ดราม่าปม ตำรวจ สน.พระราชวัง บุกจับสื่อมวลชน ที่ไปทำข่าวศิลปินอิสระพ่นสีกำแพงวัดพระแก้วเมื่อปี 66 ฐานสนับสนุนผู้ก่อเหตุ
กำลังเป็นที่จับตามองของสังคมปมกรณีนักข่าวโดนจับ หลังทำข่าวประชาชนพ่นสีสเปรย์ข้อความ “ไม่เอา ม.112” บนกำแพงวัดพระแก้ว เมื่อ 28 มีนาคม 2566 ด้วยข้อหาให้การสนับสนุนการทำลายโบราณสถานจากการขีดเขียนข้อความ โดยเพจเฟซบุ๊ก ประชาไท Prachatai.com ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนักข่าวดังลก่าวได้รายงานว่า หมายจับกุมครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่า สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ นายณัฐพล เมฆโสภณ ผู้สื่อข่าวของประชาไท พร้อมผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวอื่น ได้ติดตามรายงานข่าวเหตุการณ์เมื่อ 28 มี.ค.2566 เวลาประมาณ 17.40 น. กรณีที่ บังเอิญ (สงวนนามสกุล) ศิลปินอิสระ อายุ 25 ปี ได้พ่นสีข้อความทำเป็นสัญลักษณ์ไม่เอา 112 และเครื่องหมายสัญลักษณ์ "อนาคิสต์" บนกำแพงวัดพระแก้ว ด้านตรงข้ามสนามหลวง
หมายจับครั้งนี้ระบุถึงผู้ขอออกหมายจับต่อศาลอาญาคือ พ.ต.ท.ศิลปชัย ยมใหม่ พนักงานสอบสวนจาก สน.พระราชวัง โดยผู้พิพากษาที่อนุมัติหมายจับคือ อรรถการ ฟูเจริญ
ทั้งนี้การออกหมายจับครั้งนี้ณัฐพลไม่เคยได้รับหมายจับมาก่อน
มีรายงานว่า หลังการทำบันทึกจับกุมและสอบปากคำ นักข่าวประชาไทและช่างภาพอิสระ ได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ก่อนที่ทนายความได้ขอประกันตัวทั้ง 2 คน ทางพนักงานสอบสวนรับคำร้องขอประกันตัวไว้ก่อนปรึกษากับผู้บังคับบัญชา ซึ่งทางพนักงานสอบสวน ยืนยันจะนำตัวนักข่าวประชาไท ไปขังรอส่งศาลที่ สน.ฉลองกรุง ย่านมีนบุรี ส่วนช่างภาพอิสระจะถูกนำตัวไปขังระหว่างรอส่งศาลที่ สน.ทุ่งสองห้อง และให้ทนายความไปยื่นประกันตัวระหว่างสอบสวนกับศาลแทน
นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย บรรณาธิการของประชาไท กล่าวยืนยันว่า ทั้งสองคนนั้นไปทำข่าว และการทำข่าว ไม่ใช่การสนับสนุนการกระทำความผิด ถ้าบอกว่าการทำข่าวคือการสนับสนุน การไปทำข่าวการทำร้ายคน ก็เท่ากับการสนับสนุนการทำร้ายคนด้วยหรือไม่
"จริงๆ จุดยืนเราเนี่ยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เราต้องการเสนอข้อเท็จจริงตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
ด้านศูนย์ทนายความฯ รายงานว่า นักข่าวประชาไท และ นักข่าวอิสระ ให้การสอบปากคำกับตำรวจเสร็จสิ้นแล้ว เบื้องต้นทั้งสอง ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า "เป็นผู้สนับสนุนการกระทำตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน และ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ" สำหรับในคดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2566 ที่ "บังเอิญ" ศิลปินอิสระ ได้พ่นสีข้อความบนกำแพงพระบรมมหาราชวัง ก่อนถูกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาในลักษณะเดียวกันกับนักข่าวทั้งสองคน
ขณะที่ สมาพันธ์สื่อไทยเพื่อประชาธิปไตย หรือ Thai Media for Democracy Alliance (DemAll) แถลงการณ์ การรายงานข่าวไม่ใช่อาชญากรรม มีใจความสำคัญว่า ผู้สื่อข่าวไม่ใช่อาชญากร การรายงานข่าวถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบธรรมของสื่อมวลชน ซึ่งกิจกรรมการแสดงออกทางการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ในขอบเขตของกฎหมายหรือไม่ สื่อย่อมสามารถถ่ายทอดเป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือข้อเขียนได้โดยไม่มีความผิดทางกฎหมาย จึงขอประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจในลักษณะยัดเยียดความผิดแบบเหวี่ยงแห ละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน และขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้สื่อข่าวประชาไทและช่างภาพอิสระออกมาอย่างไม่มีเงื่อนไขโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามบนโลกโซเชียลได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ปมที่นักข่าวถูกจับว่า
นักข่าวเริ่มอยู่ยาก ถ้าทำข่าวแล้วผิด คดีต่างๆ ที่ไปทำข่าวมากมาย ก็คงต้องผิดด้วย
มีข้อหานี้ด้วยหรืออีกหน่อยช่างภาพเห็นเหตุการณ์อะไรก็ไม่ต้องทำหน้าที่บันทึกตามอาชีพหรือ หัวหน้า ต้นสังกัดเลิกจ้างกระทบการทำมาหากินของสุจริตชน
ภายหลังพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขัง นายณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ,นายณัฐพล เมฆโสภณ 2ผู้ต้องหา โดยศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้
โดยผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมเงินสด คนละ 3.5 หมื่นบาท ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ระหว่างสอบสวนตลอดจนถึงชั้นพิจารณา เว้นแต่โจทก์ฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาที่หนักกว่า โดยมีประกันในวงเงิน 3.5 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง