สิ้นสุดแล้วทุกคดี ยกเว้น ม.112 จากเรื่องราว 4คดีส่วนตัว สู่ถูกคดีทางการเมือง ม. 112 ด้านทนายฝ่ายหญิงคู่กรณีเผย มีหลักฐานเป็นแชท ชัดเจน
มหากาพย์เรื่องราว ของนักร้องชื่อดัง "แสตมป์ อภิวัชร์" ที่เริ่มต้นจากแสตมป์ออกมาเปิดใจพูด ปกป้องภรรยาตนเองว่าถูกคุกคามจากหญิงคนหนึ่งและแฟนที่ทำงานในวงดนตรีหนึ่ง ทั้งยังเผยว่า ถูกคู่กรณีพ่อของหญิงรายนั้น ที่เป็นทหารยศนายพล ขู่ยัดคดีทางการเมืองเพื่อจะให้ถอนฟ้องลูกสาว
ซึ่งภายหลังทราบต่อมาว่า แท้จริงแล้วนั้น แสตมป์เคยคบหากับ หญิงรายนั้นจนเป็นเรื่องกระทบต่อความสัมพันธ์ของครอบครัว เพราะแสตมป์นั้นมีภรรยาอยู่แล้ว และในปี 2565 ภรรยาแสตมป์ได้ฟ้องร้องฝ่ายหญิง 10 ล้านบาท แต่ศาลพิพากษา ให้จำเลย ชู้จ่ายที่ 1 ล้านบาท ส่วนบุคคลผู้ที่ทำงานในวงดนตรี คือ แก๊ป ซาวน์เอนจิเนียร์ของ วง Tilly Birds ที่ปัจจุบัน เป็นแฟนแจม
เรื่องราวยิ่งกระจ่างชัดเจน เมื่อวันที่ 20 ม.ค.68 "แสตมป์" ได้ให้ออกมา ยอมรับว่าตนเคยนอกใจภรรยา คบหา กับผู้หญิงคู่กรณี ที่มีชื่อว่า "แจม" จริงๆ ขณะที่ แจม ปฏิเสธ และแก๊บได้ไปออกรายการโหนกระแส และให้สัมภาษณ์ โดยเชื่อทุกอย่างที่แจมบอก
แต่เรื่องราวนั้นยังไม่จบที่เรื่อง คดีฟ้องร้องชู้สาวเท่านั้น เพราะสังคมก็ย้อนกลับไป ตั้งคำถามที่ว่า ชู้สาวจบแล้ว แต่อีกประเด็นคือ แสตมป์บอกว่า ตนถูกข่มขู่ยัดคดีทางการเมือง จริงหรือไม่?
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา แถลงข่าวแทนฝ่ายหญิงซึ่งเป็นคู่กรณีของ แสตมป์ อภิวัชร์
ทนายเดชา กล่าวว่า มีทั้งหมด 4 คดี
คดีแรก ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี คดีอาญาหมิ่นประมาท แสตมป์เป็นโจทก์ฟ้อง, คดีที่ 2 ศาลแขวงดุสิต คดีหมิ่นประมาท, คดีที่ 3 ศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย 2 ล้านบาท และคดีที่ 4 ศาลเยาวชนกลาง เป็นคดีของภรรยาแสตมป์เรียกร้องค่าเสียหายฟ้องชู้ ซึ่งมีการถอนฟ้องทั้งหมด 3 คดีในคดีหมิ่นประมาท ส่วนคดีที่ศาลเยาวชนกลางศาลไกล่เกลี่ย ทำยอม ซึ่งคดีทั้งหมด 4 คดีถึงที่สุดแล้ว
ทนายเดชา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันหลังจากมีการแถลงข่าวขอโทษจากทางแสตมป์แล้ว และอีกฝ่ายก็ไม่ได้ติดใจดำเนินคดีความอะไร พอใจกับคำขอโทษ ขอยุติเรื่องทั้งหมด ยกเว้นเรื่องคดีหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 ซึ่งได้ไปให้การต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยครอบครัวของคู่กรณีฝ่ายหญิงจะไปให้การกับทางกองทัพ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ในเรื่องมาตรา 112 โดยในคดีนี้มีพยานหลักฐานข้อความแชท ตรงกับที่ทางคุณแสตมป์โพสต์ว่าพูดจาพาดพิงถึงสถาบัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางกองทัพและกระทรวงกลาโหมดำเนินการ
.
ทนายเดชา กล่าวอีกว่า การขู่ยัดคดีมาตรา 112 ทางครอบครัวยืนยันว่าไม่มีการคุกคามหรืออ้างมาตรา 112 ไปข่มขู่คุณแสตมป์เลย แต่อาจจะมีการแจ้งให้เห็นว่าการแสดงความคิดเห็นการสนทนา มันต่อการละเมิดสถาบัน
ทนายเดชา กล่าวต่อว่า นี่ไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นการแจ้งว่าการกระทำของแสตมป์ มันหมิ่นเหม่ ในเรื่องมาตรา 112 ซึ่งเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะต้องปกป้องสถาบัน มันเป็นคดียอมความไม่ได้ ต้องว่าไปตามกฎหมาย ส่วนช่วงเวลาที่มีการพูดหมิ่นเหม่ ถึงมาตรา 112 นั้น ตนไม่ทราบช่วงระยะเวลาที่ชัดเจน แต่เป็นช่วงที่มีการฟ้องร้องคดีครอบครัวกัน และหลักฐานค่อนข้างชัดเจน
เรื่องนี้ โอม ปัณจพล รัชกิจประการ หรือ นักร้องนำวงคอกเทล และเจ้าของค่ายเพลง Gene Lab ต้นสังกัดวง Tilly Birds ที่ช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้โดนกระแสวิพากย์วิจารณ์เรื่องนี้เช่นกัน ได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นว่า
" สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมเองได้รับทราบไปพร้อมกับทุกคน และผมไม่เห็นด้วยกับการนำเอาคดีทางการเมืองมาใช้ปิดปากบุคคล ให้ไม่สามารถต่อสู้ในคดีที่ต่อสู้กันในประเด็นอื่นได้อย่างยุติธรรมครับ”