หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า ในปี 2022 ทางการสหรัฐอเมริกาได้ทำการยึดปืน 1,150 กระบอกจากนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาทั่วประเทศ โดยค่าเฉลี่ยคือยึด 6 กระบอกต่อ 1 วัน
การสืบสวนยังเผยด้วยว่า เด็กนักเรียน 1 ใน 47 คนของทุกโรงเรียน จะพกปืนอย่างน้อยหนึ่งกระบอกมาโรงเรียนด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป โดยสถิตินี้อาจดูน่าตกใจ แต่นี่เป็นเพียงการเก็บข้อมูลจากที่ปรากฏเป็นข่าวเท่านั้น เพราะจำนวนเด็กที่พกปืนไปโรงเรียนที่แท้จริงยังมีอีกมาก แต่ไม่ได้เป็นข่าวทุกกรณี ซึ่งจากการสำรวจโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา 51 แห่งในปี 2022 พบว่า มีเด็กพกปืนอีกกว่า 58% ที่ไม่ได้ถูกรายงานสู่สาธารณชน
นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า ภายในระยะเวลา 5 ปีที่โควิด 19 ระบาดอย่างรุนแรงนั้น ได้ส่งผลให้นักเรียนมีปัญหาด้านพฤติกรรมอย่างหนัก โดยจากการสำรวจโรงเรียน 47 แห่งตลอดช่วงที่มีโรคระบาด พบว่ามีเด็กพกปืนมาโรงเรียนเพิ่มขึ้นถึง 79 % จาก จำนวนปืนที่เพิ่มขึ้น นำไปสู่โอกาสการเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยยึดปืนจากวัยรุ่นเหล่านี้กล่าวว่า พวกเขาซ่อนปืนได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าหนังสือ ล็อคเกอร์ ถังขยะ ห้องน้ำ รถยนต์ กระเป๋าเงิน ไม่เว้นแม้แต่กระเบื้องเพดานห้องน้ำ โดยวัยรุ่นที่ถูกจับได้ มักจะอ้างว่าบังเอิญเผลอหยิบมา เอามาโชว์เพื่อน ไปจนถึงสารภาพว่า เอามายิงใส่เพื่อนร่วมชั้น
ทั้งนี้ เด็กวัยรุ่นที่มีแนวโน้มที่จะพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ หรือนำปืนเข้ามาในโรงเรียน มักมีปัญหาความกับสังคมที่พวกเขาอยู่ เช่นถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกเหยียดหยาม และไม่มีใครให้พูดคุยด้วย นอกจากนี้การสูญเสียสมาชิกในครอบครัวจากโรคระบาด หรือไม่ได้ออกไปเพราะการล็อกดาวน์ ก็อาจเพิ่มโอกาสให้พวกเขาเลือกระบายความเจ็บปวดในใจด้วยความรุนแรงได้
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ กำลังพยายามอย่างหนัก เพื่อทำให้สถาบันการศึกษาเป็นเขตปลอดภัย แต่เมื่อปืนในสหรัฐฯ หาได้ง่าย ความปลอดภัย 100 % ภายในรั้วสถานศึกษาก็ยังคงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากอยู่ดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง