ระวัง! 7 โรคอันตราย ภัยร้ายจากการเล่นน้ำสงกรานต์ 2567 อย่าสนุกจนลืมตัว
เทศกาลสงกรานต์ 2567 อย่าสนุกสนานจนลืมระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้น ทั้งการติดเชื้อโรคต่างๆ โรคจากสภาพอากาศร้อนจัด
สงกรานต์ 2567 เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตามประเพณีไทย ช่วงเวลาแห่งความสุข ที่หลายคนได้หยุดงาน หยุดเรียน และได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ทั้งกับเพื่อน ครอบครัว ซึ่งในปีนี้ เทศกาลสงกรานต์ ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ หลายพื้นที่มีการจัดงานเล่นน้ำสงกรานต์แบบเต็มรูปแบบ แต่เทศกาลแห่งความสนุกสนานเหล่านี้ก็หนีไม่พ้นโรคภัยที่แฝงมาด้วย
7 โรคอันตราย ที่ต้องระวังจากการเล่นสงกรานต์
-
โรคตาแดง
อีกหนึ่งโรคฮิตช่วงสงกรานต์ เพราะน้ำที่ใช้สาดส่วนใหญ่เป็นน้ำที่ไม่สะอาด บางภาคของประเทศไทย ใช้น้ำในคูเมืองสาดกัน น้ำเหล่านี้หากกระเด็นเข้าตา จะทำให้เกิดการติดเชื้ออักเสบ และเกิดโรคตาแดงขึ้นได้ แม้ว่าจะมีการใส่แว่นกันน้ำก็ตาม แต่มือของเราหากสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคและไม่ทันได้ล้างมือก่อนขยี้ตา ก็สามารถทำให้เกิดโรคตาแดงได้เช่นกัน
-
โรคติดต่อทางผิวหนัง
โรค กลาก เกลื้อน หรือผดผื่นร้อน มักจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนจากการไม่รักษาความสะอาด เช่น น้ำที่เล่นช่วงสงกรานต์ไม่สะอาด บวกกับเสื้อผ้าที่เปียกชื้นตลอดเวลา การเกิดโรคผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ลักษณะอาการคือจะมีตุ่มใส ตุ่มแดง ผื่นวงแดง ผื่นจุดสีขาว หรือคันตามจุดอับชื้นต่างๆ หากมีผดผื่นเหล่านี้ ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา
-
ไข้หวัดและปอดอักเสบ
การออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ เราต้องอยู่ในเสื้อผ้าที่เปียกชื้นตลอดเวลา บางคนออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ตั้งแต่เช้า กลับเข้าบ้านอีกทีเที่ยงคืน โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย หากในช่วงนั้นภูมิเราตกหรือในคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ อาจทำให้เป็นไข้หวัดหรือเกิดโรคปอดอักเสบได้
-
โรคอาหารเป็นพิษ โรคท้องร่วง
เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศร้อนเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคดั่งกล่าวถ่ายเหลว ท้องเสีย หากมีภาวะขาดน้ำอาจทำให้ช็อคหมดสติได้
-
โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก
ฮีทสโตรกเป็นอีกโรคที่ควรระวังในการออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ โรคนี้เกิดจากอากาศที่ร้อนจัด และอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่า 40 องศา บวกกับร่างกายที่ขาดน้ำเป็นเวลานาน จนทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และระดับความเข้มของเลือดและเกลือแร่ในร่างกายเข้มข้นจนเกินไป นำไปสู่โรคลมแดดหรือฮีตสโตรก อาการที่สังเกตได้ เช่น กระหายน้ำอย่างมาก เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ หน้ามืด ความดันต่ำ จนช็อก หมดสติ หากไม่ได้รับการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง อาจเสียชีวิตได้
-
โรคหูอักเสบ
เป็นโรคที่พบบ่อยในคนทุกวัย มักเกิดจากการแคะหู เนื่องจากการเล่นน้ำอาจทำให้น้ำเข้าหูได้ มักมีอาการปวดหู หูอื้อ มีน้ำเหลืองเยิ้มคล้ายหูแฉะ อาจเป็นถึงขั้นรุนแรงได้ในผู้ป่วยมะเร็ง
-
โรคสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
อันตรายจากปรสิตในน้ำสงกรานต์ โดยนีเกลอเรียเป็นอะมีบาที่พบในแหล่งน้ำจืดรวมถึงน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ป่วยมักได้รับเชื้อโดยบังเอิญจากการสําลักน้ำทางจมูก เชื้อจะเข้าสู่โพรงจมูกแล้วผ่านเข้าสู่สมอง ทําให้เกิดโรคสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาการเบื้องต้น มีไข้ คัดสมูกบ่อย ปวดศรีษะมาก อาเจียน ชักและหมดสติมักเสียชีวิตหลังจากเริ่มปรากฏอาการภายใน 7 วัน
ถึงแม้ว่าการออกไปเล่นน้ำสงกรานต์จะสนุกแค่ไหน แต่การดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคภัย เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเที่ยวเล่นจนสนุกสุดขีด แต่กลับมาต้องป่วยต่อ หรือมีความเสี่ยงถึงชีวิต ก็คงไม่คุ้มกับความสนุกแค่เพียงชั่วคราว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
