กมธ.อุตสาหกรรมเตรียมบุกระยอง ลุยตรวจสอบโรงงานจีนที่มีผู้เสียชีวิตหลายราย เข้มเสนอยกเลิกวีซ่านักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้วทำผิดกฎหมายซ้ำซาก เผยล่าสุดมีจับกุม สั่งหยุดประกอบกิจการไปหลายราย
จากเหตุการณ์เครนถล่มล้มทับนั่งร้านในระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กและเหล็กกล้า อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีลูกจ้างชาวต่างชาติเสียชีวิต 7 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่เหตุการณ์เครนถล่มครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีต ถือได้ว่าเป็นปัญหาซ้ำซากที่ยังไม่สามารถแก้ไขให้หมดไปได้
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.สราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีโรงงานถลุงเหล็กของนักลงทุนจีนที่ จ.ระยองถล่มว่า ได้ขอให้ สส.ระยอง ที่เป็นกมธ.อุตสาหกรรมลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลมาเสนอ กรรมาธิการอุตสาหกรรมพิจารณา เพราะมีข้อมูลว่ามีนักลงทุนจากประเทศจีนมาลงทุนก่อสร้างโรงงานกระทำการผิดกฎหมายจำนวนมาก
กมธ.กำลังติดตามพฤติกรรมของนักลงทุนจีนเหล่านี้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย มีข้อมูลว่ามีอยู่หลายราย ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต การประกอบกิจการผิดประเภท การก่อมลภาวะให้ชุมชน และการใช้นอมินีมาสวมสิทธิ์การประกอบกิจการ รวมถึงการทำผิดกฎหมายอื่นๆอีกหลายอย่าง
ล่าสุดพบว่ามีโรงงานของนักลงทุนจีนแห่งหนึ่ง มีการขนย้ายและดำเนินการเรื่องกากแร่ที่เป็นวัตถุอันตรายที่ผิดกฎหมาย อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชนอย่างมาก ซึ่งกรรมาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งกมธ.กำลังไล่ตรวจสอบโรงงานลักษณะนี้ทั่วประเทศ โดยตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการจับกุมนักลงทุนจีนรายหนึ่งที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จังหวัดชลบุรี และกำลังตรวจสอบอีก 2 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดฉะเชิงเทรา
พบว่ามีนักลงทุนจากประเทศจีนกระทำผิดกฎหมายอยู่หลายแห่ง ทำธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน กรณีที่เกิดขึ้นกมธ.ได้เร่งเก็บข้อมูลเพื่อประชุมพิจารณาดำเนินการโดยประสานเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ทั้งกรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการคดีและดำเนินการจับกุมต่อไป
เมื่อถามว่า การทำผิดลักษณะนี้ กมธ.ได้รับแจ้งข้อมูลจำนวนมากหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า กมธ.ได้รับแจ้งข้อมูลจำนวนมากมีทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงของกมธ. อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ และที่ตำรวจจับกุมไปแล้วก็มี ล่าสุดที่จังหวัดสมุทรสาครทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการชั่วคราวและมีอยู่อีกหลายรายที่กมธ.ได้ติดตามอยู่ กรณีจังหวัดฉะเชิงเทรากมธ.อุตสาหกรรมได้ลงไปตรวจสอบอย่างจริงจังแล้ว
เมื่อถามว่า การที่เราเข้มงวดจะทำให้กระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนจีนหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า ในระยะยาวเราต้องการนักลงทุนที่มีคุณภาพมาลงทุน ประเทศไทยไม่ต้องการนักลงทุนที่มาเอาเปรียบและทำร้ายคนไทยเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศในหลายๆด้านกมธ.กำลังตรวจสอบนักลงทุนจากจีนที่ทำผิดกฎหมายมีอยู่จำนวนมาก ที่ดำเนินการอยู่มี 5-6 รายแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าทางการจีนเข้าใจการดำเนินการของไทยหรือไม่ ประธานกมธ.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ในอนาคตคงต้องหารือกับทางการจีนว่า ต้องคัดเลือกนักลงทุนที่มีคุณภาพ และให้ทางการจีนพิจารณาดำเนินการลงโทษคนที่ทำผิด ล่าสุดกมธ.ได้ประชุมร่วมกับบีโอไอ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และอีกหลายหน่วยงาน โดยได้กำหนดแนวทางเบื้องต้นแก่นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนแล้วทำผิดกฎหมายทำร้ายสุขภาพคนไทย ทำลายสิ่งแวดล้อมของไทยไม่ให้เข้ามาประกอบธุรกิจในไทย โดยเสนอให้ภาครัฐยกเลิกวีซ่า และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป