SHORT CUT
บุหรี่ไฟฟ้าหายากยิ่งกว่าทอง! อยู่ดีๆหายไปไหน? ทำไมรัฐบาลเพิ่งเอาจริง โอกาสถูกกฎหมายริบหรี่ เพราะทำลายสุขภาพเยาวชน
ช่วงต้นปี 2568 กระแสข่าวเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลเริ่มดำเนินมาตรการปราบปรามอย่างจริงจัง ส่งผลให้บุหรี่ไฟฟ้าหายไปจากตลาดอย่างรวดเร็ว นโยบายที่เข้มงวดนี้ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมเพิ่งมาดำเนินการอย่างจริงจังในตอนนี้? และทิศทางของบุหรี่ไฟฟ้าในไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป?
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีรายงานเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน หนึ่งในกรณีที่ได้รับความสนใจมากคือ เด็กหญิงวัย 12 ปี ในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ปอดได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อม จนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหาการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายของเด็กและเยาวชน และกระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐเพิ่มมาตรการควบคุมอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ยังมีข่าวเกี่ยวกับการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในย่านสำเพ็ง ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างพ่อค้าแม่ค้าเรื่องพื้นที่ขายสินค้า กรณีนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในตลาดมืด ซึ่งรัฐบาลต้องการกำจัดให้หมดไป
ขณะที่รัฐบาลยังคงยืนยันการห้ามจำหน่ายและนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มที่สนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายยังคงพยายามผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยมีการเสนอแนวทางให้มีการควบคุมและกำกับดูแลการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถกำกับดูแลมาตรฐานผลิตภัณฑ์และป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย
คณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร ได้ศึกษาแนวทางเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และพบว่าแนวทางในการจัดการบุหรี่ไฟฟ้ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยกลุ่มที่สนับสนุนมองว่า หากสามารถควบคุมการจำหน่ายได้ ก็จะช่วยลดปัญหาการลักลอบจำหน่ายในตลาดมืดได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน
บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน ในหลายประเทศเลือกให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายและควบคุมอย่างเข้มงวด ประเทศไทยพร้อมจริงไหม?ต้องจับตาต่อไป แต่ดูๆแล้วน่าจะมีโอกาสถูกกฎหมายน้อยกว่ากัญชา