เมื่อ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ เข้าสร้างประวัติศาสตร์อะไรบ้าง ในการเลือกตั้งครั้งนี้ !?
ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ จะเริ่มต้นขึ้น ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันยังพบว่า ทั้ง “โดนัลด์ ทรัมป์” และ “กมลา แฮร์ริส” มีคะแนนใกล้เคียงกัน แต่ ณ เวลานี้ เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์มีโอกาสสูงที่จะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ เพราะคะแนนของเขาใกล้ถึง 270 คะแนนมากกว่าแฮร์ริสอยู่มากพอสมควร ซึ่งถ้าใครถึง 270 ก่อน ก็จะถือว่าเป็นผู้ชนะ
ในปี 2023 ‘ทรัมป์’ ถูกคณะลูกขุนใหญ่นครนิวยอร์กฟ้องว่า เขามีความผิดทางอาญา จากกรณีการจ่ายเงิน “ค่าปิดปาก” ดาราหนังผู้ใหญ่ ‘สตอร์มี แดเนียลส์ (Stormy Daniels) ’ ช่วงที่มีการหาเสียงระหว่างเลือกตั้งปี 2016 เพื่อให้เธอหยุดออกมาแฉเรื่องที่ทรัมป์มีความสัมพันธ์กับเธอ ซึ่งทรัมป์ปฏิเสธเรื่องนี้มาตลอด และถ้าเข้าชนะเลือกตั้งในปี 2024 จะถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์กฎหมายของสหรัฐฯ ที่ผู้ดำรงตำแหน่งนี้มีคดีอาญาติดตัว
ทรัมป์จะกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกนับตั้งแต่ ‘โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ (Grover Cleveland) ’ ที่กลับมาดำรงตำแหน่งหลังจากที่แพ้การเลือกตั้ง
การดำรงตำแหน่งของทรัมป์น่าสนใจตรงที่ เป็นประธานาธิบดีเพียงรายเดียวที่ต้องเผชิญกับกระบวนการฟ้องถอดถอนถึง 2 ครั้ง จากการถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลบุกอาคารรัฐสภา ช่วงที่ ‘โจ ไบเดน’ ชนะการเลือกตั้งปี 2021
หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในปี 2024 เขาจะเข้ารับตำแหน่งใน 20 มกราคม 2025 เวลานั้นเขาจะมีอายุ 78 ปี ซึ่งเท่ากับโจไบเดนที่เข้ารับตำแหน่งตอนมีอายุ 78 ปี เช่นกัน ทำให้ทั้ง 2 คนเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดในวันที่เข้าพิธีสาบานตน
1. แฮร์ริสจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุดของที่ผู้หญิงจะเป็นได้ของประเทศนี้
2.แฮร์ริสจะเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
3. แฮร์ริสประธานาธิบดีคนที่ 2 จากแคลิฟอร์เนีย ต่อจาก ‘ริชาร์ด นิกสัน’
4. ‘ดั๊ก เอ็มฮัฟฟ์ (Doug Emhof)’ สามีของแฮร์ริส จะกลายเป็น ‘สุภาพบุรุษหมายเลขหนึ่ง’ นับเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแผ่นดินสหรัฐฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง