svasdssvasds

ภูมิธรรม ลั่นจะทำ รธน. เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด คาดเริ่มทำประชามติต้นปี 67

ภูมิธรรม ลั่นจะทำ รธน. เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด คาดเริ่มทำประชามติต้นปี 67

คณะกรรมการศึกษาประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ นัดแรก ตั้ง 2 อนุกรรมการ พร้อมรับฟังความเห็น-ศึกษาการทำประชามติ ตั้งกรอบ ธ.ค.ทุกอย่างแล้วเสร็จก่อนทำประชามติ ไตรมาสแรก ปี 67 มั่นใจ ไม่สะดุด ภูมิธรรม ลั่นพร้อมตอก ก้าวไกล ไม่ใช่พรรคเดียวที่น่าเชื่อถือ หลังเมินร่วม คกก.แก้ รธน.

นายภูมิธรรม เวชยชัย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการนัดแรกถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการจะทำให้กระทบความน่าเชื่อถือของคณะกรรมการชุดนี้หรือไม่ว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีหลักประกันความน่าเชื่อถือ วันนี้เราพยายามเชิญทุกฝ่ายมากที่สุดอยู่แล้ว ในคณะกรรมการก็มีตัวแทนจากพรรคฝ่ายค้านเข้าร่วมจากทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย ยืนยันว่าความน่าเชื่อถือไม่ได้อยู่ที่พรรคไหนเข้าหรือไม่เข้า แต่ความน่าเชื่อถือคือบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมดที่เราได้เชิญมา 

ภูมิธรรม ลั่นจะทำ รธน. เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด คาดเริ่มทำประชามติต้นปี 67

เมื่อถามว่าการที่พรรคก้าวไกลไม่เข้าร่วม เพราะเป็นเกมหวังดิสเครดิต ให้คณะกรรมการไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ไม่อยากคิดเช่นนั้น ตนเคารพในสิทธิของแต่ละฝ่ายที่อยากจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วม แต่รัฐบาลแสดงความจริงใจดึงทุกฝ่ายเข้ามา และทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส 

เมื่อถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าต้องสำเร็จภายใน 4 ปีที่รัฐบาลมีวาระอยู่ และตั้งเป้าว่าต้องทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น 

เมื่อถามว่ามีความคาดหวังให้รัฐธรรมนูญชุดนี้ได้รับการยอมรับเหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 จะเป็นไปได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่ารัฐธรรมนูญที่จะได้มา จะเป็นรัฐธรรมนูญที่สอดรับกับสถานการปกติ และเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดโดยสอดคล้องกับความคิดเห็นที่ประชาชนปราถนา และขอย้ำว่าการดำเนินการรอบนี้จะไม่แตะหมดวหนึ่ง หมวดสอง และพระราชอำนาจที่มีอยู่ในมาตราต่างๆ ซึ่งถือเป็นความปราถนาของคนส่วนใหญ่ในสังคม และไม่คิดว่ามีส่วนไหนของสังคมที่มีปัญหากับหลักการข้อนี้

ภูมิธรรม ลั่นจะทำ รธน. เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด คาดเริ่มทำประชามติต้นปี 67

ด้าน นายนิกร จำนง เปิดเผย ภายหลังการประชุม ย้ำว่า คณะกรรมการชุดนี้ เกิดขึ้นตามนโยบายเร่งด่วน ที่รัฐบาลได้แถลงไว้กับรัฐสภา ในประเด็กการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ แก้ไข มาตรา ที่เกี่ยวข้องกับ หมวด 1 และหมวด 2 พร้อมยืนยันว่ากรรมการชุดนี้ไม่ได้มีหน้าที่แก้รัฐธรรมนูญ แต่ศึกษาแนวทางการทำประชามติ เบื้องต้น มีความเห็น 2 ทาง ว่า จะทำ 2 ครั้งหรือ 3 ครั้ง  ขณะเดียวกัน กรรมการจะคิดเองไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการตีความของศาลรัฐธรรมนูญด้วย และต้องทำให้รอบคอบที่สุด แต่ก่อนอื่น จะมีการศึกษาร่างรัฐธรรมนูญที่ค้างอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา รวมทั้ง รัฐธรรมนูญ ปี 2540 และ 2550 

 

ขณะเดียวกัน ศึกษาแนวทางการได้มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องมีประชาชนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง 

โดยตั้งคณะอนุกรรมการ 2 คณะ เพื่อศึกษาแนวทางการทำประชามติ คือ คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น และคณะอนุกรรมการศึกษาว่าจะต้องทำประชามติกี่ครั้ง ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ โดยพิจารณาบนพื้นฐานของงบประมาณ และสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งภายใน 2 -3 วันนี้ จะอนุมัติตั้งคณะอนุกรรมการได้ ส่วนการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ จะนัดประชุม เดือนละ 1 ครั้ง ส่วน อนุกรรมการก็ให้นัดประชุมได้ตามภาระกิจ 

ด้านประธานคณะกรรมการฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย ยืนยันว่า รัฐบาลมุ่งมั่นว่าจะทำให้รัฐธรรมนูญ เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด และเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เสียเวลา และต้องมีการศึกษารายละเอียดเรื่องข้อกฎหมายและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีมาโดยจะให้ดำเนินการศึกษาตามรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองที่ค้างอยู่ในรัฐสภาและรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาในปี 2540 และ 2550 ที่เป็นกรอบที่เคยทำมาอยู่เดิมด้วย

ซึ่งหัวใจสำคัญคือต้องคำนึงว่าร่างรัฐธรรมนูญออกไปแล้วจะต้องผ่านความเห็นชอบ ตรงตามความต้องการของประชาชน  และเป็นที่ยอมรับ หลังจากนี้ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเริ่มดำเนินการได้ทันที และ ช่วงเดือน พ.ย. จะเรียกมาติดตามผลการทำงานอีกครั้ง และภายในเดือนธ.ค. ปีนี้ ทุกอย่างต้องจบและเริ่มทำประชามติได้  โดยย้ำว่า การทำรัฐธรรมนูญพร้อมกฏหมายลูกต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 4 ปีตามวาระของรัฐบาล 

ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเริ่มทำประชามติได้ในไตรมาสแรก ของปี 2567 และยืนยันว่า จะทำอย่างรอบคอบ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมากที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

related