การรถไฟฯ ขยายเส้นทางเดินรถสายตะวันออก เพิ่ม สถานีปลายทางถึง “สถานีอู่ตะเภา” และ "สถานีจุกเสม็ด" โดยจัดรถไฟวิ่งวันละ 2 ขบวน และเพิ่มอีก 2 ขบวนเฉพาะวันเสาร์ - วันอาทิตย์ ทั้งนี้ ก็เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยว รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอีอีซี
ความจริงแล้ว การเดินทางด้วยรถไฟในประเทศไทย มันเป็นเต็มไปด้วยความรู้สึกอันคลาสสิค และ เปี่ยมล้นในมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แบบที่ยากจะหา วิธีการใดๆ มาเทียบเคียงได้
ไม่แปลกเลย ที่หากใครเดินทางด้วยรถไฟแล้วเกิดติดอกติดใจขึ้นมา , จะลุ่มหลงในมนต์เสน่ห์ของม้าเหล็กไทย ค่อยๆไปอย่างเนิ้บช้า ตามจังหวะของรถ...เสียงหวูดที่ดังหวั่นไหว เสียงล้อบดกับราง พร้อมกับกินไก่ย่าง กินก๋วยเตี๋ยวผัด หรือ อาหารอื่นๆ ที่พ่อค้าแม่ค้า ทำขึ้นมาขายบนรถไฟ ซึ่งมีทุกๆสายทั้ง สายเหนือ ,สายใต้ ,สายอีสาน หรือ รถไฟสายตะวันออก
หากเอาจากความทรงจำ หรือการรับรู้ของสังคม , เส้นทางเดินรถไฟสายตะวันออก อาจจะไม่ได้อยู่ใน ความคิด หรือ ความทรงจำ หรือ ภาพจำเท่าไรนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็น เส้นทาง สายการเดินรถไฟ ที่สั้นกว่า สายอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ห้วงเวลาแห่งปี 2023 การเดินทางด้วยรถไฟสายตะวันออกนั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ เป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจใน EEC
โดยตอนนี้ การรถไฟฯ ได้มีการ ขยายเส้นทางเดินรถสายตะวันออก โดยเพิ่มสถานีปลายทางถึง “สถานีอู่ตะเภา” และ "สถานีจุกเสม็ด" แล้ว
โดย นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้ขานรับนโยบาย ขยายเส้นทางเดินรถไฟสายตะวันออก จากทางกระทรวงคมนาคม ที่ได้รับมอบหมายมาจาก เอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทยและ และ สุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้บริการสถานีปลายทางเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ สถานีอู่ตะเภา และสถานีจุกเสม็ด ทั้งนี้ก็เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน รับการขยายตัวทางการท่องเที่ยว และการเติบโตในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี EEC)
ในการขยายเส้นทางสายตะวันออก จะมีการเพิ่มสถานีปลายทาง จากเดิมสิ้นสุดที่สถานีบ้านพลูตาหลวง ไปยังสถานีอู่ตะเภา และสถานีจุกเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
โดยมีขบวนรถให้บริการทุกวัน วันละ 2 ขบวน และเพิ่มอีก 2 ขบวนเฉพาะวันเสาร์ - วันอาทิตย์ มีรายละเอียดดังนี้
- เที่ยวไป ขบวนรถธรรมดาที่ 283 กรุงเทพ (หัวลำโพง) – จุกเสม็ด ออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 06.55 น. ถึงสถานีอู่ตะเภา เวลา 11.32 น. ถึงสถานีจุกเสม็ด เวลา 11.45 น.
- เที่ยวกลับ ขบวนรถธรรมดาที่ 284 จุกเสม็ด – กรุงเทพ (หัวลำโพง) ออกจากสถานี
จุกเสม็ด เวลา 13.05 น. ออกจากสถานีอู่ตะเภา 13.17 น. ถึงสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 18.15 น.
- เที่ยวไป ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 997 กรุงเทพ (หัวลำโพง) – จุกเสม็ด ออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 06.45 น. ถึงสถานีอู่ตะเภา 09.57 น. ถึงสถานีจุกเสม็ด เวลา 10.10 น.
- เที่ยวกลับ ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 998 จุกเสม็ด - กรุงเทพ (หัวลำโพง) ออกจากสถานี
จุกเสม็ด เวลา 15.30 น. ออกจากสถานีอู่ตะเภา 15.43 น. ถึงสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 18.55 น.
เอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย แสดงทัศนะความคิดเห็นว่า การเปิดให้บริการสถานีอู่ตะเภา” และ "สถานีจุกเสม็ด" เพิ่มอีกนั้น จะช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางโดยรถไฟ เชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ของจังหวัดชลบุรีที่ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็ว เช่น ท่าเรือเฟอร์รี่จุกเสม็ด ท่าเรือจุกเสม็ด อู่ราชนาวีมหิดล ชุมชนแสมสาร เรือหลวงจักรีนฤเบศร หาดนางรำ หาดนางรอง
คาดจะมีผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1,000 คนต่อวัน ซึ่งนับเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสนับสนุนการลงทุน และพัฒนาโครงการพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออกในอนาคต
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับกองทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จัดรถยนต์ให้บริการรับส่งพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวฟรี จากสถานีจุกเสม็ดไปยังหาดนางรำ - นางรอง – เรือหลวงจักรีนฤเบศร โดยผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทาง สามารถตรวจสอบเส้นทางการเดินทางและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
Facebook ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
INSTAGRAM SRT OFFICIAL
Twitter SRT OFFICIAL @PR_SRT
ท่องเที่ยวด้วยรถไฟไทย...อาจจะได้ฟีลลิ่งที่ไม่เหมือนใคร และดูจะเป็นตัวเลือกในการเดินทางอีกหนึ่งตัวเลือก , ได้ท่องเที่ยวตามที่อยากไป แถมได้เปลี่ยนบรรยากาศอีกด้วย...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง