SHORT CUT
"เชิญคุณผู้หญิงก่อนครับ" วัฒนธรรม "Ladies First" ควรมีต่อไป หรือล้าสมัยไปแล้ว? ในยุคสมัยที่โลกเต็มไปด้วยความเท่าเทียม
มารยาทถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะมารยาทการวางตัวกับเพศตรงข้าม นั่นจึงทำให้เกิด "วัฒนธรรม Ladies First" ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ชายปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างให้เกียรติ ซึ่งฟังดูแล้วก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่โรแมนติกไม่น้อย และสามารถเปลี่ยน ‘ผู้ชายธรรมดาๆ’ คนหนึ่ง ให้มีความเป็น “สุภาพบุรุษ” มากขึ้น
แต่คำถามก็คือ ในยุคที่มีการผลักดันเรื่องความเท่าเทียมทางเพศกันทั่วโลก และมีการแสดงพลังสตรีกันแทบทุกสื่อ ‘วัฒนธรรม Ladies First’ ที่ต้องให้เกียรติผู้หญิงก่อนเสมอ ถือว่าล้าสมัยไปหรือยัง?
ไม่มีการบันทึกไว้แน่ชัดว่า วัฒนธรรมให้เกียรติผู้หญิงก่อน เริ่มจากไหนเป็นที่แรก แต่มีข้อสันนิษฐานดังนี้
เรื่องผู้หญิงมาก่อน อาจมีมาตั้งแต่สมัยยุคหิน (2 ล้านปีก่อนคริสตกาล) เพราะผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เมื่อมนุษย์ถ้ำได้ถูกสัตว์ร้ายโจมตี พวกเขาจะส่งผู้หญิงไปตัวหลอกเพื่อดึงดูดความสนใจก่อน จากนั้นนักล่าที่เป็นผู้ชาย จะลอบเข้าไปโจมตีสัตว์ร้ายจากด้านหลัง ซึ่งถือเป็นแผนที่ฉลาดที่สุดเท่าที่มนุษย์ยุคนั้นจะคิดได้
ส่วนในยุคกลาง (ปี 476-1453) บรรดาอัศวินมีหน้าที่ต้องปกป้อง ท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ พวกเขาจึงมีกฎระเบียบที่เข้มงวด จนถึงขั้นเอาเสื้อคลุมของตนเองวางทับบนแอ่งโคลน เพื่อให้เจ้าหญิงสามารถเดินข้ามได้อย่างสะอาด และปลอดภัย ซึ่งวัฒนธรรมให้เกียรติผู้หญิงก่อนเสมอนี้ปฏิบัติสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
หลายคนเชื่อว่า Ladies First เกิดขึ้นในช่วงที่เรือไททานิกกำลังจะจม (1912) เพราะลูกเรือพยายามช่วนให้ผู้หญิงและเด็กหนีขึ้นเรือชูชีพก่อน ดูได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่เผยว่า ผู้หญิงบนเรือ 74% และเด็กบนเรืออีก 52% ได้รับการช่วยชีวิต แต่มีเพียง ผู้ชาย 20%เท่านั้นที่รอดชีวิต
หลายคนเชื่อว่าคำนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยชีวิตผู้หญิงและเด็กในสถานการณ์อันตรายและคุกคามชีวิต ดังนั้น หลังจากที่เรือไททานิกชนภูเขาน้ำแข็งและจมลง ผู้หญิงบนเรือ 74% ได้รับการช่วยชีวิต เด็ก 52% ได้รับการช่วยชีวิต แต่มีเพียง 20% ของผู้ชายเท่านั้นที่รอดชีวิต
ข้อสันนิษฐานนี้อาจจะดูแปลกไปบ้าง เพราะมีเรื่องเล่าเชิงขำขันที่บอกว่า ชายหญิงคู่หนึ่งในอิตาลีที่รักกันมากจนแทบขาดกันไม่ได้ แต่ด้วยสถานการณ์ทางสังคมที่ไม่เอื้ออำนวย พ่อแม่ของพวกเขาจึงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของทั้งสอง จึงทำให้ คู่รักคู่นี้ตัดสินใจไปกระโดดน้ำตายพร้อมกัน
เมื่อถึงเวลาโดดจริง ฝ่ายชายขอโดดลงไปก่อนเพราะไม่อยากเห็นคนรักตายไปต่อหน้าต่อตา แต่หลังจากนั้นฝ่ายหญิงกลับไม่โดดลงไป และตัดสินใจรักษาชีวิตกลับบ้านไปหาพ่อแม่ของเธอ หลังจากนั้น เมื่อผู้ชายหลายคนทราบเรื่องนี้ จึงมีคำพูดใหม่เกิดขึ้น นั่นคือ “เชิญคุณผู้หญิงก่อนครับ”
ทั้งหมดนี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า Ladies First จะมาจากไหน แต่ทั่วโลกก็เข้าใจตรงกันว่า คือการแสดงความสุภาพต่อสุภาพสตรี ในหลายๆ สถานการณ์ เช่น การให้ผู้หญิงขึ้นลิฟต์ก่อนให้ผู้หญิงเลือกของขวัญก่อน หรือให้ผู้หญิงนั่งก่อน เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายต้องทำตามหลังผู้หญิงทั้งหมด เพราะการที่ ผู้ชายลงจากรถเป็นคนแรก เพื่อดูความปลอดภัย แล้วจึงให้ผู้หญิงตามลงมา ก็ถือเป็น วัฒนธรรมแบบ Ladies First ด้วยเช่นกัน
