“แจ้งแล้ว แต่ไม่มีใครทำอะไร” เหตุครู รร.นานาชาติดัง ล่วงละเมิดทางเพศ

หลังจากทีมข่าว SPRiNG และ The Nation ร่วมกันเปิดเผยกรณีครูต่างชาติเพศชายที่เคยสอนในโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง 2 แห่ง แห่งหนึ่งตั้งอยู่ในย่านรามคำแหง กทม. (ขอเรียกว่าโรงเรียนนานาชาติ A) อีกแห่งตั้งอยู่ในย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ (โรงเรียนนานาชาติ B) นามสมมุติว่า ‘ครูวี’ ถูกกล่าวหาว่า ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนหลายคนตลอดระยะเวลาที่สอนอยู่ในเมืองไทยมากกว่า 20 ปี (ระหว่างปี พ.ศ.253x-255x) โดยมีรูปแบบการกระทำคล้ายๆ กัน คือหาโอกาสอยู่กับเด็กสองต่อสอง, เปิดหนังโป๊ให้ดู ก่อนจะบังคับมีเพศสัมพันธ์ (ออรัลเซ็กซ์)

ความจริงพฤติกรรมของครูวี ถูกจับจ้องจากเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในโรงเรียนนานาชาติทั้ง 2 แห่ง และเคยมีการรายงานต่อผู้บังคับบัญชาไปแล้ว แต่ก็ไม่พบว่ามีการตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆ

ทีมข่าวเห็นบันทึกคำให้การของครูจากโรงเรียนนานาชาติ A ที่ระบุว่าพบเห็นพฤติกรรม “ไม่เหมาะสม” ของครูวีที่มักพาเด็กชั้น ม.ต้นในโรงเรียนไปเที่ยวตามห้าง โดยเขาได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาและกลายเป็นเรื่องซุบซิบภายในโรงเรียน จนครูวีตัดสินใจลาออกก่อนจะมีการดำเนินการใด ๆ

เช่นเดียวกับบุคลากรในโรงเรียนนานาชาติ B ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของครูวี เคยบรรยายไว้อย่างละเอียดว่าเขามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างไรบ้าง

• พฤติกรรมที่พบเห็นโดยตรง เช่น ระหว่างไปทริปต่างประเทศ ครูวีจะขอนอนโรงแรม ในห้องเดียวกับเด็กนักเรียน แม้จะมีห้องอื่น ๆ ว่างอยู่, ครูวีให้นักเรียนชายนั่งตักและขยับตัวในทางที่ส่อไปทางเพศ, ครูวีไปเที่ยวพัทยากับเด็กนักเรียน ซึ่งไม่ใช่ทริปที่โรงเรียนอนุญาต, ครูวีมักจะใช้คำอย่าง “sexy” หรือ “sweetie” กับนักเรียน
• พฤติกรรมที่ถูกแจ้งจากผู้ปกครองและศิษย์เก่า เช่น เป็นที่รู้กันในวงกว้างว่าครูวีมักจะชวนเด็กนักเรียนไปค้างที่บ้าน, โดยครูวีจะขอนอนเตียงเดียวกับเด็กนักเรียน, ครูวีมักจะนำรูปโป๊มาให้เด็ก ๆ ดู

“พฤติกรรมเหล่านี้ของครูวี เป็นที่รับรู้กันภายในหมู่ครูของโรงเรียน แต่มักจะถูกเพิกเฉยหรือไม่ให้ความสำคัญ โดยทำเสมือนว่าเป็นเพียงเรื่องตลก”

แม้จะมีการแจ้งพฤติกรรมไม่เหมาะสมของครูวีไปยังผู้บริหารโรงเรียนหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยบุคลากรในโรงเรียน B รายนี้เชื่อว่า เกิดจากการที่ครูวีสอนในโรงเรียนนี้มาอย่างยาวนาน มีความสัมพันธ์กับฝ่ายบริหาร, ผู้ปกครอง และศิษย์เก่าจำนวนมาก จนทำให้เขาอยู่ในสถานะแทบแตะต้องไม่ได้ (untouchable)

ผู้เสียหายรายหนึ่งได้พยายามติดต่อกับโรงเรียน B ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2567 เพื่อแจ้งว่าเขาถูกกระทำโดยครูวี สมัยที่เขายังเป็นนักเรียนเมื่อกว่าสิบปีก่อน ทำให้ในสัปดาห์ถัดมา ทางผู้บริหารโรงเรียน B ออกจดหมายเวียนแจ้งว่า ได้รับทราบจากเหตุเกิดที่เกิดขึ้นจากอดีตครูของโรงเรียน โดยทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่จะทบทวนนโยบายและขั้นตอนปฏิบัติต่างๆ ให้ได้มาตรฐานสูงสุดในการปกป้องเด็กนักเรียน

“เราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ความมั่นใจว่า โรงเรียนนี้จะเป็นสถานที่ซึ่งนักเรียนรู้สึกปลอดภัย”

ทีมข่าวพยายามติดต่อกับโรงเรียนนานาชาติทั้ง 2 แห่ง ทั้งฝ่ายบริหารโรงเรียน, สมาคมศิษย์เก่า, สมาคมผู้ปกครอง ทั้งผ่านทางการส่งอีเมล แจ้งไว้ในเว็บไซต์ และโทรไปหาที่โรงเรียน ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม พ.ศ.2567 เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมต่อกรณีที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่มีใครติดต่อกลับมา

เรายังมีโอกาสได้คุยกับตัวแทนสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนนานาชาติหนึ่งในสองโรงเรียนที่ถูกพาดพิง ซึ่งแสดงอาการแปลกใจต่อพฤติกรรมของครูวีตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าได้รับทราบเรื่องราวนี้ผ่านการโพสต์ลงโซเชียลมีเดียของหนึ่งในผู้เสียหาย ช่วงต้นปี พ.ศ.2567 โดยเขาระบุว่า หากมีโอกาสจะประสานให้ได้พบกับทางผู้บริหารโรงเรียน โดยปัจจุบัน ทีมข่าวก็ยังคงรอการติดต่อกลับอยู่

สิ่งที่เราต้องการจากกรณีที่เกิดขึ้นนั้นเรียบง่ายมาก กล่าวคือ

1. ครูวีได้เข้าพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรมว่ากระทำตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ไม่ว่าจะในไทยหรือในสหรัฐอเมริกา (ปัจจุบันครูวีอยู่ในสหรัฐฯ) โดยปัจจุบันมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ รวมถึงสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (Homeland Security Investigation)
2. ติดตามสอบถามว่า โรงเรียนนานาชาติทั้ง 2 แห่งซึ่งครูวีเคยสอน ได้มีมาตรการและกลไกป้องกันเหตุล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงมีช่องทางแจ้งเหตุไว้อย่างเพียงพอ เพื่อช่วยคุ้มครองให้เด็กนักเรียนปลอดภัยมากน้อยเพียงใด

หากมีความคืบหน้าใดๆ ทั้งทางคดีและท่าทีจากโรงเรียนและผู้เกี่ยวข้อง เราจะมารายงานให้ทราบต่อไป