svasdssvasds

วิกฤติเด็กไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม

วิกฤติเด็กไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม

อัตราการเกิดลด พัฒนาการช้า ขาดกิจกรรมนอกห้องเรียน วิกฤติเด็กไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

SHORT CUT

  • ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ในขณะเดียวกัน เด็กไทยซึ่งเป็นอนาคตของชาติ กลับกำลังเผชิญกับปัญหาที่ทับซ้อนหลายมิติ
  • ทั้งวิกฤตเด็กเกิดน้อย เห็นได้จากอัตราการเกิดของไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 ผู้หญิง 1 คน มีลูกเฉลี่ยเพียง 1 คน เท่านั้น ส่งผลให้ประเทศไทยมีแรงงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจน้อยลง และอาจทำให้ GDP ของประเทศโตไม่ถึง 2% ในอนาคต
  • ควรมีการศึกษาเพื่อสำรวจอัตราภาวะซึมเศร้าในเด็กไทยอย่างละเอียด เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหา ผู้ปกครองและครูควรให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของเด็ก สังเกตสัญญาณเตือนของภาวะซึมเศร้า และให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพจิตของเด็ก ลดความเครียดจากการเรียน ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
     

อัตราการเกิดลด พัฒนาการช้า ขาดกิจกรรมนอกห้องเรียน วิกฤติเด็กไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับ “วิกฤติเด็ก” ที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของชาติอย่างรุนแรง ปัญหาดังกล่าวไม่ได้มีเพียงมิติเดียว แต่เป็นปัญหาทับซ้อนทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ตั้งแต่อัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการเด็กที่ล่าช้า ปัญหาสุขภาพจิต ไปจนถึงการขาดกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ปัญหาดังกล่าวล้วนส่งผลต่อกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยในอนาคต

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ขณะเดียวกัน อัตราการเกิดใหม่กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไทยมีแรงงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจน้อยลงในอนาคต หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตไม่ถึง 2%

ปัญหาที่อาจวิกฤติ

ผลการสำรวจพัฒนาการเด็กปฐมวัยของกรมอนามัย พบว่า เด็กไทยมีแนวโน้มพัฒนาการด้านภาษาล่าช้าเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะด้านการเข้าใจภาษาและการใช้ภาษา นอกจากนี้ ปัญหาสุขภาพจิตในเด็กก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล เด็กจำนวนมากเผชิญกับโรคสมาธิสั้น ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้และพัฒนาการในระยะยาว

ขณะที่ “การเล่น” จะเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กในทุกด้าน แต่ผลการศึกษาพบว่า เด็กไทยมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอถึง 80% สาเหตุสำคัญมาจากการที่เด็กต้องนั่งเรียนในห้องเรียนเป็นเวลานาน และใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมหน้าจอ

วิกฤตเด็กไทยเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง มิเช่นนั้น ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับผลกระทบร้ายแรงทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต การแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ครอบครัว และชุมชน

ข้อเสนอแนะแห่งความหวัง

ข้อเสนอแนะ รัฐบาลควรมีนโยบายส่งเสริมการเกิด และสนับสนุนการเลี้ยงดูบุตรอย่างจริงจัง พัฒนาหลักสูตรการศึกษาที่มุ่งเน้นพัฒนาการเด็กอย่างรอบด้าน ส่งเสริมกิจกรรมทางกายสำหรับเด็ก สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตในเด็ก และให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสม

อ้างอิง

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related