SHORT CUT
"สุริยะ" แจง ก่อสร้าง ถ.พระราม 2 ล่าช้าเจ็ดชั่วโคตร เป็นไปตามสัญญา ปี 65-68 รับ ทำไปแก้ไป ทำให้ยืดเยื้อ ยันคืนพื้นผิวจราจรทันสงกรานต์บรรเทารถติด การันตี สร้างเสร็จถึงหัวหินภายใน 2 ชม.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ชี้แจงเรื่องความล่าช้าในการก่อสร้างถนนพระราม 2 ระบุว่า ถนนพระราม 2 มีสัญญาก่อสร้าง 10 สัญญา ระยะเวลาก่อสร้าง เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงเดือนมกราคม 2568 และได้รับการขยายสัญญา ถึงมิถุนายน 2568 ซึ่งขณะนี้มีความล่าช้ากว่าสัญญาประมาณ 10% ซึ่งความล่าช้าเกิดจากผู้รับเหมา ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินจากสถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้จากสถานการณ์โควิด-19 และอีกสาเหตุคือกรมทางหลวงอนุญาตให้ทำเฉพาะช่วงกลางคืนในบางจุด หากก่อสร้างกลางวันจะทำให้รถติด ทำให้เกิดความล่าช้า
ซึ่งตนได้สั่งการให้กรมทางหลวงทำสมุดพกตัดคะแนนผู้รับเหมาหากถูกตัดคะแนนถึงเกณฑ์ที่กำหนดก็จะถูกแบล็คลิสต์ ไม่ให้รับงานต่อไป เพื่อให้ผู้รับเหมามีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น
นายสุริยะยัง กล่าวถึงปัญหาการก่อสร้างถนน พระราม 2 ที่มีการก่อสร้างตลอดเวลาจนถูก ขนานนามว่าเป็น “ถนนเจ็ดชั่วโคตร” ว่าที่ผ่านมาการขยายถนนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อมีรถติดก็จะขยายตามไหล่ทาง เมื่อติดเพิ่มก็ก่อสร้างถนนลอยฟ้า แต่ไม่ได้คิดล่วงหน้า ถึงปัญหารถติดในอนาคต โดยถนนยกระดับลอยฟ้าจะไปสิ้นสุดที่บ้านแพ้ว ล่าสุดได้ให้กรมทางหลวงไปศึกษา เพื่อขยายเส้นทางต่อไปถึงแยกวังมะนาว แต่จะทำในระดับภาคพื้น ทำให้ราคาถูกลง
ขณะที่ถนนในจังหวัดเพชรบุรีซึ่งเป็นเส้นทางต่อเนื่องก็มีไหล่ทางแคบ ขณะนี้การทางพิเศษมีโครงการที่จะสร้างทางด่วนจากนครปฐมไปชะอำ จึงให้กรมทางหลวงสร้างถนนเชื่อมต่อกับถนนของการทางพิเศษที่แยกวังมะนาว เชื่อว่าถ้าสามารถทำได้ตามนี้ในอนาคตการเดินทางไปหัวหินน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทำให้เรียบร้อยก่อนเทศกาลสงกรานต์ นายสุริยะ ระบุว่าในช่วงนั้นผู้รับเหมาต้องคืนพื้นที่ให้เรียบร้อย เพื่อบรรเทาปัญหาและตนจะลงพื้นที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
ทั้งนี้ในช่วงสงกรานต์ที่รัฐบาลมีวันหยุดเพิ่มเติม ประมาณ 6 วันอยากฝากถึงประชาชน ให้จองตั๋วเดินทางกลับภูมิลำเนาล่วงหน้า
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโครงการก่อสร้างบนถนนหมายเลข 35 สายดาวคะนอง - วังมะนาว (ถนนพระราม2) จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
ซึ่งทั้ง 3 โครงการ มีความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถเปิดให้ทดลองใช้บริการภายในปี 2568
สำหรับการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลานานนั้น เนื่องด้วยโครงข่ายจราจรบนทางหลวงหมายเลข 35 มีความสำคัญต่อการเดินทางสู่ภาคใต้ของประเทศไทย มีปริมาณการจราจรหนาแน่นมากกว่า 250,000 คันต่อวัน ทำให้การปิดเบี่ยงพื้นที่และบริหารจัดการจราจรระหว่างการก่อสร้างมีลักษณะทางกายภาพที่ค่อนข้างจำกัด และเป็นจุดตัดทางเข้า-ออก กับชุมชน ซอยต่างๆ ส่งผลให้มีการชะลอตัวของรถสะสมแต่ละบริเวณมากกว่าพื้นที่นอกเขตเมือง เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบต่อผู้ใช้ทาง ทำให้ผู้รับจ้างดำเนินงานก่อสร้างได้ในอัตราความก้าวหน้าที่ล่าช้ากว่าพื้นที่ปกติอย่างมีนัยยะสำคัญ
นอกจากนี้ ยังได้มีการยกระดับมาตรการป้องกันความปลอดภัยระดับสูงสุด (Double Safety) ในพื้นที่การก่อสร้างทุกสัญญา ซึ่งผู้รับจ้างจำเป็นต้องปฏิบัติงานได้เฉพาะช่วงเวลากลางคืน (21.00 – 05.00 น.) เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้ทาง อีกทั้งได้พิจารณาการปรับแผนการดำเนินการของผู้รับจ้างแต่ละสัญญาให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาครอบคลุม ตามที่ได้รับสิทธิ์เนื่องจากผลกระทบโควิด-19
ขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้รายงานความคืบหน้ามายังกระทรวงคมนาคม โดยมีเป้าหมายเร่งรัดการดำเนินงานก่อสร้างทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นจะเร่งรัดการดำเนินงานให้เปิดใช้สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 (ช่วงต่างระดับบางโคล่-ถนนสุขสวัสดิ์) ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้
อีกทั้งจะเร่งรัดงานก่อสร้างเพื่อให้เกิดความสะดวกต่อผู้ใช้ทางบนถนนพระราม 2 โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถดำเนินงานก่อสร้างช่วงทางหลัก (Mainline) ตั้งแต่ต้นทางถนนพระราม 2 ถึงบริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางกับโครงการทางยกระดับของกรมทางหลวง ให้แล้วเสร็จได้ภายในเดือน มิ.ย. 2568
ด้านนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า กรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุรถติดจากถนนพระราม 2 จึงทำให้การท่องเที่ยวเมืองหัวหินซบเซานั้น ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้การท่องเที่ยวในหัวหินยังคงคึกคัก สะท้อนจากสถานที่ท่องเที่ยวทั้งบริเวณ ชายหาด ถนนคนเดิน ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งในวันธรรมดาและวันหยุด ซึ่งจากการสำรวจนั้นมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย ยุโรป และจีน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้เข้าเจรจากับผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมในเมืองหัวหินยังพบว่า อัตราเข้าพักยังคงอยู่ในระดับสูง โดยยังมั่นใจว่ารายได้ที่จะเข้ามายังเมืองหัวหินยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องด้วยเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับต้นของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้ชื่นชมกระทรวงคมนาคมที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีคุณภาพในทุกภาคส่วน และหวังว่าการจัดทำผิวจราจรด้านล่างจะแล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การจราจรของประชาชาและนักท่องเที่ยวมีความราบรื่นช่วงสงกรานต์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง