SHORT CUT
เด้งทั้งคู่!! นายกสั่ง ต่อศักดิ์ – บิ๊กโจ๊ก เข้ามาช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี มอบกิตติ์รัฐ รักษาการ ผบ.ตร.แทน ด้านนายกฯ ยืนยัน ไม่ใช่การลงโทษ หวังดึงคู่ขัดแย้งออกมา ให้กระบวนการยุติธรรมเดินได้ พร้อมตั้ง คกก. สอบข้อเท็จจริง
วันที่ 20 มีนาคม มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าหลังเกิดปัญหาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีคำสั่งให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามามาช่วยที่สำนักนายกรัฐมนตรี
และมอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รักษาการ
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. นายกรัฐมนตรีได้เรียก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เปิดเผยว่า อย่างที่ทราบกันดี ว่า ขณะนี้มีคดีความเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ระหว่างพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเน้นย้ำว่า ทั้ง 2 คนยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
แต่เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความสะดวก ดูแลประชาชนได้เต็มที่ ไม่มีการก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม จึงได้มีคำสั่งโดนย้ายทั้ง 2 คน มาปฏิบัติราชการชั่วคราว 60 วันที่สำนักนายกรัฐมนตรี ในระหว่างที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยัน ไม่ใช่การลงโทษ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเรื่องตำแหน่ง และเงินเดือน
ขณะเดียวกัน วันนี้ยังได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมารักษาการตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทนชั่วคราว รวมถึงในช่วงเย็นนี้วันนี้ จะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวม 3 คน มาจากตำรวจ อดีตปลัดมหาดไทย และบุคคลจากสำนักนายกฯ
นายเศรษฐา ยังบอกอีกว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่บิ๊กต่อ และบิ๊กโจ๊กมาเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลก็ได้แจ้งให้ทราบถึงคำสั่งย้ายแล้ว รวมถึงได้แจ้งว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงที่ต้องมาปฏิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้ง 2 คน ก็รู้สึกกังวลใจ แต่ก็ยอมรับด้วยดี เนื่องจากได้แจ้งรายชื่อคณะกรรมการทั้ง 3 คนให้ทราบแล้ว ทั้ง 2 คนก็ยอมรับว่าเป็นบุคคลที่มีความเป็นกลาง และทั้ง 2 คน ยังได้รับปากว่าจะไม่มีการพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว รวมถึงจะกำชับลูกน้องไม่ให้พูด เพื่อไม่ให้กระทบกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้มีการก้าวก่าย ล็อบบี้กันเกิดขึ้น และเกิดข้อครหา ว่า ข้าราชการแถว 2 - 3 เข้าข้างใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้น การเอาคู่ขัดแย้งออกมาช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี ก็เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทำงานได้อย่างเต็มที่
นายเศรษฐา ยังบอกอีกว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกสบายใจที่มีมีคำสั่งดังกล่าว แต่เป็นอำนาจหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินไปข้างหน้าได้ และมีหน้าที่หลักในการดูแลพี่น้องประชาชนเชื่อว่าทุกอย่างจะค่อย ๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หากครบกำหนด 60 วันแล้วก็อาจจะพิจารณาให้ทั้ง 2 คน กลับมาปฏิบัติหน้าที่เดิม
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ก็จะมีการประชุม คณะกรรมการตำรวจเพื่อชี้แจงนโยบายทั่วไป ๆใ่ใช่การแจ้งเรื่องมีคำสั่งโยกย้าย เพราะเชื่อว่าสื่อมวลชนจะเป็นกระบอกเสียงอยู่แล้ว แต่อาจจะย้ำให้รับทราบว่า ทุกคนมาอยู่จรงนี้เพื่อทำงานรับใช้ประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง