"กรณ์" เตือนรัฐแจกเงินดิจิทัล อย่าใช้เงินพรํ่าเพรื่อ ฐานะการคลังกำลังแย่

“กรณ์ จาติกวณิช” ชำแหละงบประมาณประเทศ ชี้ฐานะการคลังย่ำแย่ ค้านรัฐบาลแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้เงินพรํ่าเพรื่อไม่คุ้มค่า

จากกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวงการคลัง ว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะถดถอยประชาชนเดือดร้อน ต้องได้รับการกระตุ้นจากรัฐบาล หนึ่งในโครงการเร่งด่วน คือ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยยืนยันว่าการดำเนินโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะไม่มีการกู้เงิน และมั่นใจว่าทำได้แน่นอน

ฝุ่นตลบแถลงคัดค้านนโยบายแจกเงินดิจิทัล

ล่าสุดนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าโพสต์เฟซบุ๊ก กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij ระบุว่า ฝุ่นตลบจากการลงนามแถลงคัดค้านนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยนักเศรษฐศาสตร์ 99 คน

เนื่องจากผมเองก็ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้อยู่แต่เดิม ก็เลยติดตามอ่านเหตุผลของกลุ่มนักวิชาการว่าเขามีความกังวลในประเด็นใด

มาสะดุดเอาตรงตัวเลขรายได้ของรัฐเทียบกับ GDP ที่ดูตํ่ามากเกินจริงที่ 13.7%

ซึ่งตัวเลขนี้มีความสำคัญอย่างมาก เป็นตัวบ่งชี้ว่ารัฐมีกำลังทางการคลังมากน้อยแค่ไหนในการดูแลประชาชนและพัฒนาบ้านเมือง

ผมขอเปรียบเทียบให้เห็นว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว 38 ประเทศในกลุ่ม OECD เฉลี่ยรายได้ของเขา เทียบกับ GDP จะอยู่ที่ประมาณ 34%

ส่วนประเทศที่เป็นรัฐสวัสดิการอย่างสมบูรณ์ที่สุดในแถบ Scandinavia จะมีสัดส่วนรายได้ภาษีเทียบ GDP อยู่ระดับ 45-50%

"กรณ์" ค้านแจกเงินดิจิทัล ชี้รัฐบาลใช้เงินพรํ่าเพรื่อ ฐานะการคลังกำลังแย่

ที่ผ่านมารัฐบาลกู้เยอะมาก แต่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ขึ้น

หากเราอยากให้รัฐดูแลเรามากขึ้น รัฐก็ต้องมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

ซึ่งผมมีความทรงจำว่าของไทยเราน่าจะอยู่ที่ 16-17% เลยข้องใจตัวเลขที่ปรากฏในแถลงการณ์

แต่มีนักเศรษฐศาสตร์ที่ผมติดตามอยู่ทักมาให้เช็กดูกับตัวเลขกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ผมเลยพบว่าตัวเลขของกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ 99 ท่านนี่น่าจะถูกต้องแล้ว

คือ รายได้รัฐปี 2566 อยู่ที่ 2.49 ล้านล้านบาท เทียบกับ GDP ที่ 18.17 ล้านล้านบาท เท่ากับ 13.7% จริงๆ !!

เป็นเทรนด์ที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะลดลงมาทุกปี จากสมัย 10 ปีก่อนที่ 16-17%