SHORT CUT
กรมควบคุมโรค เตือนผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค หลีกเลี่ยงออกจากบ้านช่วงสถานการร์ฝุ่น PM 2.5 พร้อมแนะวิธีป้องกันตนเองเบื้องต้น ปิดบ้านให้มิดชิด ตรวจเช็กค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้าน สวมแมสก์ชนิดที่ป้องกันฝุ่นได้
คนกรุงและคนเชียงใหม่ ในช่วงนี้ ชีวิตยังคงวนเวียนอยู่กับ ฝุ่น PM 2.5 ที่ดูเหมือนสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นสักทีมีแต่ทรงกับทรุด ล่าสุด (22 มี.ค. 67) เว็บไซต์ iqair จัดอันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกยังพบว่า กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยอยู่อันดับ 12 ของโลก ขณะ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของไทยอยู่อันดับที่ 14 ของโลก ควงคู่กันมาแบบไม่เกรงใจสุขภาพประชาชน
ด้าน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ห่วงสุขภาพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก หลังประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลได้กลิ่นเหม็นไหม้ และพบว่ามีหมอกควันปกคลุมหลายพื้นที่ ค่าฝุ่นยังคงเกินค่ามาตรฐานในระดับสีแดง โดยเฉพาะผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง คือ
ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะมีอาการผิดปกติเจ็บป่วยหรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงได้มากกว่าคนทั่วไป
นายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีประชาชนจำนวนมากในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้กลิ่นเหม็นไหม้ และพบว่ามีหมอกควันปกคลุมในหลายพื้นที่ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองคอ ไอ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ใจสั่น ระคายเคืองตา หรือเป็นผื่นคันตามร่างกาย และผู้ที่สัมผัสฝุ่นอย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง คือ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะมีอาการผิดปกติเจ็บป่วยหรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงได้มากกว่าคนทั่วไป
ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้เฝ้าระวังสถานการณ์การเจ็บป่วยที่อาจเกี่ยวเนื่องจากการได้รับสัมผัสฝุ่นละอองขนาดเล็กใน 4 กลุ่มโรคดังกล่าว พบว่าระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 20 มีนาคม 2567 อัตราป่วยทั้งหมด 977 รายต่อประชากรแสนคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง