ไทยกำลังอยู่ในยุคดอกเบี้ยขาขึ้น ! เพราะกนง.เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย นั่นคือ ความทุกข์ของคนผ่อนบ้าน ผ่อนรถ แต่…ดอกเบี้ยเงินฝากปีหนึ่งๆได้น้อยนิด เพราะคนไทยมีเงินฝากน้อย
ข่าวร้ายสำหรับคนที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต หรือผ่อนสินค้าอื่นๆ ในยุคที่ดอกเบี้ยขาขึ้น แม้ว่าจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่เป็นไปตามคาดการณ์ก็ตาม โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.25 เป็นร้อยละ 2.50 ต่อปี โดยมีผลทันที
พามาฟังเหตุผลว่าทำไม ? ถึงต้องขึ้นดอกเบี้ย โดยนายปิติ ศิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน กล่าวว่า กนง. จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรองรับความเสี่ยงเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อในระยะต่อไปที่อาจปรับตัวสูงขึ้นจากนโยบายของภาครัฐ และรองรับผลกระทบจากต้นทุนราคาอาหารที่อาจปรับขึ้นหากปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ กนง.ยังมีการปรับลดคาดการณ์จีดีพีทั้งปีลดลงจากร้อยละ 3.6 เหลือร้อยละ 2.8 เนื่องจากการส่งออก และท่องเที่ยวฟื้นตัวช้ากว่าคาด การฟื้นตัวรายได้ยังช้าส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้เอสเอ็มอี และครัวเรือน ในกลุ่มเปราะบาง
แน่นอนว่าดอกเบี้ยขาขึ้น ธุรกิจกลุ่มแบงก์ และสถาบันการเงิน อาจมีกำไรจากผลประกอบการมากขึ้น แต่ในทางกลับกันอาจทำให้คนขอกู้สินเชื่อใหม่ลดลง เนื่องจากกังวลเรื่องดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และในส่วนของคนที่ยังผ่อนรถ ผ่อนบ้าน หรือผ่อนสินค้าอื่นๆ หรือกู้เงินไปทำธุรกิจเดิมที่กู้อยู่แล้ว แต่ยังผ่อนจ่ายกับสถาบันการเงิน ก็จะเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ
เกร็ดความรู้ดอกเบี้ยขึ้น คนผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ต้องเผชิญอะไร ?
สำหรับคนที่ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ต้องรู้ คือ หากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของประเทศ เช่น MRR อัตราดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ต้องผ่อนก็จะลอยตัว และทำให้ยอดผ่อนชำระที่ผ่อนต่อเดือนก็จะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ส่งผลให้ยอดผ่อนต่องวดสูงขึ้นด้วยเช่นกัน หรือในกรณีที่ยอดผ่อนชำระอาจจะเท่าเดิม แต่สินเชื่อที่มีเป็นสินเชื่อประเภทลดต้นลดดอก และไม่กำหนดระยะเวลาผ่อนชำระ ก็จะได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น กล่าวคือ เงินที่ผ่อนชำระนั้นถูกจ่ายเป็นดอกเบี้ยมากขึ้น และเป็นส่วนของเงินต้นลดน้อยลง จึงทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระถูกยืดออกไปอีก
ดอกเบี้ยขาขึ้นแบงก์ไหนกำไรงาม !
มาดูทางฟากของเงินฝาก แน่นอนว่าการที่ดอกเบี้ยขาขึ้น จะส่งผลดีต่อคนที่มีเงินฝากในแบงก์จำนวนมาก เพราะจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราใหม่ แต่…จากกการสำรวจพบว่าคนไทยส่วนใหญ่มีเงินฝากไม่มาก ยกเว้นคนรวยเท่านั้นที่มีเงินอยู่ในธนาคารจำนวนมากก็จะได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นนี้ไป โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยข้อมูล เงินฝากคนไทยของธนาคารพาณิชย์ โดยพบว่า ณ สิ้นปี 2565 พบว่าไทยมีเงินรับฝากของธนาคารพาณิชย์จำนวน 16,897,574 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นวงเงินที่ไม่มากนัก
อย่างไรก็ตามหลังจากดอกเบี้ยขึ้น วันนี้จะพามาดูผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ งวดไตรมาส 2/2566 ว่าแบงก์ไหนกำไรดี รับดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งภาพรวมธนาคารพาณิชย์ มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 61,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.2% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 52,604 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 2.2% จากไตรมาสก่อน มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 60,281 ล้านบาท โดยหากสำรวจธนาคารหลักๆ มีดังนี้
ภาคธุรกิจเอกชน ชี้ อัตราต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
พามาฟังความคิดเห็นจากนักธุรกิจ ภาคเอกชน อย่าง นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ไม่มีความกังวลหลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 2.50% เพราะยังเป็นอัตราต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน และเป็นการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของไทย หลังช่วงที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน รถยนต์ หรือสินเชื่ออื่นๆ ต่างได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น แต่เงินฝากอาจได้ประโยชน์ ความแตกต่างกันคือ แค่...วันนี้เราอยู่ในสถานะไหน !
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เทียบดอกเบี้ยเงินฝากธรรมดา-ดิจิทัล เมื่อดอกเบี้ยเงินฝากไม่สวยหรูนัก
แนวโน้มราคาทองคำ หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% แนะหาจังหวะซื้อเมื่ออ่อนตัว
รู้จัก เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 13 เดือน ธ.ออมสิน รับดอกเบี้ยสูงสุด 4.5% ต่อปี