svasdssvasds

พบผู้ป่วยฝีดาษลิง รายแรกในประเทศไทย ชี้ผู้ป่วยเดินทางมาจากทวีปแอฟริกา

พบผู้ป่วยฝีดาษลิง รายแรกในประเทศไทย ชี้ผู้ป่วยเดินทางมาจากทวีปแอฟริกา

ด่วนพบผู้ป่วยฝีดาษลิง รายแรกในประเทศไทย ชี้ผู้ป่วยเดินทางมาจากทวีปแอฟริกา สาธารณสุขออกแถลงการอยู่ในขั้นตอนการตรวจยืนยันสายพันธุ์ซ้ำอีกครั้ง

SHORT CUT

  • พบผู้ป่วยเสี่ยงเป็นฝีดาษลิงรายแรกของประเทศไทยหลังเดินทางมาจากทวีปแอฟริกา
  • ขณะนี้กำลังตรวจยืนยันสายพันธ์ุซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากผลตรวจสายพันธุ์ Clade 2 เป็นลบ และ Clade 1B ให้ผลไม่ชัดเจน
  • ในขณะนี้ได้ส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงใกล้ชิดกับผู้ป่วยในช่วงก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย 43 ราย

ด่วนพบผู้ป่วยฝีดาษลิง รายแรกในประเทศไทย ชี้ผู้ป่วยเดินทางมาจากทวีปแอฟริกา สาธารณสุขออกแถลงการอยู่ในขั้นตอนการตรวจยืนยันสายพันธุ์ซ้ำอีกครั้ง

เมื่อเวลา  10.21 น.วันที่  21 ส.ค.2567 กรมควบคุมโรค ได้แจ้งด่วน พบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานร Clade 1 รายแรกในไทย เดินทางจากทวีปแอฟริกา และเตรียมแถลงข่าวด่วน โดย นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกแถลงการเวลา 13.00 น. กรณีพบผู้ป่วยสงสัยโรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิงสายพันธ์ Clade 1 รายแรกในไทยที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณะสุขที่มีผลกระทบระหว่างประเทศและเป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่พบในไทยมาก่อน

ผู้ป่วยต้องสงสัยรายนี้ เป็นผู้ป่วยชายชาวยุโรป อายุ 66 ปี เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาด โดยเดินทามาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 เวลา 18.00 น. และในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 มีอาการป่วย มีไข้ มีตุ่มขึ้นเล็กน้อย จึงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งผลตรวจเชื้อฝีดาษลิง สายพันธุ์ Clade 2 ให้ผลเป็นลบ ส่วนสายพันธุ์ Clade 1B ให้ผลไม่ชัดเจน จึงอยู่ในระหว่างการตรวจใหม่

 

 

โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้การระบาดของฝีดาษวานร เคลดวันบี (สายพันธุ์ Mpox clade 1b) เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern PHEIC)


นายแพทย์ธงชัยกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจยืนยันสายพันธุ์ซ้ำอีกครั้ง คาดว่าในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 จะทราบผลอย่างชัดเจน หากผลการตรวจยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์ 1B ก็จะถือเป็นผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทยที่พบสายพันธุ์ 1B

ในขณะนี้ได้ส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงใกล้ชิดกับผู้ป่วยในช่วงก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย 43 ราย และขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกาสังเกตอาการภายใน 21 วัน หากมีอาการไข้ มีผื่นขึ้น ต่อมน้ำเหลืองโต ให้รีบพบแพทย์ทันที

นายแพทย์ธงชัยกล่าวต่อว่า สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย โดยผู้โดยสารแถวที่ใกล้ชิด 2 แถวหน้าหลังรวมถึงผู้ที่ใกล้ชิดอีก 43 ราย ขณะนี้มีรายชื่อหมดแล้ว และยังกล่าวต่อว่าแม้ผลตรวจจะยังไม่ชัดเจน 100% แต่กรมควบคุมป้องกันโรคต้องให้ข้อมูลกับประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจและลดความตื่นตระหนก 

 

 

 

กรมควบคุมโรคมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคฝีดาษวานรรวมถึงโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำอื่นๆอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ๆอาจมีโอกาสพบผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่มีอาการสงสัยหรือแพร่โรคได้ จึงขอเน้นย้ำการป้องกันโรคฝีดาษวานร ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด หรือคนพลุกผล่าน หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด และทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวจุดสัมผัสร่วมสม่ำเสมอ

  2. หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น

  3. หากผู้ที่มีอาการสงสัย สามารถเข้ารับการตรวจเชื้อได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อสายด้วย 1422 กรมควบคุมโรค

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related