svasdssvasds

สมเด็จพระพันปีหลวง ผู้นำเทรนผ้าไทย 1 ในสุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก !

สมเด็จพระพันปีหลวง ผู้นำเทรนผ้าไทย 1 ในสุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก !

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นมีบทบาทนำการแต่งกายแบบไทย สู่สายตาชาวโลก แสดงออกถึงความเป็นชาติไทยได้อย่างสง่างาม

นอกจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงมีพระราชกรณียกิจที่เป็นมหาคุณูปการให้กับผืนแผ่นไทยและคนในชาติมามากมายแล้ว พระองค์ยังทรงมีบทบาทเป็นผู้นำการแต่งกาย แบบไทยอย่างแท้จริงด้วย เพื่อให้สตรีชาวไทยมีเครื่องแต่งกายที่แสดงออกถึงความเป็นชาติไทยได้อย่างสง่างาม ซึ่งถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของผ้าไทยด้วย

การทรงงานเกี่ยวกับ ‘เครื่องแต่งกายอย่างไทย’ ของสมเด็จพระพันปีหลวง ต้องย้อนกลับไปสมัย พ.ศ 2503 พระองค์ ทรงมีหมายกำหนดการโดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาและ 15 ประเทศในทวีปยุโรป เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและเพื่อประกาศให้ชาวโลกได้รู้จักประเทศไทย

ผู้นำการแต่งกายด้วยผ้าไทย สู่ชาวโลก

ในฐานะพระราชินีแห่งราชอาณาจักรไทย พระองค์ จึงต้องทรงเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเตรียมฉลองพระองค์ให้เหมาะสมกับทุกโอกาส จึงมีพระราชประสงค์ที่จะทรงทั้ง “ฉลองพระองค์ชุดไทย” ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ไทย และ “ฉลองพระองค์แบบสากล” เพื่อให้เหมาะสมกับงานพิธีแบบตะวันตก

แต่เวลานั้นสตรีไทยยังไม่มีชุดประจำชาติที่แน่นอนอย่างสตรีอินเดียที่สวมส่าหรี และสตรีญี่ปุ่นที่สวมกิโมโน ประกอบกับช่างไทยในสมัยนั้นก็ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการตัดชุดหรือเครื่องแต่งกายแบบตะวันตก

สมเด็จพระพันปีหลวง จึงทรงสอบถามผู้รู้และมีประสบการณ์ รวมทั้งการศึกษาจากประวัติศาสตร์อย่างละเอียดถี่ถ้วน และมีพระราชเสาวนีย์ให้ผู้เชี่ยวชาญค้นคว้าประวัติศาสตร์ ธรรมเนียมการแต่งกายของสตรีไทยในราชสำนักโบราณ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ออกแบบฉลองพระองค์ชุดไทยแบบต่างๆ เพื่อทรงในระหว่างเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการในครั้งนั้น

สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นาย ปิแอร์ บัลแมง (Pierre Balmain) นักออกแบบชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้ดูแลการออกแบบตัดเย็บและให้คำแนะนำเรื่องการแต่งกายตามธรรมเนียม และนาย ฟรองซัวส์ เลอซาจ (Francois Lesage) ช่างฝีมือในการปักเสื้อชื่อดังของฝรั่งเศส เป็นผู้ดูแลเรื่องงานปักฉลองพระองค์ โดยโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับการจัดเตรียมฉลองพระองค์ทั้งหมด

สมเด็จพระพันปีหลวง ผู้นำเทรนผ้าไทย 1 ในสุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก !

ฉลองพระองค์ พ.ศ.2503 ในนิทรรศการ "งามสมบรมราชินีนาถ"

โดยฉลองพระองค์ที่นาย ปิแอร์ บัลแมง ออกแบบทูลเกล้าฯ ถวาย ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’ สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและประเทศในทวีปยุโรปครั้งนั้น พระองค์พร้อม ร.9 ทรงขนชุดไปนับสิบกระเป๋า ซึ่งแต่ละชุดมีความงดงามและสมพระเกียรติเป็นอย่างยิ่ง จนสื่อมวลชนและชาวต่างประเทศให้ความสนใจ ชื่นชมพระสิริโฉมของ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ เป็นอย่างมาก

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายเอลวิส เพรสลีย์ เข้าเฝ้า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2503

จนบรรดาผู้เชี่ยวชาญเครื่องแต่งกายสตรีของโลก ต่างเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินีของประเทศไทยเวลานั้นให้เป็น 1 ใน 10 สตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก พ.ศ.2503 (International Best Dressed List Hall of Fame in 1960) และ สตรีที่แต่งกายงดงามที่สุดในโลกปี พ.ศ.2507 (The 1964 list of the world's best dressed)

ต่อมาในปีพ.ศ.2508 มีการจารึกพระนามาภิไธยในหอแห่งเกียรติคุณ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในฐานะที่ทรงเป็น 1 ใน 12 สุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก (12 the World's Best-Dressed Women Hall of Fame1965 in New York)

กำเนิดชุดไทยพระราชนิยม

ทั้งนี้นิตยสาร "โว้ก" (Vogue) นิตยสารระดับโลก ยังชื่นชมในพระราชจริยวัตรอันงดงามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในฉลองพระองค์ชุดไทย จึงได้ส่งช่างภาพมาขอพระราชทานพระฉายาลักษณ์ นำไปเผยแพร่ในนิตยสารโว้ก ฉบับเดือนกรกฎาคม พ.ศ 2525 ส่งผลให้ผ้าไทยมีชื่อเสียงอย่างมาก และเป็นที่นิยมสวมใส่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ฉลองพระองค์ที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงนำไปตะวันตกทั้งหมด ก็เอากลับมาตัดแก้ และทรงสวมใส่ใหม่ที่ไทย ครั้งต้องเสด็จฯไปในการพระราชพิธี ตาม ร.9 ในโอกาสต่างๆ ซึ่งมีทั้งแบบตัดให้สั้นลงบ้าง บางลงบ้างเพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศเมืองไทย

ต่อมา พระองค์ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดพิมพ์สมุดภาพ "หญิงไทย" เผยแพร่การแต่งกายชุดไทยพระราชนิยม ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ออกแบบสร้างสรรค์ จำนวน 5 แบบ และหลังจากชุดไทยพระราชนิยม 5 แบบดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นอีก 3 แบบ รวม 8 แบบ

  1. ไทยเรือนต้น เป็นชุดที่ใช้ได้หลายโอกาส ใช้เป็นชุดลำลองในงานเลี้ยงที่ไม่เป็นพิธีการ
  2. ไทยจิตรลดา เป็นชุดไทยสำหรับพิธีกลางวัน ใช้ในงานพิธีการมากกว่าชุดไทยเรือนต้น
  3. ไทยอมรินทร์ ไทยบรมพิมาน ไทยจักรพรรดิ และไทยดุสิต เป็นชุดสำหรับสตรีสวมสายสะพายในงานพระราชพิธี ที่กำหนดให้แต่งกายเต็มยศ
  4. ไทยจักรี ใช้สำหรับงานกลางคืน งานแต่งงานหรืองานราตรีสโมสรที่ไม่เป็นทางการ และอากาศไม่เย็นมากนัก โดยเป็นชุดไทยห่มสไบ เปิดไหล่ข้างหนึ่ง
  5. ไทยศิวาลัย เป็นชุดไทยของสตรีบรรดาศักดิ์ในสมัยก่อน มักใช้ในงานตอนค่ำ งานเลี้ยง งานฉลองสมรส หรืองานพิธีเต็มยศ เหมาะสมสำหรับช่วงอากาศเย็นเพราะมีหลายชั้น

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เผยแพร่ชุดไทยทั้ง 8 แบบนี้ ให้สตรีไทยทั่วไปนำไปแต่งกายได้และใช้เป็นแบบมาตรฐาน ซึ่งมีการประยุกต์เป็นชุดไทยอีกหลายแบบ ปรากฏเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และถือเป็นชุดประจำชาติไทยสืบมาจนถึงปัจจุบัน

ภาพ : สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์Queen Sirikit Museum

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

related