เมื่อไม่นานมานี้ เรื่อง ‘Ladies First’ กลายเป็นประเด็นที่คนไทยถกเถียงกันอีกครั้ง เมื่ออินฟลูชายชื่อดังท่านหนึ่ง โพสต์ประสบการณ์ที่ตนไปต่างประเทศทำนองว่า ที่นั่นเขาให้เกียรติผู้หญิงก่อน ทั้งเรื่องตรวจยื่นพาสปอร์ต หรือรินไวน์ให้ในร้านอาหาร ซึ่งมารยาทแบบนี้ ทำให้อินฟลูชายท่านนี้ประทับใจมาก และเขายังแสดงความคิดเห็นด้วยว่า “เรื่อง Ladies First ในสังคมไทยมาตรฐานน้อยมาก”
จากโพสต์ดังกล่าว ทำให้มีคนในโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก โดยฝ่ายที่เห็นด้วยแสดงความคิดเห็นประมาณว่า “โพสต์นี้ทำให้คุณคือผู้ชาย ที่หล่อที่สุดในปี 2024 เลยค่ะ” , “กดเลิฟเลย” , “ถูกต้องครับ ผู้ชายต้องเป็นผู้นำ เป็นที่พักพิง” ฯลฯ
ส่วนฝั่งที่ออกมาแสดงความคิดเห็นตรงข้าม ก็บอกประมาณว่า “ไม่ต้อง Ladies First หรอก .. แค่ ‘Respect’ กันและกันก็พอครับ” , “การที่ผู้ชายคนไหนไม่Ladies First ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายคนนั้นไม่ดีนะ” “มาอีกแล้วคอนเทนต์ด้อยค่าชายไทย อวยต่างชาติ55555” ฯลฯ
และล่าสุดหลังจากโพสต์เกิด “การมีส่วนร่วม (Engagement) ” แบบถล่มทลาย แอดมินหญิงของอินฟลูชายดังกล่าว ได้ออกมาตอบทำนองว่า “Ladies first มันคือสิ่งที่ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ คนทำและคนได้รับต้องรู้สึกเต็มใจทั้งคู่ทำแล้ว “เรา” มองว่าดูดีขึ้นจริง คนอื่นมองไงอันนี้ไม่รู้ และ คนที่ไม่ทำ เราก็มองแค่ว่าเป็นคนปกติ ไม่ได้ผิดอะไร (ไม่ + หรือ -) ”
เวลานี้โพสต์ดังกล่าวปาเข้าไปมากกว่า 2,000 คอมเมนต์ เกิน 4000 แชร์ไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และผู้ที่ไม่เห็นด้วยผสมปนเปกันไป จนกลายเป็นหัวข้อถกเถียงหลักในโลกโซเชียลชในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ค่านิยมนี้อาจดูดีจนไม่มีใครแย้ง แต่ในปัจจุบัน เมื่อโลกเปลี่ยนไป มีการเพิ่มสิทธิสตรี ผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความเท่าเทียมทางเพศในหลายประเทศ จนอาจเรียกได้ว่า จะเพศชาย เพศหญิง หรือ LGBTQ+ ก็มีความเท่าเทียมกัน ไม่ได้มีใครถูกกดลง หรือสูงเกินใคร ดังนั้นเราควรหยุดแนวคิดเรื่อง เพศไหนควรได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษให้หมดไปหรือเปล่า ?
ในทางตรงกันข้าม การให้เกียรติผู้หญิงในทุกสถานการณ์ อาจเป็นการขยายช่องความไม่เท่าเทียมทางเพศให้กว้างกว่าเดิม เพราะมันง่ายมาก ที่ผู้หญิงหลายคนที่ได้รับเกียรตินั้น อาจรู้สึกว่าตนเองบอบบาง อ่อนแอกว่าผู้ชายทุกด้าน เลยต้องให้ผู้ชายทำให้ก่อนในหลายๆ อย่าง หรือกล่าวอีกแบบคือ วัฒนธรรมนี้ ทำให้ผู้หญิงยังดูเป็นเพศที่อ่อนแอเหมือนภาพจำเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ?
จริงอยู่ที่ผู้หญิงเป็นเพศที่เสี่ยงต่อการโดนคุกคามมากกว่าผู้ชาย ดังนั้น การมีพื้นที่จอดรถให้ผู้หญิงหรือโบกี้รถไฟสำหรับผู้หญิงเพื่อความปลอดภัย อาจจำเป็นต้องมีต่อไป แต่พวกมารยาทแบบ Ladies First ในทุกสถานการณ์นั้น อาจต้องดูความเหมาะสมแต่ละกรณีไป มากกว่าทำแบบพร่ำเพรื่อโดยที่ผู้หญิงก็ไม่ได้ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะสรุปว่า Ladies First ล้าสมัยหรือยัง เพราะตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันดูจะเป็น “มารยาทสากล” ที่ฝังรากลึกไปแล้ว แต่ที่สามารถกล่าวได้แน่นอนคือยุคนี้ ผู้คนหันมาให้ความสำคัญเรื่องเท่าเทียมทางเพศกันหมดแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าใครก็มีศักดิ์ศรีไม่ต่างกัน
ที่มา : The Three Or Four Suspected Origins Of The Term “Ladies First.”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง