svasdssvasds

ฝ่ายค้าน ถล่ม แลนด์บริดจ์ มนพร แจงโครงการอยู่ระหว่างศึกษารับฟังทุกความเห็น

ฝ่ายค้าน ถล่ม แลนด์บริดจ์ มนพร แจงโครงการอยู่ระหว่างศึกษารับฟังทุกความเห็น

ฝ่ายค้าน เปิดศึกกระทู้ถาม ถล่ม “แลนด์บริดจ์” -มนพร รมช.คมนาคม ย้ำเป็นโอกาสของประเทศ ยืนยันพร้อมรับฟังเสียงต่อต้าน แจง “แลนด์บริดจ์” ยังอยู่ระหว่างการศึกษาหากไม่คุ้มค่าจะทบทวน “สุรเชษฐ์” งงศึกษายังไม่จบ "นายกฯ" กลับเร่ตั้งแผงขาย หวั่” ซ้ำร้อยโปรเจ็คร้างในภาคใต้

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตอบกระทู้ถามของ นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่มีผู้ต่อต้านโครงการแลนด์บริดจ์ โดยยอมรับว่า ทุกๆ โครงการมักจะมีผู้ต่อต้านในพื้นที่ แต่ก่อนการเริ่มโครงการจะต้องศึกษาก่อน

ฝ่ายค้าน ถล่ม แลนด์บริดจ์ มนพร แจงโครงการอยู่ระหว่างศึกษารับฟังทุกความเห็น

สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พร้อมเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ มาให้ข้อมูล และการศึกษาในชั้นกรรมาธิการ ได้มีการศึกษาทุกมิติ ทั้งมิติสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม ต่างประเทศ และความคิดเห็นจากภาครัฐ-เอกชน รวมถึงกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านโครงการแลนด์บริดจ์ ย่อมกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ และประชาชนในพื้นที่

จึงจะต้องมีแผนรองรับในอนาคต รวมทั้งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยในบริเวณดังกล่าว จึงจะมีการตรากฎหมายระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ กฎหมายเอสอีซี คล้ายกับกฎหมายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่มีการเวนคืนที่ดิน โดยรัฐบาลจะดำเนินการตามแรวทางที่ประชาชนแสดงความเห็นไว้ โดยเฉพาะกรรมสิทธิ์ที่ดิน และการประมงพื้นบ้าน

นางมนพร ยังยืนยันด้วยว่า ในการลงพื้นที่ของกรรมาธิการนั้น ได้รับเสียงตอบรับจากภาคเอกชนในพื้นที่ และประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี และข้อกังวลที่จะส่งกระทบต่อการประมงพื้นบ้านนั้น ชาวประมงในพื้นที่จริง ๆ ก็ยืนยันว่า ไม่ได้รับกระทบ และดีใจที่ความเจริญมาถึง มีโอกาสขยายธุรกิจการประมงให้มีมากขึ้น มีระบบการคมนาคมขนส่งที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางที่ถูกกดราคา 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวถึงความก้าวหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ว่า ขณะนี้ กระบวนการศึกษายังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากยังมีกระบวนการศึกษาความเหมาะสมในการออกแบบท่าเรือ, การศึกษาในการลงทุน,การศึกษาสิ่งแวดล้อมทางด้านรถไฟ และการจัดสร้างมอเตอร์เวย์

ซึ่งความก้าวหน้าได้ออกแบบท่าเรือเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบ และการออกแบบในกระบวนการอื่น ๆ จนทำให้เกิดผู้เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่รัฐบาลก็พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้น แต่มั่นใจว่า โครงการดังกล่าว และภูมิศาสตร์ของไทย จะเป็นโอกาสของประเทศไทย ที่มีที่ตั้งล้อมรอบด้วย 2 มหาสมุทร และเป็นประโยชน์ต่อการขนส่ง

จากนั้น นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้ถาม โดยให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปรียบเทียบระยะทางการลดระยะทาง และค่าใช้จ่าย จากจีนตะวันออก ไปยุโรป ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก ในกรณีที่มีแลนดจ์บริดจ์ กับการใช้ช่องแคบมะละกา ในกรณีที่ไม่มีโครงการ 

ฝ่ายค้าน ถล่ม แลนด์บริดจ์ มนพร แจงโครงการอยู่ระหว่างศึกษารับฟังทุกความเห็น

โดย นางมนพร ชี้แจงว่า โครงการแลนด์บริดจ์ ได้ถูกออกแบบ เพื่อลดระยะเวลา ละต้นทุนการขนส่ง เนื่องจาก ปัจจุบันมีปัญหาความคับคั่งในการขนส่งทางเรือ บริเวณช่องแคบมะละกา เรือต้องลดความเร็วในการเข้าจอด และยังมีปัญหาเรือสินค้าถูกปล้นในช่องแคบมะละกา ซึ่งเส้นทางการขนส่งพื้นที่เอเชียตะวันออก-ออสเตรเลีย ปัจจุบัน มีการขนส่งสินค้าจากจีน ไปยังออสเตรเลียทางเรือ แต่ประเทศจีนมีขนาดใหญ่ ภาคใต้ของประเทศจีนไม่ติดทะเล ต้องขนส่งผ่านบังคลาเทศ, สปป.ลาว ก่อนเชื่อมเข้ามาประเทศไทย

