สุริยะ ขอโทษประชาชน สื่อสารคลาดเคลื่อนปมจัดเก็บภาษีน้ำมันเบนซินเพิ่ม 50 สตางค์ต่อลิตรในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล นำเงินเข้ากองทุนหนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาท ระบุไม่มีแนวคิดที่ส่งผลกระทบกับประชาชนเด็ดขาด ขณะที่ พีระพันธุ์ ค้าน ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้
จากกรณีที่สื่อมวลชนมีการนำเสนอข่าวในประเด็นกระทรวงคมนาคมมีแนวคิดจะจัดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในอัตรา 0.50 บาทต่อลิตร เฉพาะสถานีน้ำมันในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น และนำเงินจากภาษีดังกล่าวเข้ากองทุนฯ เพื่อนำสนับสนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่อาจจะสื่อสารและทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งในการกล่าวถึงเรื่องนี้เป็นเพียงการหยิบยกตัวอย่างจากต้นแบบในต่างประเทศเท่านั้น รวมถึงยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นถึงกรณีศึกษา และการเปรียบเทียบถึงข้อดีและข้อเสีย โดยไม่ได้มีแนวคิดจะนำมาดำเนินการแต่อย่างใด เนื่องจากกระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญกับการลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน
ส่วนมาตรการค่ารถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท นั้น กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายใน 2 ปี โดยจะไม่มีการเก็บภาษีน้ำมันเพิ่มขึ้นตามที่มีกระแสข่าวอย่างแน่นอน
โดยก่อนหน้านี้ จากประเด็นข่าว "จัดเก็บภาษีน้ำมันเบนซินเพิ่ม 50 สตางค์ต่อลิตรในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล นำเงินเข้ากองทุนหนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" นั้น มีรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลเพื่อไทย อย่าง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ในเชิง ไม่เห็นด้วย
“ยังมีวิธีอื่นอีกมากมาย โดยการขึ้นภาษีจะเป็นการไปสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนอีก ซึ่งรัฐบาลเป็นกังวลอยู่แล้ว แต่ก็หารือกันได้” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้ความเห็น
ส่วนคำถามที่ว่าการขึ้นภาษีน้ำมันเบนซินเฉพาะ กทม.และปริมณฑล อาจทำให้คน กทม.และปริมณฑลไม่พอใจนั้น นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ต้องไปถามนายสุริยะ เพราะตนไม่ได้เป็นต้นเรื่องในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็มีนโยบายได้ แต่อะไรที่เกี่ยวข้องกันก็ต้องมาหารือกันว่าสุดท้ายควรจะเป็นแบบไหน