“สุวัจน์” แจง “กรณ์” ลาออก จากสมาชิกชาติพัฒนากล้า เป็นเจตนาตั้งแต่หลังเลือกตั้ง ไม่เกี่ยว “วุฒิพงศ์” เข้าพรรค ยันตรวจสอบคุณสมบัติ “สส.แจ้” ถูกต้อง ให้เวลาพิสูจน์ตัวกับประชาชน
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงกรณี นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เข้าสังกัดเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า นายทะเบียนพรรคก็ได้ตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ ของนายวุฒิพงศ์ แล้วว่าถูกต้อง และได้แจ้งไปยัง กกต.และประธานสภาผู้แทนราษฎรให้รับทราบตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ตัวของนายวุฒิพงศ์เองก็ได้ชี้แจงต่อสาธารณะไปแล้ว จากนี้ไปก็เป็นโอกาสของเขาที่จะมาทำงานในแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้าเพื่อพิสูจน์ผลงานให้พี่น้องประชาชนได้เห็น อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวน ส.ส.เป็น 3 คนนั้น ไม่ได้ผลต่อการต่อรองตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแก้ไขประวัติของนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 ที่โดนขับออกจากพรรคก้าวไกล กรณีคุกคามทางเพศ พบระบุว่าอยู่สังกัด 'พรรคชาติพัฒนากล้า' แล้ว ส่งผลให้พรรคชาติพัฒนากล้ามี สส. 3 คน คือ วุฒิพงศ์ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายประสาท ตันประเสริฐ ส.ส.นครสวรรค์
ทั้งนี้ นายประสาท เลขาธิการพรรค กล่าวว่า พรรคได้พิจารณาในประเด็นคุณสมบัติ และความเหมาะสมแล้ว เห็นว่าประเด็นที่เป็นข้อกล่าวหาและเป็นเหตุให้พรรคก้าวไกลขับออกจากสมาชิกพรรคนั้น เป็นเพียงข้อกล่าวหา และเมื่อพิจารณาคุณสมบัติตามกฎหมายแล้ว สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้ตามกฎหมายและไม่ขัดข้อบังคับพรรค
ส่วนการลาออกจากสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า ของนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นั้น นายสุวัจน์ ย้ำว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายวุฒิพงศ์ เพราะนายกรณ์ ได้มาแจ้งกับตนตั้งแต่หลังเลือกตั้งแล้วว่า ขอยุติบทบาทชั่วขณะ โดยจะขอลาออกทั้งจากหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค ซึ่งตนก็ได้ขอให้เป็นสมาชิกพรรคอยู่ต่อไปอีกสักระยะ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เนื่องจากเพิ่งเลือกตั้งเสร็จ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็สุดแล้วแต่ท่าน กระทั่งเมื่อวานท่านก็แจ้งมาขอลาออกตนก็รับทราบ และไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายกรณ์ได้ชี้แจงว่า หลังจากที่ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2566 ตัวเองก็ได้ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า โดยมีผลตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาผู้สมัคร สส. ฝั่งของพรรคกล้าเดิม ไม่ได้ชนะการเลือกตั้งเลย ขณะที่ผู้สมัคร สส. เขตของพรรคชาติพัฒนาเดิมชนะการเลือกตั้งมา 1 เก้าอี้ พร้อมทั้งได้ สส. บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ซึ่งเป็นโควตาของฝั่งชาติพัฒนา จึงทำให้เกิดการถอยของสมาชิกฝั่งพรรคกล้าเดิมทั้ง นายกรณ์ และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า