svasdssvasds

"เศรษฐา" ยินดี “ทักษิณ”กลับบ้าน! ขออย่าดราม่าไทยมีนายกฯสองคน

"เศรษฐา" ยินดี “ทักษิณ”กลับบ้าน! ขออย่าดราม่าไทยมีนายกฯสองคน

"เศรษฐา"ยินดี “ทักษิณ” กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าหลังพักโทษ บอกยังไม่ได้โทรยินดี”อุ๊งอิ๊ง”แต่เชื่อใจถึงใจ เผยยังไม่มีกำหนดเข้าพบอดีตนายกฯเพื่อขอคำแนะนำ ขออย่าดราม่านายกฯสองคน

ผู้ข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร ถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อเช้านี้ หลังได้รับการพักโทษ จะมีการเข้าพบนายทักษิณเพื่อขอคำแนะนำอะไรหรือไม่ ว่า ยังไม่มี เพราะท่านก็เพิ่งออกมาเมื่อเช้านี้ ตนคิดว่าในฐานะพ่อ ก็ยินดีด้วยที่จะได้เจอลูก ไม่ได้เจอกันมานาน ไม่ได้อยู่เป็นครอบครัวมานาน และท่านก็กลับเข้ามาตามกระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และออกมาก็เป็นไปตามข้อกฎหมายทุกข้อกฎหมายที่กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ และกระทรวงยุติธรรมเป็นคนเดินเรื่องมา ตนเชื่อว่าช่วงเวลาหลังจากนี้ท่านคงไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง ท่านก็คงอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และก็รักษาตัวอยู่ต่อไป ให้ดี หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน

ส่วนได้โทรไปแสดงความยินดีกับ นางสาวแพทองธาร ชิณวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แล้วหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า "ยังไม่มีเวลา วันนี้ก็ลงพื้นที่ 7 หมาย แต่ว่าเชื่อว่าใจถึงใจอยู่แล้ว ก็ส่งความปรารถนาดี และก็เป็นเวลาส่วนตัวของท่านกับครอบครัว เราสนิทกันอยู่แล้วเรื่องพวกนี้ไม่จำเป็น ต้องโทรหรอกครับ แต่ว่าถ้าเกิดมีโอกาสก็จะโทร หรือเข้าไปแสดงความยินดีด้วย ตนเชื่อว่าเวลาอันมีค่านี้ ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาเกือบ 20 ปี ก็ต้องใช้เวลานี้ให้เหมาะสม และก็คุ้มค่าที่สุด"

สำหรับผู้ที่เห็นต่างซึ่งออกมาเคลื่อนไหว และมองว่าศูนย์บริหารงานหลังจากนี้จะเปลี่ยนจากทำเนียบรัฐบาล ไปเป็นบ้านจันทร์สองหล้านั้น ตนมองว่าเรื่องความเห็นต่างเป็นธรรมดาในสังคมไทยอยู่แล้ว ตนก็น้อมรับเรื่องความเห็นต่าง เราก็ต้องพูดคุยกันด้วยภาษาที่เหมาะสม และยึดมั่นในหลักการ วันนี้ตนเชื่อว่า อย่างเช่นนายอนุทินเอง ก็อยู่ที่นี่เราอยู่คนละพรรค ก็คงมีเห็นต่างกันบ้าง แต่โดยรวมเราก็เห็นตรงกัน เพราะบ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้ บ้านเมืองเราก็บอบช้ำกันมาเยอะ วันนี้เราก็มาร่วมกันทำงานเพื่อประเทศชาติ จะเป็นเรื่องของอดีตนายก หลายๆท่านเอง

นายกยินดีทักษิณกลับบ้าน

“ถ้าท่านจำได้เมื่อตอนที่ตนได้รับการแต่งตั้งก็ได้เข้าไปพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อฟังคำแนะนำ และเวลาเจอในงานต่างๆก็มีการพบปะพูดคุยกัน ก็ขอคำแนะนำอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าถ้าเกิดท่านอดีตนายกทักษิณพร้อม จะให้คำแนะนำ ตนเชื่อว่าไม่มีใครในรัฐบาลนี้ไม่อยากจะ รับคำแนะนำจากท่าน นายอนุทินเองก็เคยทำงานร่วมกับอดีตนายกทักษิณมาก่อนก็รู้อยู่แล้วว่าท่านมีความปรารถนาดี ประสบการณ์ที่ท่านสะสมมาระหว่างอยู่เมืองนอก และก็เข้ามาสู่กระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งต้องเน้นย้ำว่าถูกต้อง ตรงนี้ก็อย่างมาดราม่ากันเลย ว่ามีนายกกี่คน  รัฐธรรมนูญไทยก็ระบุอยู่แล้วว่ามีนายกคนเดียว ก็มีคนเดียวก็คือผมนี่แหละ”

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้รับคำแนะนำจากพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีว่า "ท่านบอกว่า ที่ทำอยู่ก็ดีอยู่แล้วแต่ต้องอดทนต่อไป เพราะอย่างที่ท่านเตือนแรงตั้งแต่ตอนแรกที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง เรื่องธุรกิจกับเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินไม่เหมือนกัน  เพราะธุรกิจมีอำนาจเบ็ดเสร็จแต่ราชการต้องขึ้นกับหลายหน่วยงาน

และนายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรัมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เตือนตนว่าขอให้ใจเย็นๆ ไม่ใช่ทุกเรื่องทำได้เองหมด เช่นเดียวกับสื่อมันชนก็เคยเตือนตน ว่าให้ใจเย็นๆและช้าๆบ้างอย่าปากไวอย่าปากไว ซึ่งตนก็ไม่เคยแสดงอารมณ์โกรธอะไร แต่มองว่าบางบริบท ก็เหมาะสมที่จะได้รับคำเตือนและนำไปพิจารณา พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้เคลมหมดว่ารู้หมดทุกอย่าง  หากคำแนะนำอะไรที่เหมาะสมและเตือนกันด้วยความปรารถนาดี 

ทั้งนี้ตนก็พร้อมน้อมรับจากทุกท่านไม่ใช่จากทุกคนไม่ใช่เพียงอดีตนายกอย่างเดียว เพราะต้นเพิ่งเข้าการเมืองได้5-6เดือน ซึ่งก็ได้รับคำเตือนตลอดอย่างเช่นเมื่อเช้านี้ นายอนุทินก็ยังให้คำแนะนำเรื่องการทำงานอยู่  แต่ถึงอย่างไรทุกคนก็ยังมีขีดจำกัดของตนเอง เช่นให้คำแนะนำ 10 เรื่อง ตนอาจจะรับฟัง6-7 เรื่อง เพราะฝนก็มีขีดจำกัดและมีความเป็นตัวของตัวเอง  แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีคำแนะนำ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีคนนี้พร้อมน้อมรับคำแนะนำ

นายเศรษฐา ยังยอมรับว่าตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าบอกว่าไม่เหนื่อยก็คงคงไม่จริง แต่เมื่อเสนอตัวมารับใช้ประชาชนแล้ว  ก็รู้ว่างานจะเยอะอยู่แล้ว เช่น ปัญหาเศรษฐกิจปัญหา PM 2.5  ปัญหายาเสพติด ซึ่งเมื่อเช้าที่ผ่านมาตนก็ได้คุยกับแม่ทัพภาคที่สองที่นำเสนอวิธีการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งมองว่าบางเรื่องก็มีความน่าสนใจในการกำจัดยาเสพติด พร้อมยืนยันว่าตนไม่อยากจะมองว่าเป็นปัญหาแต่ขอให้มองว่าเป็นโอกาส

นายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่นายทักษิณ ได้รับการพักโทษทำให้มีการมองว่าสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงว่าก็คอยดูต่อไปเพราะการเมืองเปลี่ยนแปลงทุกวัน แต่ตนไม่แน่ใจว่าที่สื่อ บอกว่าเปลี่ยนไปนั้นจะดีขึ้นหรือเลวลง แต่ตนมองว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลเองก็มี 314 เสียง เราทำงานร่วมกัน แม้จะมีบางข้อที่เห็นไม่ตรงกันแต่ก็พูดจากันด้วยดี และพยามแก้ปัญหาด้วยความตั้งใจจริง เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือการนำพาประเทศไปให้ได้

“ถ้าการพักโทษ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยอยู่บนความชอบธรรมของกฎหมาย ที่ท่านได้กลับมารับโทษเรียบร้อยแล้ว และผ่านขั้นตอนทางกฎหมายเรียบร้อย และออกมาพักตัวที่บ้านแล้ว ผมเชื่อว่าพี่น้องคนไทย ประชาชน 66 ล้านคน ก็ยินดีถ้าเกิดการเมืองไทยดีขึ้น ก็เป็นหน้ามี่ของเราที่ทำให้มันดีขึ้น “นายเศรษฐากล่าว

เมื่อถามถึงยังมีอดีตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยที่ยังอยู่ต่างประเทศ หากจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของท่านตนไม่มีความเห็นใดๆทั้งสิ้น หากกลับเข้ามาตามกระบวนการกฎหมายและทุกอย่างถูกต้องก็เป็นเรื่องหน้ายินดี

ส่วนกลุ่มคปท.อาจจะไปปักหลักชุมนุมที่หน้าบ้านจันทร์สองหล้านั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราก็อยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปให้ได้ซึ่งขณะนี้บ้านเมืองสงบสุขซึ่งขณะนี้บ้านเมืองสงบสุขอยู่แล้ว แต่ปัญหาใหญ่ขนาดนี้คือเรื่องเศรษฐกิจ จึงอยากให้โฟกัสเรื่องนี้มากกว่า ส่วนการแสดงทาง. ยืนขอให้อยู่บนกรอบของกฎหมาย โดยรัฐบาลก็มีหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย อย่าให้เกินเลย

เมื่อถามว่าจะมีการขอคำแนะนำนายทักษิณหรือไม่ เพราะรัฐบาลก็มุ่งนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ได้มีแค่อดีตนายกฯทักษิณ แต่ทุกคนเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่าอดีตนายกฯทักษิณเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยด้วย และก็ยังมีอดีตนายกรัฐมนตรีอีกหลายคนที่มีความชำนาญในหลายๆเรื่อง ซึ่งคนรัฐบาลรรวมถึงตนก็มีสิทธิ์ที่จะไปขอคำแนะนำกับบุคคลเหล่านี้  แต่ยืนยันว่าจุดมุ่งหมายที่ทุกคนมีคือให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related