svasdssvasds

ประวัติศาสตร์ "แซนด์วิช" จากอาหารผีพนัน สู่คอมฟอร์ทฟู้ดโลก

ประวัติศาสตร์ "แซนด์วิช"  จากอาหารผีพนัน  สู่คอมฟอร์ทฟู้ดโลก

ประวัติศาสตร์แซนด์วิช จากอาหารผีพนัน สู่คอมฟอร์ทฟู้ดโลก มาสู่อาหารไทยฟิวเจอร์รวมทั้งตะวันออกตะวันตกเข้าด้วยกัน

SHORT CUT

  • เชื่อไหมว่าแซนด์วิชเกิดขึ้นบนโต๊ะพนัน แถมไม่ได้หากินกันง่ายๆ
  • หลายคนเชื่อว่ามีต้นกำเนิดจาก จอห์น มอนทากู เอิร์ลแห่งแซนด์วิชที่ 4 ขุนนางอังกฤษ
  • ส่วนแซนด์วิชหมูหย็องน้ำสลัดเป็นการนำมาผสมกันระหว่างอาหารฝรั่งกับอาหารจีน

ประวัติศาสตร์แซนด์วิช จากอาหารผีพนัน สู่คอมฟอร์ทฟู้ดโลก มาสู่อาหารไทยฟิวเจอร์รวมทั้งตะวันออกตะวันตกเข้าด้วยกัน

อาหารเช้าง่ายๆ สำหรับใครหลายๆ คนที่สามารถพกไปทานได้ ง่าย อาหารที่ต้องทานควบคู่กับกาแฟหรือชา อาหารที่คนไทยชอบทานไส้หมูหย็องน้ำสลัด ใช่แล้วสิ่งที่เรากำลังพูดถึงกันคือแซนด์วิช อาหารที่ปัจจุบันหาทานได้ง่ายๆ ทั่วไป

แต่เชื่อไหมว่าอาหารชนิดกับกล่าว เกิดขึ้นบนโต๊ะพนัน แถมไม่ได้หากินกันง่ายๆ ด้วย SPRiNG พาไปรู้จัก แซนด์วิช อาหารที่ถือกำเนิดโดยคนติดพนัน สู่การกินแล้วเลอะมือฉบับไทยๆ ที่มีหมูหย็องน้ำสลัดเป็นตัวชูโรง

ประวัติศาสตร์ \"แซนด์วิช\"  จากอาหารผีพนัน  สู่คอมฟอร์ทฟู้ดโลก

แซนด์วิชถือกำเนิดโดยขุนนางติดพนัน

หลายคนอาจคงมีอาการหากทำอะไรที่ชอบสักหนึ่งอย่างคงไม่อยากลุกขึ้นไปทำอย่างอื่น ใจจดใจจ่อกับสิ่งที่ทำ จนบางครั้งก็เสพติดจนไม่อาจละสายตาไปได้

ในอังกฤษก็มีขุนนางท่านหนึ่งติดไพ่มากๆ จนไม่อยากลุกไปไหนขุนนางท่านนี้มีชื่อว่า  จอห์น มอนทากู เอิร์ลแห่งแซนด์วิชที่ 4 

เรื่องเล่าของเขาปรากฏในหนังสือ Tour to London ของปิแยร์-ฌ็อง กรอเล กวีท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ได้กล่าวว่า ท่านเอิร์ลแซนด์วิชนั้นถือเป็นนักเล่นไพ่ชั้นเซียนและเขาไม่ค่อยมีเวลาที่จะปลีกตัวจากโต๊ะพนันไปรับประทานอาหาร เขาจึงบอกกล่าวแก่คนรับใช้ให้นำเนื้อสองแผ่นที่ประกอบด้วยขนมปังสองแผ่นมาให้เขา และกลายเป็นที่ชินตาในบรรดาสหายนักพนัน

ประวัติศาสตร์ \"แซนด์วิช\"  จากอาหารผีพนัน  สู่คอมฟอร์ทฟู้ดโลก

ด้วยการที่เขาติดไพ่มากๆ เลยคิดวิธีทำยังไงไม่ให้อาหารที่กินนั้นเลอะมือ ท่านเอิร์ลจึงใช้ขนมปังประกบเนื้อทำให้สะดวกในการกินและไม่ต้องลุกไปล้างมือให้เสียเวลา ถ้าหากตำนานนี้เป็นจริงเป้าหมายของแซนด์วิชคือการทำอาหารที่กินง่ายไม่เลอะมือขึ้นมา

ด้วยการติดพนันทำให้ท่านเอิร์ลดูเสมือนชื่อเสียงในเรื่องการทำงานไม่ดีนัก ถึงแม้เขาจะเคยรับตำแหน่งหน้าที่สำคัญหลายตำแหน่ง ตั้งแต่ผู้อำนวยการใหญ่กิจการไปรษณีย์ เสนาบดีการต่างประเทศตอนเหนือ (ดูแลความสัมพันธ์กับรัฐโปรเตสแตนต์และยุโรปเหนือ) และที่ปรึกษาใหญ่รัฐบาลด้านกิจการราชนาวี (First Lord of the Admiralty) 

โดยเฉพาะในระหว่างที่รับตำแหน่งใหญ่ในกองทัพเรือ เขาถูกวิจารณ์อย่างหนักกับเรื่องการฉ้อราษฎร์บังหลวงและการใช้เส้นใช้สาย รวมถึงการรับมือกับการปฏิวัติสหรัฐฯ (1775-1783) ที่เอิร์ลแซนด์วิชยืนยันให้ประจำการกำลังส่วนใหญ่ของอังกฤษไว้ในน่านน้ำยุโรปเพราะกลัวถูกฝรั่งเศสโจมตี ทำให้ถูกติเตียนมากกับความหละหลวมในการเตรียมความพร้อมให้กับกองทัพเรือ  (Britannica) 

เรียกได้ว่าเจ้าของชื่อแซนด์วิชของเรานั้นชื่อเสียงติดลบอย่างหนักเลยก็ว่าได้

ข้อโต้แย้ง จอห์น มอนทากู ไม่ได้ให้กำเนิดแซนด์วิชแม้ว่าชื่อ "แซนด์วิช" จะเชื่อมโยงกับ จอห์น มองตากู เอิร์ลที่ 4 แห่งแซนด์วิช หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแซนด์วิชมีรากฐานมาจากวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายทั่วโลก ก่อนยุคของท่านเอิร์ล

ต้นกำเนิดที่หลากหลาย: แซนด์วิชมักถูกมองว่าเป็นอาหารแบบตะวันตก แต่ความจริงแล้ว แนวคิดของการใช้ขนมปังเป็นภาชนะสำหรับอาหารอื่นๆ นั้นมีมานานหลายศตวรรษในภูมิภาคต่างๆ เช่น เอเชียตะวันตก แอฟริกาเหนือ และอินเดีย ตัวอย่างเช่น อาหารของชาวยิวยุคโบราณมีการใช้ขนมปังมารองอาหารและม้วนกิน ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของแซนด์วิช

แซนด์วิชแบบเปิดหน้า: นอกจากนี้ หลักฐานยังชี้ให้เห็นว่าแซนด์วิชแบบเปิดหน้ามีอยู่ในยุโรปก่อนที่อังกฤษจะอ้างว่าเป็นต้นกำเนิด อาหารอย่าง "Belegde Broddje" ของเนเธอร์แลนด์เป็นตัวอย่างหนึ่งของแซนด์วิชแบบเปิดหน้าที่ปรากฏขึ้นก่อนยุคของท่านเอิร์ล

ภาพลักษณ์ชนชั้นสูงของแซนด์วิช: แซนด์วิชในยุคแรกๆ ถูกมองว่าเป็นอาหารว่างสำหรับชนชั้นสูงในสังคมตะวันตก มักถูกเสิร์ฟในงานเลี้ยงสังสรรค์หรือระหว่างการเล่นพนัน ภาพลักษณ์นี้ขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่าท่านเอิร์ลคิดค้นแซนด์วิชเพื่อความสะดวกในการรับประทานขณะเล่นไพ่ ในความเป็นจริงแล้ว การใช้ขนมปังเป็นภาชนะสำหรับอาหารเป็นแนวคิดที่มีมานานแล้ว และไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ใหม่ในยุคของท่านเอิร์ล

สะท้อนให้เห็นว่าแซนด์วิชอาจถือกำเนิดก่อนยุคท่าเอิร์ล แต่กระนั้นก็มีข้อเหมือนกันคือถือกำเนิดโดยขุนนางที่ชอบเล่นการพนัน เมื่อไม่อยากลุกไปไหนก็หาอะไรที่เลอะมือน้อยที่สุดทาน จะได้ดำเนินการเล่นไพ่อยากสนุกสนานแบบไม่ติดขัดได้อย่างสบายใจ

เส้นทางของแซนด์วิชอาหารเพื่อชาวประชาโกอินเตอร์สู่เมืองไทย

เมื่อชนชั้นสูงเริ่มคิดอาหารนี้คิดมา ก็ค่อยๆ แพร่กระจายไปสู่ชนชั้นแรงงานและประชาชนทั่วไปของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 19 และ 20 โดยมีปัจจัยสำคัญคือการปฏิวัติอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน

ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรม การเกิดขึ้นของชนชั้นกรรมาชีพที่ทำงานในโรงงาน ทำให้ แซนด์วิชกลายเป็นอาหารที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ เพราะทำได้ง่าย พกพาสะดวก และสามารถเก็บไว้กินได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องทำอาหาร

ต่อมาในศตวรรษที่ 20 ขนมปังกลายเป็นอาหารหลักของสังคมอเมริกา ส่งผลให้แซนด์วิชได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก แซนด์วิชร้อนหรือเบอร์เกอร์ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในอเมริกา แม้ว่าอาหารบางอย่างที่จัดอยู่ในประเภทแซนด์วิชร้อนอาจไม่ถูกเรียกว่าเบอร์เกอร์เสมอไป

เพราะนอกจากความสะดวกสบายแล้ว แซนด์วิชยังเป็นสัญลักษณ์ของความปลอดภัยในการทำอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ เพราะไม่ต้องใช้เครื่องครัวที่เป็นอันตรายเช่นเตาหรือมีด

แซนด์วิชเข้ามาในเมืองไทยได้อย่างไร?

คราวนี้หลายคนอาจสงสัยใช่ไหมล่ะว่าแซนด์วิชเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ คำตอบก็ยังไม่ชัดเจนนักแต่ก็มีข้อสันนิษฐานปัจจัยที่อาจทำให้เห็นร่องรอยการเข้ามาของแซนด์วิชได้

ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อค้าขายกับประเทศตะวันตก ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของแซนด์วิช ทำให้วัฒนธรรมอาหารของไทยได้รับอิทธิพลและมีการนำอาหารใหม่ๆ เข้ามา รวมถึงแซนด์วิชด้วย

การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจของไทย เช่น การเปิดประเทศ การเติบโตของเมือง ทำให้มีการรับเอาอาหารตะวันตกเข้ามาอย่างแพร่หลายมากขึ้น

จากปัจจัยเหล่านี้ เราสามารถสันนิษฐานได้ว่าแซนด์วิชเข้ามาในประเทศไทยในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 20 โดยเริ่มจากกลุ่มคนชั้นกลางในเมืองใหญ่ก่อนที่จะแพร่หลายไปทั่วประเทศ

โดยรับอิทธิพลจากสหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษเข้ามานั่นเอง โดยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยได้เปิดประเทศมากขึ้น ทำให้วัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนไทยมากขึ้น รวมถึงอาหารการกินด้วย

ประวัติศาสตร์ \"แซนด์วิช\"  จากอาหารผีพนัน  สู่คอมฟอร์ทฟู้ดโลก

ประกอบกับคนไทยเริ่มมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากขึ้น ทำให้แซนด์วิชซึ่งเป็นอาหารที่รับประทานง่ายและรวดเร็วได้รับความนิยม

“แซนด์วิชหมูหย็องน้ำสลัด” การรวมตัวกันของวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก

แต่ที่แน่ๆ แซนด์วิชของชาวตะวันตกยุคเริ่มต้นคงไม่มีไส้หมูหย็องน้ำสลัดแน่นอน เพราะอะไรนะหรือคำตอบคือ “หมูหย็อง” ไม่ใช่อาหารที่ถือกำเนิดในซีกโลกตะวันตกยังไงล่ะ โดยหมูหย็องกำเนิดในมณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน นั่นเอง

แต่ที่มารวมร่างกันได้ในประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีชาวจีนอพยพหลายระลอก รวมถึงชาวฮกเกี้ยนที่มาจากฝูเจี้ยนด้วย น่าจะนำอาหารชนิดดังกล่าวเข้ามาด้วย และเมื่อรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาจึงนำไปผสมผสานทำให้เกิดเมนูแซนด์วิชไส้ยอดฮิตของคนไทย นั่นคือ “แซนด์วิชหมูหย็องน้ำสลัด” นั่นเอง

ถ้าหากชาวยุโรปหรือท่านเอิร์ลแซนด์วิชได้อยู่เห็น อาจจะได้ลิ้มลองแล้วรู้สึกว้าว หรืออีกทางที่เป็นไปได้อาจบ่นว่าทำมาไม่ถูกใจฉัน เพราะกินไปเลอะมือไป แถมหมูหย็องหกเต็มไปหมด เล่นไพ่ไม่สนุกก็เป็นได้

แต่ที่แน่ๆ ถูกใจคนไทยสุดๆ เพราะมีมาจนถึงทุกวันนี้กลายเป็นตำนาน แซนด์วิช จากอาหารของคนติดพนัน สู่ ฉบับหมูหย็องน้ำสลัดแบบไทย

อ้างอิง

TCIJ / ThePeople / 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related