ดังนั้น จึงเชื่อว่า แลนด์บริดจ์ จะช่วยลดเวลาการขนส่งจากจีนตอนใต้ โดยสามารถขนส่งทางเรือจากท่าเรือจีนอื่น ๆ มาเข้าฝั่งที่ท่าเรือฝั่งระนอง และชุมพร ทำให้สามารถประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย พร้อมมั่นใจว่า ในระยะยาวโอกาสที่เรือขนาดใหญ่จะเข้าฝั่งระนอง จะมีโอกาสเป็นไปได้ เพราะระนองอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางเดินเรือปัจจุบัน 

ส่วนแลนด์บริดจ์รองรับสินค้าเทกอง และจะมีท่อน้ำมัน หรือโรงกลั่นน้ำมันหรือไม่นั้น นางมนพร ชี้แจงว่า ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษา เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่ได้ระบุถึงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน หรือจะนำสินค้าประเภทใดเข้าสู่แลนด์บริดจ์ เพราะเป็นขั้นตอนปลายทาง เพียงแต่ตอนนี้ ยังศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ พร้อมยืนยันว่าบริษัทที่ปรึกษา จะศึกษาทุกมิติ และบริษัทที่จะลงทุน จะต้องเข้ามาศึกษาในแง่ความเป็นไปได้ หากไม่คุ้มค่า นักลงทุนก็จะไม่มาลงทุน ดังนั้น เมื่อศึกษาแล้วประเด็นที่เป็นไปไม่ได้ ต้องกลับมาทบทวน

ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ ยังเห็นว่า รายละเอียดโครงการต่าง ๆ ยังไม่มีความชัดเจน แต่รัฐบาลกลับวางแผนสร้างโครงการต่าง ๆ ขนาดใหญ่ และมีการกำหนดตัวเลขต่าง ๆ ที่สูงเกินจริง ในหลายโครงการ และขอให้รัฐบาลไตร่ตรองให้ดีว่า แลนด์บริดจ์ ควรทำหรือไม่ทำ เพราะแม้จะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ แต่ก็มีการเสียต้นทุนที่เกิดขึ้น ทั้งประชาชนสูญเสียที่ดิน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น มลพิษทางชายฝั่งทะเลที่กระทบชาวประมง และการท่องเที่ยว รวมถึงภูมิรัฐศาสตร์

จึงขอให้รัฐบาล เปิดเผยข้อมูลให้ตกผลึกก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะไปเร่ขายฝัน และควรนำแนวคิดการพัฒนาพื้นที่เป็นตัวตั้ง มากกว่าการสร้างโครงสร้างคมนาคมขนาดใหญ่ และสุดท้ายไม่มีนักลงทุนเข้ามา เพราะในอดีตมีตัวอย่างความล้มเหลวโครงการขายฝันขนาดใหญ่ในภาคใต้มาแล้ว ทั้งแลนด์บริดจ์กระบี่-ขนอม หรือแม้แต่ด่านสะเดา ที่ไม่มีผู้ใช้งาน รวมถึงท่าเรือระนอง ที่ผู้รับเหมารวยไปแล้วบนความทุกข์ร้อนของประชาชน จึงขอให้รัฐบาลไตร่ตรองให้ดี 

นายสุรเชษฐ์ ยังเห็นว่า จากผลการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ พบว่า การขนส่งจะเสียเวลา 7-10 วัน ในการขนย้ายสินค้าขึ้น-ลง และสายการเดินเรือ ต้องเพิ่มจำนวนเรือ 7-10 ลำ ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และเสียเวลาที่มากกว่าการใช้ช่องแคบมะละกา และช่องทางการเดินเรืออื่น ๆ ดังนั้น รัฐบาลต้องมีข้อมูลที่มีนัยสำคัญในการชี้แจงความคุ้มค่าของการลงทุน เพราะเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สภาพัฒน์ฯ ระบุว่า โครงการดังกล่าวไม่คุ้มค่า และเสนอให้ลดขนาดของโครงการและลงทุนลง รวมถึงยังมีผลระทบชุมชน และสิ่งแวดล้อม แต่รัฐบาล กลับต้องการเพิ่มขนาด และข้อมูลทางธุรกิจไม่ชัดเจน แต่กลับนำไปเร่ขาย ซึ่งกังวลว่า จะเป็นการขายหน้า มากกว่าขายของ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related