นักบินเผยภาพนาทีระทึกบั้งไฟพุ่งเฉียดเครื่องบิน ในระดับความสูงเกือบ 8 พันฟุต หวั่นเกิดหายนะ ชี้ยิ่งประเพณีเอี่ยวการพนัน ทำให้ยิ่งพัฒนาบั้งไฟขึ้นสูง วอนมีจิตสำนึก และขอให้ขออนุญาตหน่วยงานด้านการบินก่อน และทำการปล่อยในจุดที่ขออนุญาต
ประเพณี บุญบั้งไฟ เป็นประเพณีสำคัญของภาคอีสานนิยมทำกันในเดือนหก ชาวอีสานมีความเชื่อว่า ถ้าปีใดไม่จัดงานบุญบั้งไฟ ฟ้าฝนก็จะไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดความแห้งแล้ง และหากมีงานประเพณีบุญบั้งไฟ ฟ้าฝนก็จะตกต้องตามฤดูกาล เกิดความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นพิธีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ
แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปการจุดบั้งไฟที่พุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้าอาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบินที่สัญจรไปมาบนท้องฟ้า อย่างกรณีล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก "บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน" ได้เผยแพร่เรื่องราวที่นักบินเจอบั้งไฟพุ่งเฉียดเครื่องบิน ในระดับความสูง 6 พันฟุต จนถึงกับต้องบินหลบและแจ้งให้ลำอื่นๆรู้ โดยได้ระบุว่า
นอกจากทางทางเหนือมีโคมลอยแล้ว ทางภาคอีสานก็ยังมีบั้งไฟอีกที่เป็นอันตรายต่อการบินมาก
อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ เข้าใจว่ามันเป็นประเพณีที่ทำกันมายาวนาน แต่อยากให้ทุกคนที่มีส่วนร่วมกับประเพณีนี้ขอให้มีจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยของส่วนรวมด้วย เพราะมันอันตรายกับอากาศยานมาก รวมถึงผู้โดยสารบนเครื่องบินครับ
ถ้าจะปล่อยบั้งไฟขอให้ขออนุญาตหน่วยงานด้านการบินก่อน และทำการปล่อยในจุดที่ขออนุญาต รวมถึงการเล่นการพนันขันต่อว่าบั้งไฟลูกไหนจะสูงกว่ากัน เลิกเถอะครับเพราะอันนี้มันไม่ใช่ประเพณีแล้ว ยิ่งมีคนเดิมพัน คนยิ่งผลิตก็ยิ่งพัฒนาให้บั้งไฟสูงขึ้นไปอีก
อย่างวันนี้ผมเทคออฟจากอุบล จากพิกัด radial 266 จากสนามบิน เจอบั้งไฟห่างจากเครื่องบินผมไม่ถึง 200 เมตร ขนาดผมอยู่ที่ความสูง 6000 ฟุต บั้งไฟยังขึ้นไปสูงกว่าผมอีก(มองด้วยสายตาน่าจะความสูง 8000ฟุต) ซึ่งมันอันตรายมาก หายนะเกิดได้ง่ายๆเลยกับการกระทำแบบนี้เพราะผมแจ้งหอว่าบริเวณนี้มีการปล่อยบั้งไฟ และหอไม่มีการรายงานการขออนุญาตในเขตพื้นที่แถวๆนี้ หลังจากนั้นเครื่องบิน ATR ของกองทัพอากาศก็รีพอร์ทบั้งไฟลูกอื่นๆ ตามมา หอบังคับการบินต้องให้คำแนะนำทิศทาศนักบินบินหลบกันอุตลุด คิดดูมันอันตรายแค่ไหน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง