กบง. เคยเสนอแนวคิดให้ทยอยปรับขึ้นราคาแอลพีจีครั้งละ 1 บาทต่อกก. เพื่อลดภาระกองทุนลง

จับตา! กบง.เตรียมออกมาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือน 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม หลังจะสิ้นสุดระยะเวลาวันที่ 31 มี.ค. 68 หลังกองทุนตรึงมาตั้งแต่เม.ย. 65

ชีวิตประจำของคนเราตื่นนอนขึ้นมาก็ต้องมาหุงข้าว ต้มปลา เป็นกิจวัตรประจำวัน บางคนก็ต้องออกไปทำมาค้าขาย แต่…กิจกรรมเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ต้องใช้พลังงานในการทำให้ข้าว อาหารของเราให้สุกพร้อมรับประทาน ซึ่งจะมีทางเลือกการใช้พลังงานมากมาย เช่น บางคนใช้ไฟฟ้า บางคนใช้ก๊าซหุงต้ม แน่นอนว่าไม่ดีแน่นอนหากช่วงเวลาใดที่ราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือนพุ่งสุดขึ้น นั่นหมายความว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อน

สำหรับประเทศไทยแล้วที่ผ่านมามีการตรึง “ราคาก๊าซหุงต้ม” พยุงเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่ อย่างล่าสุดมีข่าวมาแว่วๆว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือน หรือก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ก่อนที่จะสิ้นสุดการตรึงราคา 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในวันที่ 31 มี.ค.2568

สำหรับในปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคาขายปลีกแอลพีจี อยู่ 2.4190 บาทต่อกก. หรือ 36.28 บาทต่อถังขนาด 15 กก. เพื่อให้ราคาจำหน่ายแอลพีจีในท้องตลาดอยู่ที่ 423 บาทต่อกก. ตามมติ กบง. อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กบง. เคยเสนอแนวคิดให้ทยอยปรับขึ้นราคาแอลพีจีครั้งละ 1 บาทต่อกก. เพื่อลดภาระกองทุนลง แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับ กบง. ว่าจะตัดสินใจตรึงราคาต่อ หรือปรับโครงสร้างราคาแอลพีจี ส่วนหากไม่มีการชดเชยราคาเลยจะส่งผลให้ราคาแอลพีจีอยู่ที่ 30.61 บาทต่อกก.  หรือราคาจำหน่ายแอลพีจีที่แท้จริงอยู่ที่ 459.28 บาทต่อถังขนาด 15 กก.

ทั้งนี้กองทุนยังมีรายได้เข้าจากทางผู้ค้าแอลพีจีประมาณวันละ 20 ล้านบาท หรือประมาณ 600 ล้านบาทต่อเดือน รวมกับรายได้เข้าจากการเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันอีก 331 ล้านบาทต่อวัน หรือ 9,930 ล้านบาทต่อเดือน ส่งผลให้สถานะกองทุน ณ วันที่ 9 มี.ค.2568 ติดลบเหลือ -64,528 ล้านบาท มาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม 18,343 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจีติดลบรวม 46,185 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

related