สรุปให้ หญิงโพสต์จุดไฟ 'เผาอ้อย' เซลฟี่กับเพื่อนยิ้มแฉ่งไม่แคร์ ทัวร์ลงฉ่ำ

ต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบัน ปัญหาใหญ่เรื่องหนึ่งของประเทศไทยคือ ปัญหาหมอกควันอันเกิดขึ้นจากฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งพื้นที่ทางภาคเหนือหลายจังหวัดของประเทศไทย

ต้นตอฝุ่นในประเทศไทยเกิดมาจาก อากาศที่เย็น และนิ่ง ผนวกกับควันจากการเผาตอซังของชาวบ้าน และท่อไอเสียจากรถยนต์ จนทำให้ ณ เวลานี้ ค่าฝุ่นกรุงเทพฯแย่ติดอันดับ 8 ของโลก เรียกได้ว่าคนไทยกำลังจมอยู่ใน ‘เมืองฝุ่น’ ชนิดที่ว่าจะหนีก็ไม่มีที่ให้ไป

ในส่วนของภาครัฐ ได้มีการรณรงค์กันอย่างแพร่หลาย โดยขอความร่วมมือ รวมถึงออกมาตรการห้ามการ “เผา” ทุกชนิดที่เป็นการสร้างมลพิษและยังเป็นการเพิ่มปริมาณฝุ่น PM 2.5

ล่าสุดโลกโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์ภาพผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพเซลฟี่ตัวเองและเพื่อนๆ กำลังจุดไฟเผาอ้อย โดยในภาพเผยให้เห็นเปลวเพลิงมหาศาลกำลังลุกไหม้ พร้อมระบุข้อความว่า “วันนี้จุดใบอ้อยค่ะ เตรียมตัวลงไร่ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ไปช่วยดันไฟ”

ต่อมา ลูกสาวคนโพสต์ ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า แม่หนูเองค่ะ แกไม่รู้กฎหมายหรืออะไร หนูขอโทษแทนคุณแม่ แล้วจะอธิบายให้แกเข้าใจ โพสต์คุณแม่หนูเป็นคนลบเองค่ะ ยินดีรับผิด เป็นบทเรียน แล้วจะไม่ให้เกิดขึ้นอีกค่ะ ขอโทษทุกคนด้วยนะคะ เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมากๆ ขอโทษแทนคุณแม่นะคะ

 

 

 

เผาอ้อยผิดกฎหมาย จับได้เสี่ยงติดคุก

เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ยังใช้การเผาอ้อยแทนการใช้รถตัดอ้อย บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการเผาอ้อยก่ออันตรายต่อสภาพแวดล้อมในบริเวณใกล้เคียง และยังส่งผลกระทบต่อการเกิดสภาวะโลกร้อน และยังผิดกฎหมายอีกด้วย 

การเผาอ้อยเป็นการทำผิด มาตรา 25 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 การกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้บั่นทอนหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท รัฐบาลจึงแนะนำให้หันมาใช้รถตัดอ้อยแทนการเผา