svasdssvasds

เปิด 10 คดีใหญ่ ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง ใน อบจ. ความเสียหายกว่า 370 ล้านบาท

เปิด 10 คดีใหญ่ ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง ใน อบจ. ความเสียหายกว่า 370 ล้านบาท

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน หรือ ACT เปิดข้อมูล 10 คดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างใน อบจ. พบความเสียหายกว่า 377 ล้านบาท ชี้กระบวนการยุติธรรมล่าช้า คดีเงียบ คนโกงลอยนวล

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดข้อมูล “10 ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง” ในองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่เกิดขึ้นในรอบ 20 ปี (พ.ศ.2547-2567)

พบจำนวนทุจริตน้อยกว่าที่สังคมรับรู้หรือมีการร้องเรียน ที่หนักกว่านั้นหลายคดีเงียบ ขณะที่คนทำผิดส่วนใหญ่กลับรอด เฉพาะ “10 ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง” ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้น รวมมูลค่าความเสียหายประมาณการไม่น้อยกว่า 377 ล้านบาท โดยเฉพาะอดีตนายกอบจ. อุบลราชธานี กระทำทุจริตมากที่สุดถึง 42 คดี ขณะที่ อบจ.สงขลา ยังมีคดีทุจริตพัวพันอดีตนายก อบจ. มากกว่าจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย

 

เปิด 10 คดีใหญ่ ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง อบจ.

  1. ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง 42 คดี โดย อดีตนายก อบจ. อุบลราชธานี มูลค่าความเสียหาย 114 ล้านบาท 
  2. ทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ โดยอดีตนายก อบจ.ปทุมธานี  มูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาท
  3. ทุจริตจ้างเหมาขุดลอกลำน้ำ โดยอดีตนายก อบจ.ลำปาง มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
  4. ทุจริตเงินอุดหนุนสมาคมกีฬา โดยอดีตนายก อบจ. พิจิตร มูลค่าความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท
  5. ทุจริตจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายและหนังสือเรียน โดยอดีตนายก อบจ.กำแพงเพชร  มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
  6. ทุจริตจัดซื้อท่อระบายน้ำมิชอบ โดยอดีตนายก อบจ.พะเยา มูลค่าความเสียหาย 9.6 ล้านบาท
  7. ทุจริตทำถนน 6 โครงการ โดยอดีตนายก อบจ.นครราชสีมา มูลค่าความเสียหายกว่า 9 ล้านบาท
  8. ทุจริตเงินอุดหนุนวัด โดยอดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ  มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
  9. ทุจริต 5 กรณี โดยอดีตนายก อบจ.สงขลา  มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 18.6 ล้านบาท
  10. ทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ “แคร์เซ็ต” โดยอดีตนายก อบจ.ลำพูน มูลค่าความเสียหายเกือบ 6 ล้านบาท

ด้านนายมานะ นิมิตรมงคล  เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากผลโพลโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (2567) ระบุว่า ประชาชนกว่าร้อยละ 95 รับรู้ว่ามีคอร์รัปชันโกงกินงบประมาณท้องถิ่นในอบจ.เป็นจำนวนเงินมหาศาล และตามสถิติของ ป.ป.ช. ยังพบว่า คอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างฯ เป็นเรื่องที่มีการร้องเรียนมากที่สุด

เฉพาะปี 2566 ปีเดียวมีการร้องเรียนมากถึง 827 เรื่อง ไม่นับการร้องเรียนผ่านหน่วยงานอื่นๆ อีก ได้แก่ ป.ป.ท. สตง. ตำรวจสอบสวนกลางและศูนย์ดำรงธรรม อีกจำนวนหนึ่ง แต่ข้อมูลทุจริตจัดซื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกลับหายากมาก ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขคดีที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดหรือศาลตัดสินแล้วกลับพบน้อยมาก หากสืบค้นจากเวบไซต์ป.ป.ช. ในช่วงปี 2554 - 2563 พบข้อมูลแค่ 11 คดี จากนั้นไม่พบการอัปเดตข้อมูลอีกเลย  

ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีคดีร่ำรวยผิดปกติน้อยมาก กล่าวคือ พบคดีร่ำรวยผิดปกติที่ศาลตัดสินยึดทรัพย์แล้ว 1 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีอีกเพียง 2 คดีเท่านั้น ทั้งๆ ที่ระบบ ACT Ai แสดงข้อมูลการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองต่อ ป.ป.ช. พบว่า นายก อบจ. หลายคนมีทรัพย์สินเป็นพันล้านบาท

ทั้งนี้นายก อบจ. จำนวนมากรวยเกินร้อยล้านบาท ไม่นับรวมความมั่งคั่งของคนในครอบครัว “ตัวเลขอย่างนี้ ผมขอชวนประชาชนช่วยกันถาม ป.ป.ช.และมหาดไทย ว่าพวกท่านคิดอย่างไร สงสัยบ้างไหมว่าทำไมคนไทยทั้งประเทศรู้ว่ามีคอร์รัปชัน แต่พวกท่านไม่รู้จริงหรือ?

 

ทั้งหมดคือความจริงที่ต้องย้ำให้คนไทยตระหนักว่า หากเราปล่อยให้พวกคดโกงชนะการเลือกตั้งครั้งใหญ่ต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเกิดวิกฤตใหญ่ตามมาอย่างไร” เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าวและว่า เมื่อดูจากเรื่องที่สังคมรับรู้และคดีที่มีคนร้องเรียนในแต่ละปี ฟันธงเลยว่า ส่วนใหญ่รอดและหลายคดีเงียบ

เกี่ยวกับลักษณะการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างในอบจ.เฉพาะ 10 ทุจริตที่องค์กรฯ ค้นพบและเผยแพร่นี้ สะท้อนให้เห็นความหลากหลายกลโกงในการจัดซื้อฯ มีทั้งให้บริษัทพรรคพวกหรือคนในครอบครัวมารับงาน มีการทำเอกสารเท็จ ปกปิดข้อมูล ไม่เปิดประมูลทั่วไปแต่เน้นใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ฮั้วประมูล อบจ.เองบริหารสัญญาจนรัฐเสียเปรียบ ฯลฯ 

สำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องร่วมปกป้องผลประโยชน์ของท้องถิ่น สอดส่องสิ่งผิดปกติ และอย่าเลือกคนซื้อเสียงให้เขากลับมาถอนทุนคืน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related