อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ส่วนผสม ‘ทักษิณ-พจมาน’ จากเด็กที่เคยฝึกงานแมคโดนัลด์ ฝ่าดราม่า ข้อสอบรั่ว สมัยเข้ามหาวิทยาลัย สู่การว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ และน่าจะเป็น ลงมาคุมเกมเองของ ชินวัตร อีกครั้ง เพื่อให้ พรรคเพื่อไทย กลับมายิ่งใหญ่
อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ส่วนผสม ‘ทักษิณ-พจมาน’ จากเด็กที่เคยฝึกงานแมคโดนัลด์ ฝ่าดราม่า ข้อสอบรั่ว สมัยเข้ามหาวิทยาลัย สู่การว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ และน่าจะเป็น ลงมาคุมเกมเองของ ชินวัตร อีกครั้ง เพื่อให้ พรรคเพื่อไทย กลับมายิ่งใหญ่ หลังจากพลาดเป้าแลนด์สไลด์ หลังการเลือกตั้ง 2566 แต่สุดท้ายก็ยังได้จัดตั้งรัฐบาล
อุ๊งอิ๊ง -แพทองธาร ชินวัตร เธอคือบุตรสาวคนสุดท้องของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ กับ ทักษิณ ชินวัตร และเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองเต็มตัวในช่วงการเลือกตั้ง 2566 โดยเธอเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย และในการประชุม วันที่ 27 ต.ค. 2566 จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรค และคาดว่า แพทองธาร จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเธอเองก็ขอให้ทุกท่านมากันให้ครบ และเธอมองว่า อยากจะพูดถึงเรื่องความเปลี่ยนแปลงภายในพรรคด้วย
"เราเรียนรู้อะไรมากมายจากการเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมา ระหว่างที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา มา 2 เดือนแล้ว สร้างผลงานมากมาย เรามีแผนจะปรับเปลี่ยนพรรคเพื่อไทยให้มีข้อมูลเพิ่มขึ้น และเป็นพรรคที่พร้อมจะมีองค์กรแห่งการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น"
นี่คือ การส่งสัญญาณ ให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย แสวงหาความรู้อยู่เรื่อยๆ ค้นหาสิ่งใหม่ๆ ในทุกด้านทุกมุม ทั้งด้านที่ถนัดและไม่ถนัด ในโอกาสที่พรรค เพื่อไทยเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล
ใครและใครในประเทศไทย รู้กันอยู่แล้วว่า พรรคเพื่อไทย ขึ้นชื่อว่าเป็นพรรคการเมืองของครอบครัวชินวัตร แต่ถ้ามองย้อนกลับไปจะพบว่า การยุบพรรคที่เกิดขึ้นถึงสองครั้งทำให้พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีหัวหน้าพรรคที่เป็นตัวจริงเสียงจริงเสียที
เพราะนักการเมืองของเพื่อไทยนั้น ที่สลับหน้ากันเป็นหัวหน้าพรรคนั้นล้วนแล้วต่างไม่ค่อยมีปากเสียงในพรรคมากเท่าใดนัก มองจากดวงจันทร์ ลงมาก็เห็นว่า หัวหน้าพรรคที่ผ่านมา เป็นเพียง นอมินี คนหนึ่งของ ทักษิณ ชินวัตร (ที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มี บัณจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ , สุชาติ ธาดาธำรงเวช, ยงยุทธ วิชัยดิษฐ , จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ, วิโรจน์ เปาอินทร์ , สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และ ชลน่าน ศรีแก้ว)
ณ เข็มนาฬิกา ปัจจุบัน แพทองธาร อยู่ในวัย 37 ปี เป็นคุณแม่ลูกสอง หลายคนเรียกขานเธอเป็นกันเองว่า อุ๊งอิ๊ง
แต่จริงๆ แล้ว เธอชื่อเล่นอย่างเป็นทางการต้องเรียกว่า "อิ๊งค์" เฉยๆ ซึ่งเจ้าตัวเคยเล่าไว้ในหนังสือ คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อ บางส่วนว่า "อิ๊งชื่ออิ๊งนะคะ แต่ทุกคนมักจะเรียก อุ๊งอิ๊ง หรือไม่ก็อุ๋งอิ๋ง แต่สุดท้ายก็มาจบที่ "อุ๊งอิ๊ง"
ถ้าใครที่เติบโตมาจากยุค 1990s รอยต่อสู่ยุคมิลเลเนียม คงจะพอจดจำกันได้ ในช่วงปี 2004 หรือ ปี 2547 นายกฯ ทักษิณ กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นทางการเมืองและเป็นผู้นำรัฐบาลจากการเลือกตั้งที่มีเสถียรภาพเข้มแข็งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
น้องอุ๊งอิ๊ง ลูกสาวคนที่เวลานั้นมีอายุเพียง 18 ปี ได้ไปฝึกงานเป็นพนักงานของร้านแมคโดนัลด์ สาขาสยามสแควร์ ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งทักษิณ นายกฯ เวลานั้น ก็รู้มุมกล้อง รู้ Agenda อยู่แล้ว เดินทางไปซื้ออาหารที่ร้านนั้นด้วยตัวเอง พร้อมกับบอกถึงสาเหตุที่ลูกสาวมหาเศรษฐีคนสุดท้องมาฝึกงานร้านฟาสต์ฟู้ดรับค่าตอบแทนชั่วโมงละ 23.75 บาท ตอนนั้น โดยบอกว่าอยากให้ได้ชั่วโมงประสบการณ์ อยากให้มาทำงานกับคนอื่นด้วย ซึ่งตัวเองก็เคยทำงานในลักษณะนี้มาก่อนเช่นกันสมัยเรียนอยู่ต่างประเทศ
และในช่วง ก้าวแรกของการเป็นนิสิตจุฬาฯ ในปี 2547 เริ่มมีข่าวออกมาว่ามีกระบวนการทำข้อสอบรั่ว เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับอุุ๊งอิ๊ง เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดถึงทำคะแนนสอบรอบ 2 ได้สูงถึง 286.5 คะแนน ทั้งที่ในการสอบเอนทรานซ์รอบแรกทำคะแนนรวมได้เพียง 184.25 คะแนนเท่านั้น ส่งผลให้ อดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการขณะนั้น ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่อาจหาข้อสรุป และแพทองธารก็ได้เป็นนิสิตจุฬาฯ อย่างเต็มภาคภูมิ
จากนั้น เธอก็ ถูกกล่าวหาว่าเธอ ทุจริตในการสอบ โดยใช้อำนาจของพ่อ หรือที่คนในยุคหลังๆ เรียกว่า พี่โทนี่ นี่แหละ , จนต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่สุดท้ายก็หาข้อสรุปไม่ได้ว่ามีข้อสอบรั่วจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แพรทองธารก็ไม่ได้เข้าคณะนิเทศศาสตร์อย่างที่ฝัน เนื่องจากคณะยืนยันให้เงื่อนไขเดิม ทำให้เธอเลือกเรียนคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แทน โดยในประเด็นนี้ถูกหยิบยกมาโจมตีอุ๊งอิ๊ง แพรทองธารอีกครั้ง ในช่วงการเลือกตั้ง 2566 ซึ่งเธอเองได้ออกมาชี้แจงประเด็นดราม่านี้ ระบุว่าเธออ่านหนังสือและเรียนพิเศษอย่างหนักเหมือนกับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ
“จุฬาฯ เส้นเข้าได้ด้วยหรอคะ ? คำถามบางทีต้องใช้วิจารณญาณด้วยค่ะ สอบเข้าไปเองค่ะ อ่านหนังสือ เรียนพิเศษเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนเด็กที่เตรียมเอนท์ในสมัยนั้นทุกคน เรื่องนี้เก่าไปมาก เขาสอบสวนกันจบเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนแล้ว” นี่คือถ้อยคำย้ำหนักแน่น ของแพรทองธาร ยืนยันต่อประเด็นนี้ในช่วงหาเสียงการเลือกตั้ง 2566
และในช่วงที่ แพรทองธาร เป็น นิสิตจุฬาฯ ชีวิตมันก็ไม่ราบรื่น เท่าใดนัก เพราะตอนนั้น มันเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับที่มีกระแสต่อต้านการทำงานของรัฐบาลทักษิณ ก่อนกลายมากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในเวลาต่อมา
ตอนนั้น มีนักวิชาการหลายคนจากสถาบันการศึกษาชื่อดังรวมทั้งจุฬาฯ ก็เริ่มโจมตีซัดกระหน่ำ ฟาดการทำงานของรัฐบาลทักษิณอย่างชัดเจน
ความกดดันที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ครั้งหนึ่งครอบครัวชินวัตรถึงกับต้องถามว่าจะลาออกหรือไม่กันเลยทีเดียว ซึ่งตัวแพทองธารยืนยันที่จะขอใช้ชีวิตนิสิตรั้วจามจุรีตามเดิม ยังยืนหยัดได้ด้วยขาของตัวเอง
โดย แรงกดดันทางการเมือง ที่กระแทกเข้าใส่ ต่อแพรทองธารนั้น ค่อยๆ เบาบางจางหายบ เมื่อมีการจัดการเลือกตั้ง ปี 2550 ซึ่งเธอได้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ก่อนจะกลับมารับช่วงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว และแต่งงานในปี 2562 และกลายเป็นคุณแม่ลูกสอง รวมถึงเป็น หัวหน้าช็อกมินต์ ของแฟนคลับด้วย
เรื่องบทบาททางการเมือง ฉากต่อไปจากนี้ ของแพรทองธาร ชินวัตร หากมองในจากแคนดิเดตนายกฯ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และ มาจนถึงเวลานี้ ได้มีโอกาสเดินเข้าทำเนียบรัฐบาลในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
โดยมีภารกิจสำคัญ ของแพรทองธาร ชินวัตร ต่อจากนี้ คือเธอคงต้องปรับจูน พรรคเพื่อไทยที่ใช้ต้นทุนทางการเมืองไปหมดแล้วจากการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ กับ รวมไทยสร้างชาติ (พรรค 2 ลุง) ให้ทันสมัยเข้าถึงคนรุ่นใหม่ ซื้อใจคนรุ่รใหม่ให้มากขึ้น เพราะการต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ฝ่ายตรงข้ามจะไม่ใช่นักการเมืองเจเนอเรชั่นรุ่นพ่อเหมือนที่ผ่านมา แต่ คู่แข่งทางการเมืองของเพื่อไทย จะเป็นพรรคก้าวไกลเต็มไปด้วยความสดที่ครั้งหนึ่งเคยชนะพรรคเพื่อไทยมาแล้ว และหาก อุ๊งอิ๊งปรับทัพปรับทีมได้ไม่เวิร์ก เพื่อไทยก็อาจจะแพ้ เลือกตั้งอีกครั้ง