ตอบรับข้อเสนอ "หลิว จงอี" ปราบคอลเซ็นเตอร์ ผ่านไตรภาคี "ไทย-จีน-เมียนมา"

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะ เข้าพบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อหารือในการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ โดยการหารือ ทางจีนมีการเสนอแนะ 4 ข้อ ได้แก่⁣

1. เสริมสร้างกลไกไตรภาคี ภายใต้อำนาจอธิปไตยและกฎหมายและกฎหมายท้องถิ่น ในอนาคตอาจเพิ่มสมาชิก ขอให้ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดประชุมเตรียมความพร้อม และ ประชุมเป็นทางการ ตามที่ไทยกำหนด สาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมสนับสนุน⁣
2. มาตรการตัดไฟ สัญญาณอินเตอร์เน็ตและน้ำมันเชื้อเพลิง เกิดผลเป็นรูปธรรม ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ขอให้ไทยดำเนินการต่อ แม้จะมีการเรียกร้องจากประเทศเมียนมาให้ยกเลิก⁣
3. ให้การสกัดกั้น ควบคุม พื้นที่ไม่ให้อาชญากรหลบหนี หรือเคลื่อนย้ายไปพื้นที่อื่น⁣
4. ให้ไทยช่วยเหลือในการส่งกลับคนจีน กำหนด Proof Of Concept (PoC) ทั้ง ไทย, จีน และเมียนมา โดยจีนจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมา ส่งไทยอำนวยความสะดวกตั้งแต่ชายแดน จนถึงสนามบินโดยการร้องขอกองกำลังทหารในการรักษาความปลอดภัย⁣

โดยก่อนหน้านี้นายหลิว จงอี ได้เดินทางไปยัง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา และพบกับ พ.อ.หม่อง ชิตตู เลขาธิการกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) และพบกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศไทย

นอกจากนี้ ทางการจีนแจ้งว่า การรับคนจีนที่ผ่านแดนมาจากเมียนมา จะใช้เครื่องบินพาณิชย์เช่าเหมา ได้วันละ 6 เที่ยวบิน โดยแต่ละเที่ยวบินจะมีคนจีนที่ถูกส่งตัวกลับ 50 คน และตำรวจที่ดูแลความปลอดภัย จำนวน 100 นาย ขนคนกลับได้วันละไม่เกิน 200 คน โดยจะเริ่มวันแรก วันที่ 20 ก.พ.นี้ จำนวน 200 คน รวม 3 ครั้ง 600 คน ออกจากท่ากาศยานไทย โดยสายการบิน Southern China⁣

ด้านนายภูมิธรรม แถลงข่าวหลังการหารือว่า นายหลิว จงอี ยืนยันว่าเคารพอำนาจอธิปไตยและกฎหมายประเทศไทย พร้อมขอโทษที่ทำให้ประชาชนไทยเข้าใจผิดว่ามีการรุกล้ำอำนาจอธิปไตยของไทย แต่เนื่องจากความเร่งร้อนที่จะเข้ามาช่วยเหลือพลเมืองจีนที่ตกเป็นเหยื่อ พร้อมทั้งชื่นชมนโยบาย ตัดไฟฟ้า-ตัดอินเตอร์เน็ต-ตัดน้ำมัน ว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ทั้งนี้อยากเห็นกลไกไตรภาคีระหว่าง 3 ประเทศให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ส่วนเรื่องการพาคนจีนที่ตกเป็นเหยื่อใน จ.เมียวดี นายภูมิธรรมกล่าวว่าจากการหารือ อนุยาตให้เดินทางข้ามพรมแดนไทยมายัง อ.แม่สอด 600 คนก่อน โดยจะเดินทางได้ครั้งละ 200 คนเป็จำนวน 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3 วัน และต้องมีการคัดกรอง ประสานงาน และมีเครื่องบินมารับเรียบร้อย โดยให้เครื่องบินมารับและออกไปเลย โดยจะเริ่มกลับพรุ่งนี้ 3 เที่ยวบิน ส่วนถ้าจะให้เข้าประเทศและเดินทางกลับอีกจะไปคุยในการเจรจาไตรภาคี อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้เวลา 15.30 น. ทางประเทศไทยและนายหลิว จงอี พร้อมคณะทำงาน จะเดินทางไปที่แม่สอด จ.ตาก เพื่อส่งคนจีนเดินทางกลับประเทศ

ทั้งนี้ ประเทศอื่นๆ ให้สถานทูตในประเทศนั้นๆ ประสานงานและรับคนกลับ โดยจะเคลียร์ที่ประเทศเมียนมาให้เรียบร้อย ส่วนประเทศที่ไม่มีสถานทูตในประเทศไทย ให้ตัวแทนประเทศเดินทางมารับคนกลับ เพื่อไม่ให้ตกค้างและต้องสร้างค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศไทย

ส่วนข้อเสนอที่ให้ประเทศไทยคงมาตรการ 3 ตัดต่อไป ประเทศไทยตั้งใจทำแบบนี้อยู่แล้ว จนกว่าจะพิสูจน์ทราบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์หมดไปอย่างมีนัยสำคัญหรือหมดไปจนหมด ส่วนเรื่องการขนส่งสินค้าผ่านตู้คอนเทนเนอร์ ทางไทยเสนอให้จีนส่งเครื่องสแกนตรวจมาให้เพราะการสุ่มเปิดตู้คอนเทนเนอร์ต้องเป็นไปตามกฎศุลกากร และทุกวันนี้ก็ยืนยันว่าไทยดูแลการขนส่งสินค้าผ่านตู้คอนเทนเนอร์อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว 

นอกจากนี้ทางประเทศจีนยังขอให้ตัดการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหมด ตรงส่วนนี้ไทยเกรงว่าจะมีปัญหาเชิงมนุษยธรรมกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ จึงไม่ตัดทั้งหมด อย่างไรก็ตามประเทศไทยได้ประกาศให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยจากทางเมียนมาให้สามารถข้ามมารักษาในฝั่งไทยได้หากสถานการณ์ป่วยวิกฤติ