กรมการขนส่งทางบก เตือนประชาชนที่ต้องการซื้อขายรถมือสองหลีกเลี่ยงการซื้อขายด้วยวิธีการโอนลอย เสี่ยงอาจเป็นรถที่ได้มาด้วยวิธีไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ปัจจุบัน การซื้อขายรถมือสอง เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนงบน้อยหรือสายที่เล่นรถเก่า ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง ก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบหรือความสะดวกของแต่ละบุคคล แต่การที่จะเลือกซื้อรถมือสองสักคัน ก็ยังมีข้อสำคัญที่ควรระวังนอกจากสภาพรถแล้วยังมีประวัติของรถที่อาจชวนปวดหัวเมื่อมาซื้อแล้ว
ล่าสุดนายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เตือนประชาชนที่ต้องการซื้อขายรถมือสอง หลีกเลี่ยงการซื้อขายรถด้วยวิธีการโอนลอยโดยเซ็นเอกสารไว้แล้วมาดำเนินการในภายหลัง เนื่องจากอาจก่อปัญหาให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น กรณีผู้ซื้อไม่ดำเนินการชำระภาษีรถประจำปี รถเกิดอุบัติเหตุ หรือนำรถไปกระทำผิดกฎหมายซึ่งยังคงปรากฏชื่อเจ้าของรถรายเดิมในระบบทะเบียน สร้างปัญหายุ่งยากให้เจ้าของรถรายเดิม
นอกจากนี้ การไม่นำรถเข้ามาดำเนินการโอนทางทะเบียนยังทำให้ผู้ซื้อไม่อาจตรวจสอบความถูกต้องของรถได้โดยสมบูรณ์ว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่ ขบ. จึงกำชับทั้งผู้ซื้อหรือผู้ขายต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของรถก่อนการซื้อขายทุกครั้งเพื่อเป็นข้อมูลประกอบก่อนตัดสินใจ และต้องตรวจสอบหลักฐานทะเบียนรถให้ครบถ้วนเพื่อการซื้อขายที่ถูกต้องโดยเฉพาะสมุดคู่มือรถฉบับจริงที่มีชื่อเจ้าของรถ เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ สีรถ ต้องถูกต้องตรงกับรถคันที่จะซื้อขายทุกรายการ และที่สำคัญต้องตรวจสอบว่ามีการชำระภาษีรถประจำปีครบถ้วนถูกต้อง พร้อมนำรถเข้าตรวจสภาพและดำเนินการตามขั้นตอนโอนทางทะเบียนรถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนด้วยตนเองในทันที
ทั้งนี้ ขบ. จะมีการตรวจสอบทะเบียนรถด้วยระบบฐานข้อมูล MDM (Master Data Management) สามารถตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนรถ ข้อมูลต่าง ๆ ได้แม่นยำ เพื่อความมั่นใจในการซื้อขายรถ โดยระบบจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองรถในทันทีที่ได้รับข้อมูลการแก้ไข อีกทั้งยังเชื่อมโยงออนไลน์พร้อมกันทั่วประเทศในทุกระบบงาน ดังนั้น ชื่อผู้ครอบครองรถที่ปรากฏในระบบจึงตรงกับที่ระบุในเล่มทะเบียนรถ ขบ. ขอแนะนำให้ผู้ที่ต้องการซื้อขายรถมือสองทำตามขั้นตอนที่แนะนำเพื่อความปลอดภัยในการโอนรถ และไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